คอลัมน์ : ด้ามขวานผ่าซาก
โดย...ปิยะโชติ อินทรนิวาส
เป็นไปตามคาด “รัฐบาลปูแดงนิ่ม” ไฟเขียวให้ “ใช้เงินหลวง” ซื้อใจเหยื่อไฟใต้ได้แล้ว ตามแผน “เยียวยาประชานิยม” ที่จำใจต้องพวงเหตุการณ์ความไม่สงบบนแผ่นดินด้ามขวานเข้าไปหลังถูกวิพากษ์วิจารณ์หนัก จากเดิมตั้งใจหว่านโปรยให้แก่คนเสื้อแดงที่ยอมเอาชีวิตและเลือดเนื้อบัดพลีให้แก่นักโทษหนีคุกทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น
อังคารที่ 24 เมษายน 2555 ที่ประชุม ครม.อนุมัติในหลักการให้ใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2555 (งบกลาง) รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหาย และผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ วงเงิน 2,080 ล้านบาท โดยให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงิน
สำหรับ ศอ.บต.คือต้นเรื่องที่เสนอการเยียวยาไฟใต้ผ่านคณะกรรมการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบสืบเนื่องจากความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ก่อนที่จะชงเข้า ครม.จนมีมติอนุมัติดังกล่าว
มีข้อมูลจากภาครัฐที่น่าสนใจเกี่ยวกับเงินเยียวยาไฟใต้ 2,080 ล้านบาทคือ ให้มีผลตั้งแต่ 1 มกราคม 2547 ถึงปัจจุบัน โดยแบ่งผู้ที่จะได้รับเยียวยาเป็น 4 กลุ่ม (ข้อมูลถึง 7 เมษายน 2555) ได้แก่
กลุ่มที่ 1 ประชาชนทั่วไป เสียชีวิต 4,276 ราย บาดเจ็บ 6,058 ราย รวม 10,334 ราย ได้รับการช่วยเหลือแล้วรวม 6,506 ราย ยังไม่ทราบสาเหตุที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเยียวยา กรณีเสียชีวิต 2,208 ราย และบาดเจ็บ 1,566 ราย รวม 3,774 รายต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือ ประมาณการต้องใช้งบ 500 ล้านบาท
กลุ่มที่ 2 เจ้าหน้าที่ของรัฐ เสียชีวิต 1,056 ราย บาดเจ็บ 3,392 ราย รวม 4,448 ราย ได้รับการช่วยเหลือแล้วรวม 4,072 ราย ยังไม่ทราบสาเหตุที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือเป็นกรณีเสียชีวิต 208 ราย บาดเจ็บ 168 ราย รวม 376 ราย ประมาณการต้องใช้งบ 200 ล้านบาท
กลุ่มที่ 3 ผู้ที่ถูกกระทำโดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เป็นเหตุการณ์เฉพาะกรณี จนถึงแก่ความตาย ทุพพลภาพ หรือกรณีการบังคับบุคคลให้สูญหาย เบื้องต้นให้ช่วยเหลือเป็นเงิน 5 แสนบาท และหากคณะกรรมการเยียวยาฯ เห็นสมควรว่าเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนจะให้ช่วยเหลือเพิ่มเติมได้อีก แต่ไม่เกิน 7 ล้านบาท ได้แก่ กรณีเหตุการณ์เมื่อ 28 เมษายน 2547 ที่เกิดขึ้นที่มัสยิดกรือเซะ อ.เมือง อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา และ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ผู้เสียชีวิตรวม 111 ราย บาดเจ็บ 28 ราย กรณีเหตุการณ์ตากใบเมื่อ 25 ตุลาคม 2547 ผู้เสียชีวิต 85 ราย บาดเจ็บ 46 ราย ถูกดำเนินคดีและถอนฟ้องแล้ว 58 ราย ถูกควบคุมตัวโดยไม่ถูกดำเนินคดี 1,176 ราย รวมทั้งกรณีการบังคับให้สูญหายประมาณ 30 ราย ประมาณการต้องใช้งบ 1,000 ล้านบาท
กลุ่มที่ 4 กรณีถูกควบคุมตัว หรือถูกคุมขัง หรือถูกดำเนินคดีเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย แต่ต่อมาปรากฏหลักฐานว่ ามิได้เป็นผู้กระทำผิด ประมาณการต้องใช้งบ 300 ล้านบาท
ส่วนวงเงินที่อีก 80 ล้านบาท ใช้เป็นงบประมาณดำเนินการของคณะกรรมการเยียวยาฯ
ความจริงไม่น่าแปลกใจอะไรที่ ศอ.บต.ขับเคลื่อนเรื่องนี้จนเป็นผล เพราะในเวลานี้ก็อยู่ภายใต้ปีกโอบของระบอบทักษิณ ต้องการสร้างความพึงพอให้คนใต้สลัดพรรคประชาธิปัตย์หันไปเทใจให้แก่พรรคเพื่อไทยบ้าง หรืออย่างน้อยก็ทำให้แผนใช้เงินหลวงฟาดหัวเสื้อแดงให้จงรักภักดีต่อไปเรื่อยๆ ดูดีขึ้น
อีกทั้งเป็นที่น่าสังเกตว่า ครม.ไฟเขียวให้เยียวยาไฟใต้ได้ครั้งนี้ ใช่ว่าจะมีการต่อท่อให้เม็ดเงินไหลได้ทันที เป็นเพียงอนุมัติในกรอบใหญ่ ส่วนในรายละเอียด ศอ.บต. จังหวัด รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องไปลงลึกกันอีกที
เวลานี้ก็มีการเตรียมเรื่องชงเข้า ครม.ให้เยียวยาไฟใต้ใน 2 เหตุการณ์เพื่อซื้อใจเป็นกรณีเร่งด่วนคือ เหตุการณ์เมื่อ 31 มีนาคม 2555 คาร์บอมบ์ที่ศูนย์การค้าและโรงแรมลี การ์เดนส์ พลาซ่า กลางเมืองหาดใหญ่ 1 จุด คาร์บอมบ์บนถนนรวมมิตรกลางเมืองยะลา 2 จุด และจักรบานยนต์บอมบ์หน้า สภ.แม่ลาน จ.ปัตตานี 1 จุด กับเหตุการณ์เมื่อ 29 มกราคม 2555 ทหารพรานยิงชาวบ้านเสียชีวิต 4 ศพและบาดเจ็บ 5 รายที่ ต.ปุโละปุโย อ.หนองจิก จ.ปัตตานี
ว่ากันว่าที่ต้องการเยียวยา 2 เหตุการณ์นี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นเหตุสะเทือนขวัญและเป็นข่าวครึกโครมที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่นาน จึงยังอยู่ในความทรงจำของผู้คน จึงเป็นช่องทางที่จะเรียกคะแนนนิยมได้อักโข และใช้อ้างเป็นผลงานชิ้นโบแดงได้อีกยาว
ถึงตรงนี้ อยากจะเรียนญาติพี่น้องเหยื่อไฟใต้ระลอกใหม่ที่ไม้ขีดก้านแรกถูกจุดขึ้นจากน้ำมือของ นช.ทักษิณ ชินวัตร อันมีจุดเริ่มที่เหตุการณ์ปล้นปืนค่ายทหารที่นราธิวาสเมื่อ 4 มกราคม 2547 ผมไม่อยากให้วาดหวังมากนักกับการจะได้รับเงินเยียวยาจำนวนมาก หรือมียอดสูงสุดถึง 7.75 ล้านบาทแบบที่คนเสื้อแดงได้รับ เพราะหากไม่เป็นไปตามที่หวังไว้ ความเสียใจ หรือความรู้สึกถูกกดทับจะหวนกลับมาทำร้ายเรารุนแรงเอาได้
เนื่องจากมีข้อมูลยืนยันว่า เงินที่เหยื่อไฟใต้อาจได้รับการเจียดมาให้ คือก้อนเดียวกับเงินหลวงที่จะใช้เยียวยาพวกเสื้อแดง ขณะที่หลักเกณฑ์การจ่ายให้คนเสื้อแดงแม้ดูเหมือนถูกกำหนดไว้ละเอียดแล้ว แต่ในความเป็นจริงยังเป็นอะไรที่มั่วซั่วอยู่ไม่น้อย แถมมีคนจองกฐินฟ้องรัฐบาลไว้แล้วหากมีการจ่ายจริง
ในส่วนการเยียวยาไฟใต้ หลักเกณฑ์การจ่ายก็ยังมากมายไปด้วยความสับสนเช่นกัน หากพิจารณาให้ดีจะพบว่า ยังไม่มีข้อสรุปอย่างโปร่งใส และเป็นธรรมพอที่จะชี้ว่า เหตุการณ์ไหนบ้างที่ควรจะได้รับการเยียวยา ด้วยเหตุผลอะไร ทำไม อย่างไร มิพักต้องพูดถึงการแบ่งปันระหว่างญาติของเหยื่อ เช่น หากสามีเสียชีวิตก็มีฝ่ายพ่อแม่สามี กับฝ่ายภรรยา รวมถึงบุตรด้วย หรือกรณีมีภรรยาหลายคนจะกระจายผลประโยชน์กันกันอย่างไร จนวิตกกันว่าจะนำไปสู่การทำให้สังคมแตกแยกอีกระลอกครั้งใหญ่
เอาแค่เหตุการณ์กรือแซะก็น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี เพราะมีองค์ประกอบมากมายจนยากที่จะตัดสินใจอะไรได้ง่ายๆ เกิดจากแนวร่วมขบวนการแบ่งแยกดินแดนหลายร้อยคนบุกเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่รัฐตามป้อม หรือจุดตรวจกระจายไปทั้ง 3 จังหวัด เริ่มตั้งแต่ก่อนตะวันขึ้น แล้วไปจบลงที่มัสยิดกรือแซะช่วงค่ำ
แน่นอนคนทั่วไปอาจยังติดตาภาพฉากสุดท้ายที่เจ้าหน้าที่รัฐโจมตีเข้าไปในมัสยิดกรือแซะ ทั้งที่ได้ปิดล้อมแบบทอดเวลายาวนาน จนเชื่อกันว่าน่าจะกดดันให้แนวร่วมผู้ก่อการมอบตัวได้ หรือภาพที่เล่าขานถึงการตายของนักฟุตบอลทั้งทีมที่ อ.สะบ้าย้อย แต่แท้จริงผู้เสียชีวิตล้วนกระทำต่อเจ้าหน้าที่รัฐมาก่อน และศพจำนวนมากของวันนั้นก็ชัดเจนว่าเสียชีวิตระหว่างการใช้อาวุธบุกเข้าโจมตีเจ้าหน้าที่ในช่วงเช้า
แล้วอย่างนี้จะว่าเจ้าหน้าที่รัฐกระทำเกินกว่าเหตุได้เต็มปากเต็มคำละหรือ หากจะต้องจ่ายให้ผู้สูญเสียในเหตุการณ์มัสยิดกรืแซะแล้ว 111 ศพจะจ่ายให้เท่ากันหรือไม่ หรือจะเอาอะไรเป็นมาตรวัดว่าญาติแต่ละศพควรจะได้รับไม่เท่ากันเพราะเหตุใด
นอกจากนี้ ยังมีเหตุการณ์อื่นๆ ที่น่าจะต้องขบคิดกันอีกมาก อย่างอดีตทหารพรานกราดยิงเข้าไปในมัสยิดไอร์ปาแย อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จนมีคนตาย 10 ศพ ซึ่งถือเป็นการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐไม่ได้ และก็ไม่ใช่ฝีมือของขบวนการด้วย อย่างนี้จะเยียวยากันหรือไม่ อย่างไร หรือเจ้าหน้าที่รัฐที่เสียชีวิตจากฝีมือฝ่ายตรงข้ามหลายพันศพ ชีวิตเหล่านั้นไม่สมควรจะเยียวยาเท่าเทียมกับประชาชนที่ถูกเจ้าหน้าที่รับกระทำกระนั้นหรือ
อีกทั้งมีเหตุการณ์จำนวนมากที่ยังไม่ยืนยันว่าเป็นผลพวงจากเหตุไฟใต้หรือไม่ หรือว่าเป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัว คดีความในลักษณะนี้เราแทบไม่เห็นความพยายามของผู้เกี่ยวข้องจะตื่นตัวช่วยเหลือคลี่คลาย เช่นนี้แล้วการจ่ายเงินเยียวยาจะต้องรอกันไปอีกนานเท่าไหร่
ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมต้องขอบอกกล่าวไว้ด้วยว่า ไม่ใช่ผมไม่เห็นด้วยกับการให้จ่ายเงินเยียวยาไฟใต้ ผมเห็นด้วยแน่นอน และหากจะมีการได้รับสูงถึง 7.75 ล้านบาทก็เป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะที่ผ่านๆ มา การเยียวยายังถือว่ามีปริมาณที่น้อยมากเมื่อเทียบกับการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก หรือทรัพย์สินที่เสียหาย เพียงแต่ทุกเหตุการณ์ที่เยียวยาต้องเป็นไปอย่างยุติธรรมและโปร่งใส
แต่ที่ผมเห็นว่าน่าจะเป็นไปตามที่มีคนกล่าวขานกันจริงๆ ก็คือ การเร่งเยียวยาไฟใต้ครั้งนี้เพียงต้องการใช้เป็นเครื่องการันตีการจ่ายเงินหลวงให้แก่คนเสื้อแดงดูดีขึ้น อีกทั้งเป็นประชานิยมเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของ นช.ทักษิณ ชินวัตร และพลพรรคเท่านั้น