เพื่อไทยเรียกร้องประชาธิปัตย์อย่าใช้งานวิจัยปรองดองสถาบันพระปกเกล้า สร้างความขัดแย้งรอบใหม่ ตอก “มาร์ค” สร้างวาทะกรรมเก๋ ท้ายกเว้นนิรโทษกรรม “มาร์ค-เทพเทือก-ทักษิณ” ระบุกฎหมายไม่ยกเว้นให้กับคนที่ทำผิดอยู่แล้ว
วันนี้ (7 เม.ย.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความปรองดองว่า บรรยากาศในสังคมไทยอยากให้ประเทศเข้าสู่ความปรองดองอย่างจริงจัง โดยลืมอดีตความขัดแย้งให้อภัยกันและทำเป็นมองไม่เห็นบ้าง ซึ่งหากเก็บเรื่องเล็กน้อยมาเป็นประเด็นก็จะนำประเทศเข้าสู่กระบวนการปรองดองไม่ได้ ซึ่งตนสงสัยว่าการที่มีกลุ่มคนที่ไม่อยากปรองดองเป็นกลุ่มคนที่เสียโอกาสจากการปรองดองเท่านั้นที่อยากให้ประเทศมีความขัดแย้งต่อไป
นายจิรายุยังเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่าไม่อยากให้สังคมมองว่าฝ่ายค้านบางพรรคไม่อยากปรองดองเพราะอาจเสียโอกาสทางการเมือง และการที่พรรคประชาธิปัตย์พยายามใช้สถาบันพระปกเกล้ามาเป็นชนวนความขัดแย้งรอบใหม่นั้น อยากชี้แจงว่าไม่ใช่แค่ผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าที่จะพลิกประเทศหรือทำร้ายประเทศด้วยกระดาษปึกเดียวได้ เพราะความขัดแย้งที่เกิดขึ้นคือความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ซึ่งงานวิจัยที่ออกมาจากหลายสถาบันก็กล่าวถึงปัญหานี้แทบทั้งสิ้น
ส่วนผลการศึกษาของสถาบันพระปกเกล้านั้น นายจิรายุกล่าวว่า เป็นสิ่งที่สถาบันพระปกเกล้าทำเองแทบทั้งสิ้น ไม่มีใครสามารถเขียนใบสั่งให้ทำตามใจชอบได้ แต่พอโดนฝ่ายไม่เห็นด้วยกดดันให้ถอนรายงานการวิจัย ก็ออกมากลับลำเช่นนี้ ทำให้สถาบันพระปกเกล้าดูเหมือนไม่มีจุดยืนและทำให้ประชาชนเสียศรัทธา
ส่วนการอภิปรายรับฟังรายงานของ กมธ.ปรองดอง 2 วันที่ผ่านมาก็เห็นได้ชัดว่าฝ่ายค้านยังคงอภิปรายวนเวียนอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ควรกลับไปมองท่าทีของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ที่ผลการโหวตออกมาเสียงแตก ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ยังคงไม่เห็นด้วยกับการปรองดองในอนาคตพรรคประชาธิปัตย์อาจถูกโดดเดี่ยวทางการเมืองก็เป็นได้
ส่วนกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ระบุว่าหากมีการนิรโทษกรรมขอให้ยกเว้นตนเอง นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีนั้น นายจิรายุกล่าวว่า เป็นการสร้างวาทะกรรมของนายอภิสิทธิ์ที่นำมาใช้หลอกแค่ไอ้จุก ไอ้แกละเท่านั้น เพราะทุกคนรู้ทันนายอภิสิทธิ์กันหมดแล้ว เพราะไม่ว่ากฎหมายใดบังคับใช้ก็สามารถจะยกเว้นให้กับบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้อยู่แล้ว
นายจิรายุกล่าวถึงการสร้างวาทะกรรมเผด็จการรัฐสภาว่า รู้สึกแปลกใจที่นายอภิสิทธิ์ และสมาชิกพรคออกมาพูดในเรื่องนี้ เพราะในสมัยของนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรีก็เคยมีการโหวตใช้เสียงข้างมากในการแก้ไขรัฐธรรมนูญเหมือนกัน ซึ่งหากมองว่าพรรคเพื่อไทยเป็นเผด็จการรัฐสภา ยุครัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ก็เป็นเผด็จการรัฐสภาเช่นกัน
นายจิรายุยังเรียกร้องไปยังพรรคประชาธิปัตย์ว่า อย่าลืมจุดยืนเดิมของนายชวน หลีกภัย ประธานที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยพูดไว้ว่าต้องเคารพมติของสภา พร้อมขอให้พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองอย่างสร้างสรรค์ และต่อสู้กันที่ผลงานและนโยบายมากกว่าการใส่ร้ายกันทางการเมือง