“ยุทธศักดิ์” เผย “ยิ่งลักษณ์” ลงปัตตานีอาทิตย์นี้ ระบุ กอ.รมน.ทำแผนอยู่ เชื่อครบรอบ 8 ปีกรือเซะไร้เหตุ พร้อมแก้ผู้มีอิทธิพลเรียกค่าหัวคิวเยียวยาเหยื่อ ไม่รู้เอี่ยวเด็กรัฐ วอน ส.ส.ใต้ร่วมลงพื้นที่ รับพบ “ป๋าเปรม” คุยสานใจไทย ยันพร้อมให้คำแนะนำ รบ. ไม่รู้นายกฯ ขอโทษแทน “ทักษิณ” บอกเจ้าตัวไม่ได้เล่าอะไรให้ฟัง
วันนี้ (27 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ล่าสุดมีกระแสข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบว่า การเคลื่อนไหวทางฝ่ายข่าวได้ติดตามตลอดเวลา โดยสำนักข่าวกรองแห่งชาติได้ชี้แจงความเคลื่อนไหวของผู้ก่อความไม่สงบ ซึ่งยังอยู่ในสายตาของฝ่ายข่าวอยู่และเรามีการระมัดระวัง โดยการปฏิบัติทางการทหารได้มีการปฏิบัติการเชิงรุก พิสูจน์ทราบตามที่ฝ่ายข่าวให้ข้อมูลตลอดเวลา เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในวันที่ 28 เม.ย.นี้ที่เป็นวันครบรอบเหตุการณ์กรือเซะ โดยนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยจะลงพื้นที่
พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงพื้นที่ในวันอาทิตย์ที่ 29 เม.ย.ช่วงเช้า โดยตนเองจะลงไปด้วย ทั้งนี้ คิดว่าการที่ผู้บริหารระดับสูงเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดจะเป็นภาพที่ดีและเป็นกำลังใจให้แก่ทุกฝ่ายด้วย ซึ่งการลงพื้นที่ทางกองทัพและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. กำลังจัดทำแผนการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี และจะแจ้งให้ทราบถึงการตรวจเยี่ยมการพบปะประชาชนจะเป็นอย่างไร อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าโอกาสครบรอบกรือเซะครั้งนี้คงจะไม่เกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เพราะทั้งทางทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่บ้านเมือง รวมทั้งศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต.ได้บูรณาการเตรียมการอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานแจ้งว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุได้อาศัยเด็กที่ส่งไปเรียนแถบตะวันออกกลางมาเป็นผู้ดำเนินการก่อเหตุ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ทางการคงต้องติดตามเด็กที่ไปเรียนมามีใครบ้าง มีรายชื่อหรือไม่ อยู่ที่ไหนบ้าง แม้จะเรียนมาเราก็สามารถเปลี่ยนความคิดเห็นได้ การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการแตกแยกทางความคิดด้วย วันนี้ในฐานะที่เราแก้ปัญหาภาคใต้ได้ทำอยู่แล้วโดยการให้ความรู้ความคิดและความเป็นจริง ซึ่งหาดใหญ่ไม่ใช่เมืองหลวงของประเทศไทย และจากการได้พบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ พูดถึงโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ เด็กที่อายุน้อยจากภาคใต้เข้ามาเห็นความเป็นประเทศไทย ตอนมาสองวันแรกหน้าตาไม่ค่อยดี พ่อแม่ก็ไม่ไว้วางใจว่าจะเอามาเปลี่ยนสมองของลูกเขาหรือไม่ แต่พอมาเป็นสภาพความเป็นอยู่ ความเป็นประเทศไทย เด็กเหล่านี้กลับไปด้วยความคิดใหม่ความรู้ใหม่ ซึ่งเรามีแนวทางที่จะให้เด็กกลุ่มพวกนี้มีความคิด มีความรู้ใหม่ คือ การเปลี่ยนแปลง การต่อสู้ทางแนวความคิด ขณะนี้ได้มีการเพิ่มหลักสูตรเข้าไปแล้ว ซึ่งเราต้องค่อยๆ แก้ปัญหากันในระยะยาว
ส่วนการจ่ายเงินเยียวยาเหยื่อไฟใต้ที่มีการร้องจากชาวบ้านว่า มีกลุ่มคนเรียกเก็บหัวคิวนั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า บางครั้งไม่ใช่เจ้าหน้าที่ แต่เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ แต่ตอนนี้เรารู้ปัญหาแล้วก็ต้องเข้าไปแก้ไข ซึ่งการจ่ายเงินเยียวยาดังกล่าวต้องให้เกิดความเป็นธรรม ไม่เช่นนั้นจะเป็นปัญหาต่อไปอีก เมื่อถามว่ามีบัญชีรายชื่อกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือกลุ่มการเมืองเข้าไปเรียกเก็บค่าหัวคิวหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้บุคคลที่ได้รับการติดต่อหรือเรียกเก็บหัวคิว เขาได้ให้ข้อมูลมาทางเจ้าหน้าที่ กอ.รมน.ภาค 4 และ ศอ.บต.
เมื่อถามว่า ส.ส.ในพื้นที่ จ.นราธิวาส มองว่าผู้มีอิทธิพลคือผู้ที่เคยทำงานให้กับรัฐบาลมาก่อนหน้านี้ และมีข้อมูลอยู่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่า ยังไม่ทราบ ลงพื้นที่จะไปรับทราบอีกครั้ง เมื่อถามว่า ส.ส.และ ส.ว.ถือเป็นตัวแทนประชาชนทำไมไม่มีบทบาทช่วยแก้ไขปัญหาภาคใต้ แม้แต่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เชิญมาให้ข้อมูลด้านการข่าวแต่ไม่ได้รับความร่วมมือ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิม เชิญในที่ประชุมสภาฯ ขอให้ ส.ส.และ ส.ว.รวมทั้งหัวหน้าพรรคฝ่ายค้าน และอดีตผู้รับผิดชอบภาคใต้เข้ามาร่วมในการประชุม และทุกครั้งที่ตนเองลงภาคใต้อยากให้ ส.ส.ในพื้นที่ลงไปด้วย เพื่อเห็นและรับทราบปัญหาด้วยกัน
เมื่อถามว่า จากการพบกับ พล.อ.เปรม ได้มีการพูดกันถึงปัญหาภาคใต้หรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.เปรม ได้เล่าถึงโครงการต่างๆ ที่ดำเนินการ บางโครงการไม่ได้บอกใคร เช่น การให้ทุนแก่นักศึกษาภาคใต้ทุนละ 3 ถึง 5 หมื่นบาทจากโครงการขายภาพประจำปีของท่านเอง ทั้งนี้ พล.อ.เปรมไม่ได้ขอร้องให้รัฐบาลเข้าไปช่วยเหลือเรื่องใด เพราะการดำเนินการต่างๆ มีฝ่ายเอกชน รัฐวิสาหกิจ และกระทรวงต่างๆ เข้าไปให้ความร่วมมือดีอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า โอกาสพบกับ พล.อ.เปรม จะมีการขยายผลในโอกาสต่อไปหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเห็นว่าโครงการต่างๆ ที่ พล.อ.เปรมดำเนินการอยู่นั้นเป็นโครงการที่ดี และได้บอกว่ารัฐบาลพร้อมที่จะสนับสนุนทุกโครงการของ พล.อ.เปรม ที่เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก พล.อ.เปรมยังยิ้มรับและบอกโครงการของท่านได้รับการช่วยเหลือจากทุกฝ่ายอยู่แล้ว เมื่อถามว่า พล.อ.เปรมพร้อมที่จะให้คำแนะนำหรือไม่ หากรัฐบาลต้องการขอคำปรึกษาหารือ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า พล.อ.เปรมพร้อมที่จะให้คำแนะนำ ซึ่งตนเองยังได้เสนอขอฟื้น “โครงการรักเมืองไทย” กลับมาทำอีกครั้ง
เมื่อถามว่า นโยบายการแก้ไขปัญหาภาคใต้รัฐบาลจะเดินเชิงรุกต่อไปอย่างไร พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังจะเพิ่มน้ำหนักทางการเมืองมากกว่าทางทหาร เพราะวันนี้ทางทหารถือว่ามากพอแล้ว แต่งานการเมืองยังไม่พอ ยังขาดอยู่มาก ดังนั้น ศอ.บต.ที่เข้าไปดูแลเรื่องการเมืองจำเป็นต้องทำให้มากกว่านี้หลายเท่า โดยตนเองจะลงไปช่วยขับเคลื่อนงานด้านการเมืองให้เกิดผล เช่น งานด้านการศึกษาให้แก่คนในพื้นที่ภาคใต้ โรงเรียนต้องไม่สอนแต่วิชาศาสนา ต้องสอนวิชาสามัญด้วย เรื่องนี้ต้องทำให้ได้ หากทำไม่ได้คงไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ ซึ่งขณะนี้กำลังให้เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติร่างคณะกรรมการขับเคลื่อนขึ้นมา โดยนายกรัฐมนตรีจะตั้งให้ตนเองเป็นประธานคณะกรรมการดังกล่าว
เมื่อถามว่า มีการตั้งเป้าหรือไม่การเมืองนำการทหารจะต้องเห็นผลได้เมื่อไร เพราะที่ผ่านมาก็ใช้การเมืองนำการทหารมานานแล้วแต่ไม่เห็นผล พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า นโยบายใหม่ที่ผ่านสภาฯตั้งเวลาไว้ 3 ปี มีการกำหนดไว้ 6 ยุทธศาสตร์ รวมทั้งอีก 7 ยุทธศาสตร์ของ ศอ.บต. ซึ่งการทำงานตามยุทธศาสตร์มีการกำหนดไว้ต้องทำกี่เปอร์เซ็นต์ในระยะเวลาเท่าใด เมื่อถามว่า พูดได้หรือไม่ที่เห็นผลช้า เพราะการเมืองไทยยังเละเทะ ปรับเปลี่ยนกันบ่อย พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า การเมืองเราชะงัก ต่อไปนี้ต้องทุ่มให้มากขึ้น
เมื่อถามว่า การหารือกับ พล.อ.เปรม จะขยายผลเรื่องการเมืองที่มีปัญหาความขัดแย้งคนในชาติหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ตอนนี้บรรยากาศดีแล้วหากมีอะไรที่อยากขอคำแนะนำในฐานะที่ พล.อ.เปรมเป็นผู้ใหญ่และเป็นเสาหลักอันหนึ่งของประเทศและนายกรัฐมนตรีได้ให้ความเคารพรักใคร่นับถือ คงเหมือนเด็กหารือผู้ใหญ่ได้ และตนเองเชื่อความจริงใจของนายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจจริงและความตื่นเต้นที่จะเข้าไปคุยเรื่องต่างๆ นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจจริงต่อการทำงาน เมื่อถามว่า ตอนคุยกันสองคนระหว่าง พล.อ.เปรมและนายกรัฐมนตรี มีการขอโทษแทน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า ไม่ทราบจริงๆ และยังไม่มีโอกาสถามนายกฯ ว่าคุยกันเรื่องใด
เมื่อถามว่า บรรยากาศเช่นนี้จะนำไปสู่การคุยถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ถูกมองเป็นตัวปัญหาหรือไม่ พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวปฏิเสธว่าไม่ทราบ พูดแต่โครงการของ พล.อ.เปรม ที่ดำเนินการ เมื่อถามว่า ปัญหาปรองดองถือเป็นเรื่องสำคัญของรัฐบาลที่จะเดินหน้าตอนนี้ทำไมไม่ใช้จังหวะการเข้าพบ พล.อ.เปรม ขอคำปรึกษาด้วย พล.อ.ยุทธศักดิ์กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้คุยกับ พล.อ.เปรม กว่าครึ่งชั่วโมง อาจได้คุยกันเรื่องนี้ก็ได้ แต่ตนเองไม่ทราบจริงๆ นายกรัฐมนตรียังไม่ได้เล่าให้ฟัง
