กรุงเทพฯ - คอยแล้วคอยเล่า สุดท้ายคนไทยหง่าวกันทั้งประเทศ เหตุคณะกรรมการสถาบันพระปกเกล้าไม่ยอมปล่อยให้สกบ.(สากกะเบือ) หลุดออกมาจากปากแม้แต่คนเดียว งง ตกลงจะเดินหน้าไปทางไหนกันแน่ ปรองดอง-ตัวใครตัวมัน หรือทุบกันให้น่วมแล้วค่อยหาข้อยุติร่วมในท้ายที่สุด
จนแล้วจนรอดประชาชนคนไทยค่อนประเทศที่ร่วมกันคาดหวังว่า น่าจะได้ยินได้ฟังเหล่าคณะกรรมการสถาบันพระปกเกล้าให้ความกระจ่างชัดเรื่องผลวิจัยปรองดอง ก็กลับต้องพบกับความเงียบกริบอีกเป็นคำรบที่ล้านเก้า เนื่องจากแม้ลุล่วงเข้าถึงใกล้เทศกาลสงกรานต์ ยังไม่มีกรรมการรายหนึ่งรายใดออกมาแพลม หรือเผยข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องของความปรองดองเพิ่มเติมอีกเลย
ก่อนหน้านี้มีข่าวลับแต่ไม่ลึกจากหนึ่งในสภากรรมการสถาบันพระปกเกล้า แอบเอาข่าวจากวงในที่ประชุมมากระซิบกระซาบบอกให้ผู้สื่อข่าวบางสำนักได้ยินได้ฟังว่า อาจจะมีการอธิบายถึงผลการวิจัยในเรื่องของความปรองดองให้ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่าได้รับรู้ เนื่องจากที่ผ่านๆ มา ภายหลังผลวิจัยนำเสนอให้มีการปรองดองของทุกๆ ฝ่ายในสังคมไทย ทว่า ยังมีนักวิชาการ ชาวบ้าน สื่อทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่บางส่วน ล้วนตั้งคำถามในทำนองว่าปรองดองไปทำพระแสงด้ามสั้นทำไม ในเมื่อมีคนผิดต่อกฎหมายบ้านเมือง รวมทั้งผิดต่อจริยธรรมในความเป็นคนไทยอย่างเห็นๆ ความปรองดองจึงหาใช่เป็นทางออกที่ดีไม่ แต่ควรดำเนินทุกกรณีไปตามกฎหมายจะดีกว่า ดังนั้น ในฐานะที่คณะกรรมการสถาบันพระปกเกล้าถือว่าเป็นหัวหอกในการสำรวจตรวจสอบเรื่องนี้ จึงมีมติเห็นชอบร่วมกันว่าควรออกมาอธิบายความให้ทุกคนได้เกิดความรู้ความเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน
ครั้นพอข่าวดังกล่าวข้างต้นถูกเผยแพร่ออกไปจึงทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ต่างเงี่ยหูฟัง บางคนถึงกับนอนฟังวิทยุและโทรทัศน์เพื่อรอฟังว่ากรรมการท่านไหนจะออกมาอธิบายความกระจ่างของผลดี-เสียเรื่องปรองดอง แต่ไม่ว่าวันเวลาจะกระดิกกระเดี้ยผ่านไปนานเท่าใด กลับไม่มีเสียงใดๆ ที่เกี่ยวข้องพ้องพานกับการปรองดองเล็ดลอดออกมาจากปากของคณะกรรมการสถาบันพระปกเกล้า ยกเว้นเสียงเรอเจือกลิ่นละมุดจากปากของบางคนเท่านั้น
“โอย แบบนี้ไม่ไหว ผมเฝ้าลุ้นตลอดวันยิ่งกว่ารอฟังผลหวยซะอีก รอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ แต่จนแล้วจนรอดแม้แต่สกบ. หรือสากกะเบือสักดุ้นก็ยังไม่โผล่ด้ามออกมาให้เห็น นี่มันเป็นใบ้กันไปหมดแล้วหรือไง ผมไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมจึงพากันเงียบกริบแบบนี้ เห็นที่ต้องบุกไปถามอาจารย์บวรศักดิ์แบบตัวต่อตัวเสียแล้ว ไม่งั้นลุ้นกันอุจจาระเหนียวแน่นอนว่าสุดท้ายจะปรองดองไม่ปรองดอง หรือทุบตีกันให้น่วมแล้วค่อยมาหาข้อยุติกันตอนหลัง” ชาวบ้านรายหนึ่งตัดพ้อ