“ยงยุทธ” ระบุสิ้นเดือนเมษาฯ รู้รัฐบาลเดินหน้าเรื่องปรองดองเองหรือโยนกลับให้สภาฯ ดำเนินการ พร้อมเผยเดือนหน้าเตรียมเยียวยาเหยื่อไฟใต้ เฉพาะประชาชนได้เท่าแก๊งแดง ไม่เกี่ยว จนท. ทหาร ตำรวจ
นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย กล่าวถึงการดำเนินการเกี่ยวกับรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ที่เสนอผ่านสภาฯ โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้เป็นผู้ดำเนินการต่อว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ครั้งนี้ยังไม่มีการเสนอรายงานดังกล่าว ซึ่งต้องนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (ปคอป.) ก่อน เพราะนายกรัฐมนตรีโยนเรื่องนี้มาให้กับ ปคอป.
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไม่ได้ตั้งธงไว้ว่าจะต้องเสร็จเมื่อไหร่ อย่างไรก็ตามหลังสงกรานต์ตนในฐานะประธาน ปคอป.จะเรียกประชุม เพื่อขอมติจากที่ประชุมว่า รัฐบาลควรจะเดินหน้าเองหรือส่งกลับให้สภาฯพิจรณาต่อไป ซึ่งภายในเดือนนี้จะมีคำตอบที่ชัดเจน และเชื่อว่าเรื่องนี้ที่ ปคอป.ทำจะไม่ชนกับ พ.ร.บ.ปรองดองของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ที่ดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า หาก พ.ร.บ.ปรองดองเสร็จ พ.ต.ท.ทักษิณจะได้กลับประเทศเลยหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า ตนก็ไม่ทราบ เพราะต้องดูใครอยู่ในร่มของการปรองดองบ้าง ใครอยู่นอกร่มก็อยู่นอกร่ม แต่ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้ทำเพื่อคนใดคนหนึ่ง และสามารถอธิบายได้หลังจากเรื่องการปรองดองเสร็จสิ้น
นายยงยุทธเปิดเผยด้วยว่า ในฐานะเป็นประธาน ปคอป.ซึ่งได้รับมอบหมายให้ดูแลหลักเกณฑ์การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเหตุการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ความคืบหน้าตอนนี้ หลักเกณฑ์เสร็จเรียบร้อยแล้วโดยเป็นหลักเกณฑ์เดียวกับการเยียวยาให้กับกลุ่มคนเสื้อแดง ทั้งนี้เหยื่อไฟใต้จะจ่ายเฉพาะประชาชน ขณะที่การเยียวผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการชุมนุมทางการเมือง เป็นการจ่ายให้กับประชาชนและเจ้าหน้าที่รัฐที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งกำลังจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะอนุกรรมการ ใน ปคอป. โดยต้นเดือน พ.ค. จะสามารถจ่ายเงินเยียวยาให้กับเหยื่อไฟใต้ได้
นายยงยุทธยังกล่าวถึงเหตุการณ์ความไม่สงบใน จ.ยะลา ที่มีการเผากล้อง CCTV ว่า คนที่ป้องกันก็เหนื่อย แต่ช่วงเวลานี้ต้องระมัดระวังและมีมาตรการเป็นพิเศษ เพราะเหตุร้ายเพิ่งเกิดขึ้น โดยเฉพาะกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ทหาร ผู้ว่าราชการจังหวัด และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ขณะเดียวกันหน้าที่ของรัฐบาลคือการพยายามสร้างความเชื่อมั่นซึ่งต้องเข้าใจประชาชนเกิดความตกใจ อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุคาร์บอมเพียง 2 วัน พบว่า นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียยังเดินทางเข้ามาที่อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ด้วยรถบัสกว่า 10 คัน ดังนั้นจะพูดว่านักท่องเที่ยวไม่เชื่อมั่นไม่ได้
นายยงยุทธกล่าวว่า วันนี้การทำงานของจังหวัดกับ กอ.รมน.และทุกภาคส่วนเป็นไปด้วยดี ไม่มีใครขัดแย้งกับใคร การทำงานมีจุดมุ่งหมายเดียวกัน โดยยืนยันไม่มีการแย่งชิงการนำของคนในรัฐบาลกับฝ่ายปฏิบัติตามที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ เพราะทุกคนมีจุดหมายปลายทางเพื่อความสงบ ความสุขของประชาชน แต่วิธีการอาจแตกต่างกันถือเป็นเรื่องธรรมดา จะให้คิดเหมือนกันคงเป็นไปไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าในพื้นที่หลังเกิดเหตุมีการประสานงานด้านการข่าวอย่างไร นายยงยุทธกล่าวว่า เรื่องการข่าวต้องถามจาก ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่รับผิดชอบงานการข่าว ซึ่งตนเป็นผู้ปฏิบัติ เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือยังกลุ่มไหนเป็นผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์ นายยงยุทธกล่าวว่า ทหารและตำรวจทราบหมดแล้ว แต่ไม่ขอออกความเห็นว่า กลุ่มดังกล่าวเกี่ยวกับกลุ่มที่ก่อเหตุระเบิดก่อนหน้านี้หรือไม่ ต้องให้ฝ่ายรับผิดชอบออกความเห็น
ต่อข้อถามว่าตั้งเป้าไว้หรือไม่ว่าจะลดเหตุภายในกี่ปี นายยงยุทธกล่าวว่า เหมือนกับว่าสงกรานต์ปลอดภัยตายเป็นศูนย์ รัฐบาลตั้งเป้าเหมือนกันให้ตายเป็นศูนย์ ให้ความสงบเกิดขึ้น จะทำให้ปลอดภัยที่สุด เมื่อถามว่าในวันที่ 28 เม.ย.นี้จะครบรอบ 8 ปี เหตุการณ์ยิงถล่มมัสยิดกรือเซะ จะมีการปรับแผนอย่างไร นายยงยุทธ กล่าวว่า แผนมีอยู่หมดแล้วทุกสถานการณ์ ก่อนเกิดเหตุ ระหว่างเกิดเหตุ และหลังเกิดเหตุ ซึ่งจะครบรอบหรือไม่ครบรอบต้องตื่นตัวตลอดเวลา