แก๊งเพื่อไทยตั้งก๊วนสับเลขาฯ ส.พระปกเกล้า อ้างสิทธิความเป็นเจ้าของงานวิจัยแผนปรองดอง ทำเกินหน้าที่ ชี้แถลงการณ์ ส.พระปกเกล้าไม่ใช่ผลสรุปของที่ประชุมรัฐสภาและพยายามแทรกแซงฝ่ายนิติบัญญัติ จี้ลาออก
วันนี้ (4 เม.ย.) ส.ส.พรรคเพื่อไทย 9 คน นำโดยนายไพจิต ศรีวรขาน ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการกิจการ สภาผู้แทนราษฎร แถลงการณ์ถึงกรณีที่นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า อ้างสิทธิความเป็นเจ้าของงานวิจัย โดยจะขอรายงานกลับคืน หากคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติไม่ดำเนินการตามข้อเสนอของคณะผู้วิจัยว่า คณะกรรมาธิการปรองดองไม่มั่นใจว่าแถลงการณ์ขอสถาบันพระปกเกล้า ที่แถลงโดยเลขาของสถาบันนั้น เป็นแถลงที่สรุปผลการประชุมของสถาบันพระปกเกล้าที่มีการเรียกประชุมในวันดังกล่าวจริงหรือไม่ เพราะการแถลงการณ์นี้มีเนื้อหาสั่งการและข่มขู่ให้สภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติตาม ซึ่งมีลักษณะของการแทรกแซง ซึ่งตนและคณะรู้สึกผิดหวัง และไม่เห็นด้วยต่อท่าทีของสถาบันฯ เป็นการบีบบังคับสภาฯ ซึ่งการศึกษาพิจารณาของคณะกรรมาธิการปรองดองนั้นอาจรับความเห็นทั้งหมดหรือนำมาแค่บางส่วนก็เป็นเอกสิทธิ์ของคณะกรรมาธิการที่บุคคลอื่นไม่สามารถแทรกแซงได้
โดยผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้า เป็นแค่ความเห็นส่วนหนึ่งของคณะกรรมาธิการนำมาประกอบการพิจารณา ดังนั้น ข้อสรุปของคณะกรรมาธิการจึงเกิดจากการฟังความเห็นของทุกฝ่าย ไม่จำกัดแค่งานวิจัยดังกล่าว และยืนยันว่าคณะกรรมาธิการศึกษาผลวิจัยสมบูรณ์แล้วมาใช้เป็นข้อสรุปหรือข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวิสามัญ เมื่อมีการประชุมสภาฯ เนื้อหาทั้งหมดจะถูกบันทึกอยู่ในวาระประชุม ดังนั้น หากสถาบันพระปกเกล้าจะขอคืนผลการวิจัย ก็ย่อมไม่มีผลการศึกษาของคณะกรรมาธิการและสภาฯ
ทั้งนี้ จากการที่ได้มีการหารือกับคณะวิจับ ไม่ปรากฏว่าคณะผู้วิจัยมีความประสงค์ หรือมีเงื่อนไขที่จะขอถอนผลการวิจัยกลับไป ซึ่งการขอคืนงานวิจัยดังกล่าว ไม่ได้มีพื้นฐานจากเหตุผลทางวิชาการ แต่เป็นความกังวลต่อผลทางการเมืองที่เกิดขึ้น
นายไพจิตกล่าวต่อว่า ตนและคณะขอยืนยันว่า การที่คณะกรรมาธิการวิสามัญได้นำผลการศึกษาของคณะผู้วิจัยมาพิจารณานั้นมีผลสมบูรณ์ไปล้ว และเป็นมติที่เอกฉันท์ที่ต้องให้สถาบันศึกษาวิจัยให้แก่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ โดยไม่มีข้อโต้แย้ง และสถาบันเองก็ได้จัดทำรายงานเสร็จสิ้นแล้ว คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ จึงไม่อาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข หรือลบล้างข้อเท็จจริงเหล่านั้นได้
“ผมและคณะจึงหวังว่าสถาบันฯ จะเคารพผลการวิจัยไม่ใช้เหตุผลทางการเมืองมาบดบัง หรือลบล้างผลการศึกษาที่มีคุณค่าต่อสังคม และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถาบันฯ จะรักษาความเป็นองค์การทางวิชาการที่จะต้องปราศจากการกดดัน หรือแทรกแซงการเมืองใดๆ เพื่อสถาบันจะได้ทำหน้าที่อย่างทรงคุณค่าแก่สังคม” นายไพจิตกล่าว
ด้าน นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวเรียกร้องให้นายบวรศักดิ์พิจารณาตัวเองออกจากตำแหน่ง เพราะเห็นว่าการแถลงหลังการประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้าเป็นการทำเกินหน้าที่ทางวิชาการ และเห็นว่าเรื่องนี้มีนัยซ่อนเร้นทางการเมืองที่สำคัญ