xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กอ๊อด” ดักคอโอไอซีห้ามจุ้นไฟใต้ เตือนระวังการให้ข่าว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา
“ยุทธศักดิ์” ดักคอโอไอซีห้ามจุ้นไฟใต้ เตือนระวังการให้ข่าว กำชับจนท.อย่าประมาทครบรอบเหตุการณ์กรือเซะ 28 เมษาฯ หวั่นสร้างสถานการณ์ดึงโอไอซีแทรก รับชาวบ้านร้องพวกอิทธิพลเรียกกินหัวคิว 20% เงินเยียวยา พร้อมสั่ง ศอ.บต.ดูทุกขั้นตอน

วันนี้ (25 เม.ย.) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงกรณีที่คณะที่ปรึกษา เลขาธิการองค์การที่ประชุมมุสลิมโลก จะเดินทางมาประเทศไทยว่าจะมาพบบุคคลเพื่อรับทราบข้อมูลก่อนที่จะมีการประชุม ซึ่งจะเดินทางมาไทยในวันที่ 8-11 พ.ค.นี้ และจากเท่าที่ตนทราบด้านการข่าวจะมีคณะกรรมการที่พิจารณาอีกคณะหนึ่งที่ทำงานในการแก้ปัญหาความแตกแยกในประเทศฟิลิปปินส์ก็จะเข้ามาที่ไทย เมื่อถามว่าการเดินทางมาของคณะกรรมการโอไอซีครั้งนี้คาดว่าจะมีการหยิบยกปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ขึ้นมาหารือหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า เราก็ต้องระวังถ้าคณะกรรมการชุดนี้ไปพบใคร ก็ต้องระวังเรื่องการข่าว ไม่ใช่หนีการให้ข่าว ทั้งนี้ ตนก็ไม่ทราบว่าจะมาพบใคร ก็ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงให้ทราบก่อน เมื่อถามว่า ห่วงหรือไม่ว่า ทางโอไอซีจะเข้าแทรกแซงปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตนไม่ได้ห่วง สิ่งที่ห่วงคือการสร้างสถานการณ์ให้มีความหมายในระหว่างที่ไอไอซีอยู่ในไทย ทั้งนี้ ตนก็ได้มีการเตือนเจ้าหน้าที่ไปแล้ว ในช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้ ตนจะลงพื้นที่ไปพูดคุยอีกครั้งว่าอย่าประมาท

ส่วนกรณีที่มีข่าวพบว่า รถคาร์บอม์บกว่า 10 คัน และอยู่ในช่วงจะครบรอบเหตุการณ์กรือเซะในวันที่ 28 เม.ย.นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน ส่วนการป้องกันนั้นเราจะค้นหาอย่างเต็มที่หากพบก็จะพิสูจน์ทราบ ทั้งนี้ เท่าที่ดูรายงานครั้งแรกมีการรายงานว่าพบรถคาร์บอมบ์ 5 คันเท่านั้น แต่จนเดี๋ยวนี้ยังไม่เจอรถที่ว่า ไม่รู้มันซ่อนยังไง หากมีการระมัดระวังเป็นอย่างดี เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร เจ้าหน้าที่บ้านเมืองช่วยกัน ตนยืนยันว่าจะไม่เกิดอะไรขึ้น

ผู้สื่อข่าวถามว่า ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่โอไอซีเดินทางมาไทยจะมีการเตือนในพื้นที่ให้ระมัดระวังอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ โดยเฉพาะการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวยอมรับว่า อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง อย่างที่เราเห็น แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็จะเกิดเหตุสถานการณ์รายวัน ซึ่งขณะนี้เขาก็ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรในการยิงประชาชนที่ไม่รู้เรื่อง ตรงนี้ก็เป็นการสร้างสถานการณ์ความรุนแรงว่าสถานการณ์ยังไม่จบ แต่ผลที่เกิดขึ้นกับตัวเอง ทำให้ประชาชนตื่นกลัวในการที่เขาสามารถข่มขู่ประชาชนได้ แต่ประชาชนก็ไม่ได้เป็นฝ่ายเขา

เมื่อถามว่า มีความเป็นห่วงหรือไม่ที่คณะกรรมการโอไอซีเดินทางมาไทย อาจจะไปพบเพื่อขอข้อมูลฝ่ายตรงข้าม พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ถ้าเขามาแล้วไปขอข้อมูลฝ่ายตรงข้ามเราก็รู้ ส่วนคณะกรรมการฯจะลงพื้นที่ภาคใต้หรือไม่ ตนไม่แน่ใจ แต่เขามีสิทธิ์ที่จะลง เมื่อถามอีกว่า เป็นห่วงหรือไม่นานาชาติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่าจะไม่ถึงนานาชาติ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ของเราถือว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเราเอง ต้องการแก้ปัญหาด้วยคนของเราเอง จะไม่มีคณะกรรมการกลางเข้ามาแก้ปัญหา ซึ่งเมื่อเกิดเหตุเขาก็จ้องที่จะเข้ามา แต่เราก็ไม่ให้เขาเข้ามาในพื้นที่

ส่วนที่คณะกรรมการแก้ปัญหาความแตกแยกในประเทศฟิลิปปินส์ก็จะเข้ามาที่ไทยนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า คณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้เดินทางไปในภาคใต้ เพียงแต่แวะเข้ามาดูสถานการณ์แล้วจึงกลับเข้าไปแก้ปัญหา ซึ่งปัญหาในฟิลิปปินส์ขณะนี้ คือมีคนเข้าไปยึดในพื้นที่ แต่ของประเทศไทยไม่มีพื้นที่ให้อีกฝ่ายเข้าไปยึดพื้นที่ ยืนยันพื้นที่ยังไม่เป็นของเราทั้งหมด

พล.อ.ยุทธศักดิ์ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์มติคณะรัฐมนตรีในการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ว่าไม่ มีกรอบชัดเจนในการเยียวยาบุคคลแต่ละประเภทว่า นายกรัฐมนตรีสั่งการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมไปแล้วว่าต้องมีความชัดเจน และมีคณะอนุกรรมการในการพิจารณาในการแบ่งให้ถูกต้อง ตามระเบียบ และความเป็นจริงในแต่ละราย อย่าให้เกิดปัญหาภายหลัง ซึ่งปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นก็ต้องลดน้อยลง ทั้งนี้ การดำเนินการก็ต้องมีการตรวจสอบ โดยในพื้นที่ภาคใต้จะให้เลขาฯ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เข้ามาร่วมทำงานครั้งนี้ด้วย ไม่ใช่มีแต่เจ้าหน้าที่ไปมอบให้ ศอบต.ต้องลงไปดูว่าการแบ่งเงินให้กับบุคคลใดนั้นต้องเป็นไปตามความเป็นจริง

ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า มีกลุ่มผู้มีอิทธิพลไปเรียกหักค่าหัวคิว 20 เปอร์เซ็นต์จากเงินเยียวยานั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า จากการลงพื้นที่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสได้นั่งเข้าไปพูดคุยกับประชาชน ทั้งที่กรือเซะ และตากใบ ได้มาเล่าให้ฟังว่า บางคนที่เสียชีวิตมีภรรยาและลูกหลายคน แถมภรรยาไปมีแฟนใหม่แล้ว ตรงนี้ทำให้เป็นปัญหาว่า ใครควรเป็นผู้รับเงินเยียวยา รวมถึงปัญหาที่มีกลุ่มบุคคลที่มาเคาะบ้านแล้วบอกกับชาวบ้านว่า การที่รัฐบาลเยียวยาให้กับประชาชนนั้น เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้ไปกดดันรัฐบาลให้จ่ายเงินเยียวยา โดยพบว่าเป็นชาวบ้านธรรมดา ส่วนการป้องกัน นายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรียุติธรรม สั่งให้ ศอ.บต.ไปดูแล และขออย่าให้บุคคลเหล่านี้อย่ามาทำกับประชาชน และเชื่อว่าหลักเกณฑ์การจ่ายเงินเยียวยาประชาชนพอใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น