คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล ขีดเส้นใช้เวลา 13 ชั่วโมงพิจารณารายงาน กมธ.ปรองดอง ยืนกรานใช้เสียงข้างมากมัดมือชก ลั่นไม่นำข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าเพื่อขอขยายเวลาพิจารณาใหม่อีก ชี้แค่องค์กรลูกรัฐสภา
วันนี้ (4 เม.ย.) ที่รัฐสภา นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) กล่าวว่า เบื้องต้นได้มีการหารือว่า การพิจารณาเรื่องรายงานคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ จะใช้เวลารวม 13 ชั่วโมง โดยในวันที่ 4 เม.ย.จะใช้เวลาพิจารณาถึงเที่ยงคืน แล้วไปต่อในวันที่ 5 เม.ย. หลังจากการพิจารณากระทู้ถามสดแล้ว จากนั้นจะพิจารณาจนกว่าแล้วเสร็จจนครบ 13 ชั่วโมง เบื้องต้นได้ให้เวลาฝ่ายค้านอภิปราย 6 ชั่วโมง ให้กรรมาธิการฯ ชี้แจง 2 ชั่วโมงในประเด็นรายงานของคณะกรรมาธิการตามข้อเท็จจริง ที่สถาบันพระปกเกล้าได้มีการนำเสนอ ทั้งนี้ หากเวลาชี้แจงของกรรมาธิการฯ ไม่พอก็จะขอเวลาจากพรรคเพื่อไทย โดยประเด็นนี้ถือว่าพรรคเพื่อไทยไม่ได้รับความเป็นธรรมทั้งที่มีจำนวน ส.ส.ในสภามากกว่า แต่ได้เวลาน้อยกว่าฝ่ายค้าน ทั้งนี้ในส่วนของพรรคเพื่อไทยมี ส.ส.ลงชื่อขออภิปรายจำนวนมาก
นายอุดมเดชกล่าวยืนยันว่า ในการประชุมเรื่องนี้บทสรุปสุดท้ายจะส่งเรื่องให้กับทางรัฐบาลนำไปพิจารณาว่าจะดำเนินการต่อผลการวิจัยฉบับนี้อย่างไร โดยช่วงท้ายของการพิจารณาจะมีการเปิดโหวต ในเบื้องต้นยืนยันว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือรัฐบาลจะนำรายงานฉบับนี้ไปปฏิบัติในภาคส่วนของการสานเสวนาตามข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้า เช่น ให้กระทรวงมหาดไทยจัดเวทีสัมมนาใน 77 จังหวัด และอาจให้นักวิชาการของสถาบันพระปกเกล้าไปเป็นวิทยากร “แต่เวทีสานเสวนากรรมาธิการฯ คงทำเองไม่ได้ เพราะต้องลงพื้นที่ 77 จังหวัด บุคลากรคงมีไม่เพียงพอ ดังนั้น จำเป็นต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับไปดำเนินการ ส่วนผลจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่รับไปดำเนินการ”
นายอุดมเดชยังกล่าวถึงข้อเสนอตามคำแถลงการณ์ของสถาบันพระปกเกล้า ที่ระบุว่าไม่ควรรีบเร่งพิจารณาสรุปแนวทางการสร้างความปรองดอง ส่งให้รัฐบาล และควรขยายเวลาการพิจารณาของคณะกรรมาธิการฯออกไปนั้น ก็งงว่าสถาบันพระปกเกล้าเป็นองค์กรลูกของรัฐสภา แต่กลับต้องการเข้ามาแทรกแซงการทำงานของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งตนยืนยันทางกรรมาธิการฯ จะไม่นำเรื่องนี้มาพิจารณาต่อ เพราะถือว่าพิจารณาจนแล้วเสร็จแล้ว