รายงานการเมือง
ครบรอบ 35 ปี อสมท ไปเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา หลังอยู่ในยุคแดนสนธยามาเป็นเวลานาน อสมท ก็ได้ลืมตาอ้าปากออกมาอยู่ในแสงสว่างช่วงที่ แสงชัย สุนทรวัฒน์ เข้ามาบริหารในฐานะ ผอ.อสมท พลิกจากโทรทัศน์ขาดทุนมาเป็นกำไร และเฟื่องฟูในแง่ธุุรกิจเมื่อ มิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์ เป็น ผอ.อสมท และมีการนำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์
มาวันนี้ทำท่าว่า อสมท กำลังถอยหลังลงคลองกลับสู่แดนสนธยาอีกครั้ง ภายใต้เงื้อมมือของ จักรพันธุ์ ยมจินดา รองประธานกรรมการ คนที่ 2 ปฏิบัติหน้าที่รักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท และรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายงานโทรทัศน์ แทน นายสุระ เกนทะนะศิล เพราะวิธีคิดไดโนเสาร์การเมืองหวังใช้ อสมท เพื่อประโยชน์ทางการเมืองในการทำลายคู่ต่อสู้และยังเชลียร์นายใหญ่อย่างน่ารังเกียจอีกด้วย
ผลงานครึกโครมของ จักรพันธุ์ คือ ความพยายามที่เปลี่ยนแปลงโลโก้ช่อง 9 ใหม่ ให้เป็นแดงทั้ง อสมท โดยให้พื้นสีของโลโก้เป็นสีแดงอย่างจงใจ แต่ก็ไปไม่ถึงฝั่งฝันเพราะนอกจากจะถูก ชัย ราชวัตร การ์ตูนนิสต์ชื่อดังแห่งไทยรัฐ จับได้ว่าโลโก้ที่อ้างว่าลูกสาวเป็นคนออกแบบจะเป็นการลอกเลียนแบบโลโก้ของสถานีโทรทัศน์เก่าแก่ในนิวยอร์ก จนอับอายไปสามโลก
ชัย ราชวัตร โพสต์ข้อความแฉว่า “ยังไม่หายข้องใจ ผมจึงเข้าไปในวิกิพีเดีย ค้นหา logo ชิ้นนี้ พบว่าเป็นสถานีโทรทัศน์เก่าแก่ของนิวยอร์ก ก่อตั้งปี 1949 อยู่ในเครือของ fox television เลยคัดลอกสปอตของสถานีมาให้เห็นกันจะจะ”
ขายขี้หน้าจนต้องม้วนพับเก็บกลับไปนอนหยอดน้ำข้าวต้ม แต่ “จักรพันธุ์” ก็ยังไม่สำนึก กลับมีพฤติกรรมลุแก่อำนาจ กระทำการเหมือนสมรู้ร่วมคิดให้คนเสื้อแดงส่ง จ.เจตน์ ไปคุกคาม กนก รัตน์วงสกุล พิธีกรชื่อดังถึงช่อง 9 โดยไม่ปกป้อง และยังให้ท้าย จ.เจตน์ว่าไปด้วยเจตนาดีค้านสายตาคนทั้งประเทศ แถมขู่ว่าจะถอดรายการที่ กนก เป็นพิธีกรในช่อง 9 อีกด้วยโดยเอาเรื่องของเรตติ้งมาเป็นข้ออ้าง
ไม่เพียงเท่านั้น “จักรพันธุ์” ยังเรียก “วู้ดดี้ เกิดมาคุย” มาอบรม ข้อหาเชิญ ศิริโชค โสภา วอลเปเปอร์มาร์คไปออกรายการ หลังถูกหมวดเจี๊ยบกล่าวหาว่ามีทัศนคติที่เป็นลบกับผู้หญิงและมีเจตนาเล่นเรื่องใต้สะดือกรณีนายกรัฐมนตรีแอบไป ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ชั้น 7 กลางวันแสกๆ ระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
จากนั้นไม่นานช่อง 9 ก็ปฏิเสธที่จะนำเทปการประชุมใหญ่พรรคประชาธิปัตย์ “ออกแบบประเทศไทย” ช่วงที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค แสดงวิสัยทัศน์ เป็นเวลา 1 ชั่วโมงมาออกอากาศ ทั้งที่มีการตกลงทั้งเรื่องค่าใบ้จ่ายและเวลาออกอากาศเรียบร้อยแล้ว
หลายคนอาจสงสัยว่าสื่อมวลชนเก่าอย่าง “จักรพันธุ์” ทำไมจึงบกพร่องซึ่งจิตวิญญาณของนักสื่อสารมวลชนเยี่ยงนี้ ความจริงต้องบอกว่าคนที่รู้จักกำพืดของ “จักรพันธุ์” ดี จะยืนยันนั่งยัน นอนยันได้ว่า “นี่คือธรรมชาติของเขา” ที่มิอาจเปลี่ยนแปลงได้สำหรับคนสื่อที่อาศัยวิชาชีพเป็นใบเบิกทางมาตลอดชีวิต
ในยุคที่ “จักรพันธุ์” ดังสุดขีดจากการเป็นผู้ประกาศช่อง 7 เขาเสนอตัวขออ่านประกาศคณะปฏิวัติให้กับ รสช. กระสันต์เอาใจเผด็จการทหารถึงกับโทรศัพท์สั่งถอนรถถ่ายทอดสดจากสภาให้ไปประจำที่สนามเสือป่าแทน เพื่อรับภารกิจอ่านประกาศคณะปฏิวัติ แต่พอภาพและเสียงออกไปให้ชาวบ้านได้ยินโดยไม่ทันต้องฟังอีกครั้งหนึ่ง กระแสก็ตีกลับทันทีว่าเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่สื่อมวลชนจะสยบยอมใน้อุ้งเท้าท็อปบูต
“จักรพันธุ์” จึงโยนเผือกร้อนให้ช่อง 7 ด้วยการออกมาบอกว่าถูกบังคับให้อ่าน ซึ่งคนที่รู้ไส้ในของ “จักรพันธุ์” ยืนยันว่า มีสื่อคนหนึ่งไปขอร้อง พ.อ.บัญชร ชวาลศิลป์ (ยศขณะนั้น) อาสาอ่านประกาศคณะปฏิวัติเองเพื่อเอาใจทหาร จนกระทั่งความนิยมลดฮวบถึงขนาดถูกประชาชนโยนหินขว้างบ้าน
เมื่ออนาคตด้านสื่อสารมวลชนเริ่มดับ ก็เบนเข็มมาเป็นนักการเมืองสวมเสื้อสีฟ้าสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ลงสมัครเป็น ส.ส.ระยองและได้เป็น ส.ส.สมใจจากบุญเก่าที่เกาะมาจากช่อง 7 ก่อนที่จะไปลงสมัคร ส.ส.กทม.และได้รับเลือกตั้งอีกครั้งหนึ่ง ภายใต้ใบบุญของ เสธ.หนั่น พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ที่ใหญ่คับพรรคในขณะนั้น และได้ดิบได้ดีถึงกับเป็นโฆษกกระทรวงมหาดไทยในวันที่ เสธ.หนั่นเป็น มท.1 มาแล้ว
ว่ากันว่า เสธ.หนั่นเอื้อเอ็นดูถึงั้นลงทุนควักเงินส่วนตัวส่งลูกสาวจักรพันธุ์ไปเรียนอังกฤษ แต่ดูเหมือนว่า เสธ.หนั่นจะทำคุณกับคนไม่ขึ้น เพราะจักรพันธุ์ตีจากไปอยู่กับพรรคไทยรักไทยในยุคที่โสเภณีเต็มตลาดสภา ก่อนที่จะถูกศาลระยองพิพากษาเพิกถอนสิทธิการเมืองเป็นเวลา 10 ปี จากการปราศรัยใส่ร้าย พ.ต.อ.พณาเจือเพ็ชร์ กฤษณะราช ว่าเป็นผู้ค้าอาวุธเถื่อน ซึ่งคดีที่เกิดขึ้นเป็นช่วงที่ “จักรพันธุ์” ยังสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และพ.ต.อ.พณาเจือเพ็ชร์เป็นผู้สมัครของพรรคไทยรักไทย
พ้นจากการเมืองไปก็ยังอาศัยบุญเก่าจากสถานะสื่อมวลชนไปทำมาหากินกับทหารต่อ โดยเกาะติดหนึบผลิตรายการร่วมกับทางช่อง 5 กระทั่งการเมืองเปลี่ยนขั้วอำนาจเปลี่ยนข้างได้ดิบได้ดีมาเป็นผู้บริหารใน อสมท ทิ้งตัวแดงให้ผู้บริหารช่อง 5 ดูเล่น โดยยังไม่มีการติดต่อขอเคลียร์แต่อย่างใด
วีรกรรมยาวเป็นหางว่าวเช่นนี้ คงไม่ต้องสาธยายต่อว่า อสมท กำลังอยู่ภายใต้ผู้บริหารแบบไหน
ล่าสุดมีการส่งสัญญาณให้ผู้ใหญ่รับรู้ว่าจะมีการเชือด “กนก” และค่ายเนชั่น สังเวยนายใหญ่ โทษฐานเป็นปฏิปักษ์ไม่เชียร์เหมือนรายการฮอตของค่ายน้อยสี โดยจะไม่มีการต่อสัญญาที่ทำกับเนชั่นในสองรายการ คือ ข่าวข้นคนข่าว และเช้าข่าวข้นคนข่าวเช้า ซึ่งจะครบกำหนดในเดือนมิถุนายน โดยมีบริษัทพรรคพวกรอสวมช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของข่าวข้นคนข่าว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่เสียงจากตึกไทยคู่ฟ้าดังแว่วมาว่า “จักรพันธุ์” แค่ขัดตาทัพตัวจริงรอบ้่าน 111 คืนชีพเดือนพฤษภาคม ก็รอลุ้นว่า ผอ.อสมท คนใหม่จะใช่คนเดียวกับที่เป็นโฆษกส่วนตัวนายกรัฐมนตรีวันนี้หรือไม่
คอนเนกชันของ สุรนันทน์ เวชชาชีวะ ซึ่งซี้ปึ้กกับเศรษฐา ทวีสิน ที่พานายกฯ ออกนอกหมายไป ว.5 ที่โฟร์ซีซั่นส์ได้ ยังอิดออดไม่อยากมารับตำแหน่งนี้เท่าไหร่ เพราะหวังคั่วตำแหน่งที่สูงกว่า
ไม่ว่า “สุรนันทน์” จะเกาะอำนาจติดชายกระโปรง นายกฯ นกแก้ว ในฐานะโฆษกต่อ หรือหวังสูงกลับมาเป็นเสนาบดีอีกรอบ โดยไม่สนตำแหน่ง ผอ.อสมท
แต่ “จักรพันธุ์” ก็อย่าหลงดีใจ เพราะยังไงก็ไม่ใช่ตัวจริง!