สะเก็ดไฟ
พลันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมากแสตมป์ตรารับรองรายงานการวิจัยที่เขียนโดย “สนธิ บุญยรัตกลิน” อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติ 19/9/49 เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า อ้างอิงหลักใหญ่ใจความสำคัญของสถาบันพระปกเกล้า พรรคเพื่อไทยก็หยิบยกมาเอ่ยอ้างความชอบธรรม
เดินหน้าใส่เกียร์ 5 เหยียบคันเร่งจมมิดทันที!!
หัวหน้าพรรคหัวขาว หัวโขน ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ไม่สนอีร้าค่าอีรม ตั้งแท่นเดินหน้าตามรายงานการวิจัยที่ออกมาในเชิงบวกกับพลพรรคคนรักแม้วแบบสายฟ้าแลบ ย้ำชัดแบบแข็งกร้าวว่า
ไม่จำเป็นต้องไปสำรวจความเห็นอื่นใดเพิ่มเติมตามที่สถาบันพระปกเกล้าตั้งเงื่อนไขเอาไว้
ยักไหล่ไม่ยี่หระ ซ้ำยังเหยียดหยามสถาบันพระปกเกล้าเป็นเพียงกลไกชิ้นหนึ่งของฝ่ายรัฐบาล และรัฐสภาเป็นเหมือนฝ่ายปฏิบัติรับหน้าที่ไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเมื่อส่งเรื่องกลับคืนหน่วยเหนือผู้สั่งการแล้ว
ถือว่าเป็นอัน "ปิดจ๊อบ" ไม่มีสิทธิร้องแรกแหกกระเชอใดๆ อีก!!
ขณะเดียวกัน ลิ่วล้อจอมสอพลออย่าง "ประชา ประสพดี"หน่วยกล้าตายฝีปากดีจากเมืองปากน้ำก็ออกมาโพนทะนาสั่นประสาทฝ่ายต่อต้านว่า จะเร่งเดินหน้าเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านการล่ารายชื่อส.ส. ไม่ต้องให้รัฐบาลออกหน้าให้เสียเวลาไม่เท่านั้นยังประกาศชัดเลยว่า จะทำทันทีภายในสมัยประชุมสภานี้!!
ทะลุ่มทะลวงชนิดไม่สนกระแส ไม่แคร์แรงเสียดทาน พวกกูจะทำพวกมึงจะทำไม...
ส่วนนายกรัฐมนตรีนกแก้ว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็ยังตีหน้าเศร้าเล่าบทเดิม ใช้สรีระอันงดงามตีกรรเชียงหนีความขัดแย้งโดดหนีเรื่องล่อแหลมอยู่เรื่อยไป
ก่อนหน้านี้ก็โยนเรื่องปรองดองให้สภาลูกเดียววันนี้เมื่อเรื่องมาถึงมือรัฐบาล ก็ยังปัดสวะให้พ้นตัวโบ้ยให้ “ยงยุทธ” ไปจัดการ ไม่มีบทขึงขังขัดขวาง.. ส่งซิกไฟเขียวตลอดทาง
พร้อมเบี่ยงตัวเองหลบหอก หลบดาบ ไปอย่างพลิ้วไหวแนบเนียน
อย่างไรก็ดี นักการเมืองระดับแกนนำประสบการณ์โชกโชนผ่านมาหลายร้อนหลายหนาวในพรรคเพื่อไทยต่างฟันธงตรงกันว่า
บรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้ยังไม่สงบเย็นถึงขั้นจะเดินหน้าปรองดองได้อย่างสะดวกโยธินหากเดินตามแนวทางที่กำลังทำอยู่แบบทันทีทันใด ผลเสียน่าจะมีมากกว่าผลผลดีและอาจจะพังลงกลางคัน ดังนั้นการเดินเกมแบบค่อยเป็นค่อยไปเปิดรับฟังความเห็นของสังคม ทอดระยะเวลาไปอีกเปลาะหนึ่งน่าจะเป็นหนทางที่ฉลาดกว่า...
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนนัยอย่างแจ่มชัดว่า เป็นการแยกกันเดินรวมกันตีแต่ทว่ามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ให้กลับบ้านแบบไร้มลทินล้างความผิดฉกรรจ์กลับบ้านเท่ๆ ไม่ต้องติดคุกติดตะราง
เป็นการโยนหินถามทาง ตรวจสอบกระแสสังคม ทั้งรูปแบบการเดินเกมเร็วร้อนแรงและเนิบนาบสุขุม แต่ตั้งอยู่บนเงื่อนไขความร้อนใจของนายใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ
ที่แสดงอาการชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าอยากกลับประเทศไทยใจจะขาด เดินทางมาป้วนเปี้ยนใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมปล่อยข่าวหยั่งเชิงว่าจะเข้ามาประเทศไทยวันนี้วันนั้น
ไม่แน่ว่าสงกรานต์ปีนี้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาลาว และ กัมพูชาเราอาจเห็นสัญญาณบางอย่างที่สะท้อนเบื้องลึกในจิตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณชัดเจนขึ้นอีกระดับหนึ่งซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นหมากกลที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยใช้เดินเกมในประเทศไทยต่อเนื่องไปชนิดแยกกันไม่ออก...
ซึ่งมันก็ต้องใส่หมายเหตุข้างท้ายไว้เหมือนเดิมว่า “ทุกอย่างเพื่อแม้ว”
พลันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติเสียงข้างมากแสตมป์ตรารับรองรายงานการวิจัยที่เขียนโดย “สนธิ บุญยรัตกลิน” อดีตหัวหน้าคณะปฏิวัติ 19/9/49 เขียนด้วยมือลบด้วยเท้า อ้างอิงหลักใหญ่ใจความสำคัญของสถาบันพระปกเกล้า พรรคเพื่อไทยก็หยิบยกมาเอ่ยอ้างความชอบธรรม
เดินหน้าใส่เกียร์ 5 เหยียบคันเร่งจมมิดทันที!!
หัวหน้าพรรคหัวขาว หัวโขน ยงยุทธ วิชัยดิษฐ ไม่สนอีร้าค่าอีรม ตั้งแท่นเดินหน้าตามรายงานการวิจัยที่ออกมาในเชิงบวกกับพลพรรคคนรักแม้วแบบสายฟ้าแลบ ย้ำชัดแบบแข็งกร้าวว่า
ไม่จำเป็นต้องไปสำรวจความเห็นอื่นใดเพิ่มเติมตามที่สถาบันพระปกเกล้าตั้งเงื่อนไขเอาไว้
ยักไหล่ไม่ยี่หระ ซ้ำยังเหยียดหยามสถาบันพระปกเกล้าเป็นเพียงกลไกชิ้นหนึ่งของฝ่ายรัฐบาล และรัฐสภาเป็นเหมือนฝ่ายปฏิบัติรับหน้าที่ไปทำงานตามที่ได้รับมอบหมายเมื่อส่งเรื่องกลับคืนหน่วยเหนือผู้สั่งการแล้ว
ถือว่าเป็นอัน "ปิดจ๊อบ" ไม่มีสิทธิร้องแรกแหกกระเชอใดๆ อีก!!
ขณะเดียวกัน ลิ่วล้อจอมสอพลออย่าง "ประชา ประสพดี"หน่วยกล้าตายฝีปากดีจากเมืองปากน้ำก็ออกมาโพนทะนาสั่นประสาทฝ่ายต่อต้านว่า จะเร่งเดินหน้าเสนอร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมผ่านการล่ารายชื่อส.ส. ไม่ต้องให้รัฐบาลออกหน้าให้เสียเวลาไม่เท่านั้นยังประกาศชัดเลยว่า จะทำทันทีภายในสมัยประชุมสภานี้!!
ทะลุ่มทะลวงชนิดไม่สนกระแส ไม่แคร์แรงเสียดทาน พวกกูจะทำพวกมึงจะทำไม...
ส่วนนายกรัฐมนตรีนกแก้ว “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ก็ยังตีหน้าเศร้าเล่าบทเดิม ใช้สรีระอันงดงามตีกรรเชียงหนีความขัดแย้งโดดหนีเรื่องล่อแหลมอยู่เรื่อยไป
ก่อนหน้านี้ก็โยนเรื่องปรองดองให้สภาลูกเดียววันนี้เมื่อเรื่องมาถึงมือรัฐบาล ก็ยังปัดสวะให้พ้นตัวโบ้ยให้ “ยงยุทธ” ไปจัดการ ไม่มีบทขึงขังขัดขวาง.. ส่งซิกไฟเขียวตลอดทาง
พร้อมเบี่ยงตัวเองหลบหอก หลบดาบ ไปอย่างพลิ้วไหวแนบเนียน
อย่างไรก็ดี นักการเมืองระดับแกนนำประสบการณ์โชกโชนผ่านมาหลายร้อนหลายหนาวในพรรคเพื่อไทยต่างฟันธงตรงกันว่า
บรรยากาศบ้านเมืองในขณะนี้ยังไม่สงบเย็นถึงขั้นจะเดินหน้าปรองดองได้อย่างสะดวกโยธินหากเดินตามแนวทางที่กำลังทำอยู่แบบทันทีทันใด ผลเสียน่าจะมีมากกว่าผลผลดีและอาจจะพังลงกลางคัน ดังนั้นการเดินเกมแบบค่อยเป็นค่อยไปเปิดรับฟังความเห็นของสังคม ทอดระยะเวลาไปอีกเปลาะหนึ่งน่าจะเป็นหนทางที่ฉลาดกว่า...
ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นสะท้อนนัยอย่างแจ่มชัดว่า เป็นการแยกกันเดินรวมกันตีแต่ทว่ามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือการช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดี ให้กลับบ้านแบบไร้มลทินล้างความผิดฉกรรจ์กลับบ้านเท่ๆ ไม่ต้องติดคุกติดตะราง
เป็นการโยนหินถามทาง ตรวจสอบกระแสสังคม ทั้งรูปแบบการเดินเกมเร็วร้อนแรงและเนิบนาบสุขุม แต่ตั้งอยู่บนเงื่อนไขความร้อนใจของนายใหญ่ พ.ต.ท.ทักษิณ
ที่แสดงอาการชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าอยากกลับประเทศไทยใจจะขาด เดินทางมาป้วนเปี้ยนใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมปล่อยข่าวหยั่งเชิงว่าจะเข้ามาประเทศไทยวันนี้วันนั้น
ไม่แน่ว่าสงกรานต์ปีนี้ที่ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาลาว และ กัมพูชาเราอาจเห็นสัญญาณบางอย่างที่สะท้อนเบื้องลึกในจิตใจของ พ.ต.ท.ทักษิณชัดเจนขึ้นอีกระดับหนึ่งซึ่งจะแปรเปลี่ยนเป็นหมากกลที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยใช้เดินเกมในประเทศไทยต่อเนื่องไปชนิดแยกกันไม่ออก...
ซึ่งมันก็ต้องใส่หมายเหตุข้างท้ายไว้เหมือนเดิมว่า “ทุกอย่างเพื่อแม้ว”