xs
xsm
sm
md
lg

น่าสงสาร “ปู” สร้างภาพรายวัน ลงใต้แค่เอาใจป๋า!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ไม่รู้ว่าเป็นเกมต่อเนื่องจากวันก่อนหรือเปล่า วันที่ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี นำทีมรองนายกรัฐมนตรี (แค่ 3 คน) เข้าพบ “ป๋าเปรม” พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ปรานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ที่บ้านสี่เสาเทเวศร์เมื่อวันก่อน เพราะถัดมาเมื่อปลายสัปดาห์ เธอ ก็นำคณะรองนายกรัฐมนตรีชุดเดิม คือ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ยงยุทธ วิชัยดิษฐ และ กิตติรัตน์ ณ ระนอง ลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ แม้ในรายละเอียดจะมีบุคคลสำคัญอื่นๆเข้าร่วมเพิ่มเติม คือ ผู้บัญชาการทหารบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร่วมไปด้วยในฐานะกลไกสำคัญในพื้นที่

แม้ว่าในความเป็นจริงแล้วการเดินทางลงพื้นที่ชายแดนใต้ดังกล่าวของ นายกรัฐมนตรี เป็นเพียงแค่อยู่ในพื้นที่ทหารนั่นคืออยู่แต่เฉพาะในค่ายสิรินธร ซึ่งเป็นศูนย์บัญชาการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 (กอ.รมน.) ส่วนหน้า ที่อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี และเป็นเพียงการลงพื้นที่รับฟังบรรยายสรุปแบบพื้นๆ ทั่วไปแบบประเดี๋ยวประด๋าว จากนั้นก็นั่งเครื่องบินกลับในตอนเย็นวันเดียวกัน

ให้สัมภาษณ์พอจับใจความได้เช่นเคย คือ “บูรณาการ” แต่คราวนี้เพิ่มเข้ามาอีกคำคือ “เวิร์กชอป”

อย่างไรก็ดี หากกล่าวกันด้วยความเป็นธรรมก็ต้องบอกว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มีการทำงานแก้ปัญหาในพื้นที่อย่างเป็นเอกภาพ ระหว่างกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) โดยให้รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา เป็นประธาน รวมถึงการมีคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่งโดยตรงเพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างใกล้ชิด ขณะเดียวกันก็ยังได้เน้นย้ำถึงยุทธศาสตร์พระราชทานคือ “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” อีกครั้ง

มองในแง่ดีก็ต้องบอกว่าเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหามากขึ้น หลังจากทุกอย่างเริ่มเสื่อมทรามลงเรื่อยๆ การก่อเหตุรุนแรงของผู้ก่อการไม่สงบได้ขยายตัวเข้ามาในเมืองที่เป็นย่านเศรษฐกิจ ต่างจากเมื่อก่อนที่ที่มักเผาตู้โทรศัพท์ ทำลายเสาไฟฟ้าในสวนยาง

แต่อีกด้านหนึ่งแม้ไม่อยากขัดคอ แต่ก็ต้องย้ำกันตรงๆ ว่าในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ถือว่าสถานการณ์ชายแดนใต้ “ลุกเป็นไฟ” ขึ้นมาอีกครั้ง และทำท่าจะไร้การควบคุม หากไม่อาจหาทางป้องกันได้ดีพอ และแน่นอนว่า สถานการณ์ที่ปะทุขึ้นมาก็เหมือนเดิมคือ มี ทักษิณ ชินวัตร เข้ามาเกี่ยวข้องและอยู่เบื้องหลังเช่นเคย เพราะมีข้อมูลหลักฐานแน่ชัดว่าก่อนเกิดเหตุลอบวางระเบิดในกลางเมืองยะลา และที่กลางเมืองหาดใหญ่ เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน เกิดขึ้นหลังจากที่ ทักษิณ ดอดไปเจรจากับหัวโจกขบวนการแยกดินแดน หวังจะโชว์ผลงานให้กับตัวเองและรัฐบาลน้องสาวตัวเอง แต่ก็เช่นเคยที่ เขาไม่เคยเข้าใจวัฒนธรรมของพี่น้องชายแดนใต้ ที่มีปัญหาในเชิงประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคต้นรัตนโกสินทร์ ความละเอียดอ่อนทางวัฒนธรรมและความเชื่อ ทำให้ปัญหาที่เลวร้ายอยู่แล้วยิ่งเลวร้ายลงไปอีก

เพราะในความเป็นจริงขบวนการก่อการร้ายในพื้นที่มีอยู่หลายกลุ่ม และซับซ้อน จะใช้วิธีแบบฉาบฉวยแก้ปัญหาเหมือนกับกับการ “โชว์ออฟ” ตัดตอนง่ายๆแบบแก้ปัญหายาเสพติดไม่ได้เป็นอันขาด และการแก้ปัญหาชายแดนใต้จะใช้วิธี “แอ็กอาร์ต” ไม่ได้เช่นเดียวกัน

ที่ผ่านมาต้องยอมรับความจริงว่า รัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ละเลยปัญหาภาคใต้มาตั้งแต่ต้น อย่าว่าแต่พื้นที่ชายแดนใต้ที่ไกลปืนเที่ยงไม่ค่อยมีผลทางการเมืองเลย แค่ภาคใต้ทั่วไปก็ไม่ได้รับการเหลียวแลอยู่แล้ว เหมือนอย่างที่ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ หัวโจกคนเสื้อแดงที่มีสันดานเป็นคนใต้ก็ยังไปด่าว่า “คนใต้โง่” เพื่อประจบพี่น้องชาวอีสานและทางเหนือสาเหตุเป็นเพราะไม่เลือกพรรคเพื่อไทยเท่านั้นเอง

วกมาที่สาเหตุที่ทำให้ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต้องรีบนำคณะรองนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ชายแดนใต้อีกครั้ง ทำราวกับว่าเพิ่งตื่นขึ้นมาเห็นปัญหาอะไรปานนั้น แต่ถ้ามองย้อนกลับไปปะติดปะต่อจากคำให้สัมภาษณ์ของรองนายกรัฐมนตรี ยงยุทธ ที่เปิดเผยหลัง นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ออกมาจากบ้านสี่เสาตอนหนึ่ง ว่า พล.อ.เปรม ฝากให้ช่วยดูแลปัญหาชายแดนใต้ รวมทั้งเรื่องการอาสาสนับสนุนโครงการ “สานใจไทยสู่แดนใต้” ที่ พล.อ.เปรม กำลังดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง และต้องไม่ลืมว่า การเข้าพบดังกล่าวมาพร้อมกับข่าว การรับงานจากทักษิณมา “ขมาอำมาตย์” ซึ่งแน่นอนว่างานนี้ก็ต้องมีการเอาใจ มีการตื่นตัวให้เห็น

ทางหนึ่งแน่นอนว่าการเดินทางลงใต้ดังกล่าวของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ เป็นการสร้างภาพทางการเมือง เพื่อกลบช่องโหว่ที่ฝ่ายประชาธิปัตย์ชี้ให้เห็นถึงความ “ล้มเหลวกว่า” ให้เห็นอยู่ตลอดเวลา และสองนี่คือการเอาใจป๋าเปรม หลังจากมีข่าวไปขอความช่วยเหลือเรื่องปรองดองออกมาแล้วไม่นาน แต่ในความเป็นจริงมันก็เป็นแค่ผลงานฉาบฉวยเฉพาะหน้าเท่านั้นเอง เพราะนายกรัฐมนตรีไม่มีความเข้าใจในเรื่องยุทธศาสตร์ชายแดนใต้ ไม่รู้อะไรเลย ไม่เช่นนั้นคงไม่เรียก “จังหวัดหาดใหญ่” ออกมาหรอก

การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดูแลปัญหาแล้วให้ พล.อ.ยุทธศักดิ์ รับผิดชอบดูแล นั้น มันก็ไม่ต่างจากการให้ฝ่ายการเมืองเข้าไปกำกับดูแลเพิ่มเติม ขณะที่เมื่อพิจารณาจากท่าทีจากฝ่ายกองทัพบกยังดูเฉยเมย ซึ่งปฏิกิริยาดังกล่าวเริ่มเกิดขึ้นมาตั้งแต่ที่ นายกฯยิ่งลักษณ์ แอบไฟเขียวให้ “คนกันเอง” อย่าง เลขาฯ ศอ.บต.พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ดอดไปพบกับหัวโจกก่อการร้ายที่มาเลเซียจนปั่นป่วนมาแล้ว

ดังนั้นแม้ไม่อยากปรามาสเอาไว้ล่วงหน้าว่าการลงใต้ของ นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ที่นำคณะลงไปแบบฉาบฉวย เพียงแค่แสดงให้เห็นว่า “ลงไปแล้ว” แค่นั้นเอง การตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแก้ปัญหาอีกไม่รู้ว่าคณะที่เท่าไหร่ มันก็เหลววันยังค่ำ เพราะฝ่ายปฏิบัติการในพื้นที่ไม่ได้มีเอกภาพ และที่สำคัญในฐานะผู้อำนวยการ กอ.รมน.ของนายกรัฐมนตรี ไม่รู้เรื่อง ไม่รู้อะไรเลยมันก็ยิ่งเละ!!
กำลังโหลดความคิดเห็น