ASTVผู้จัดการรายวัน- "ปู่มารุต" ออกโรง! จี้ สถาบันพระปกเกล้าถอนผลวิจัยปรองดองจากสภา ห่วงคลาดเคลื่อน ทำสถาบันฯขาดความน่าเชื่อถือ อัดกมธ.ปรองดอง ตัดตอนเอาไปใช้แค่บางส่วน ส.ว.เตือนรัฐบาลอย่ารีบเร่ง ออกพ.ร.บ.ปรองดอง-นิรโทษกรรม จะยิ่งขัดแย้งหนัก ด้านวิปรัฐบาลโยนรายงาน กมธ.ปรองดองให้รัฐบาลทำต่อ เชื่อ ส.พระปกเกล้า ไม่ถอนผลวิจัย นอกจากเห็นว่าบกพร่องแล้วขอกลับไปแก้ไข
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 2 เม.ย. ) ที่สำนักงานกฎหมาย มารุต-รุจิระ นายมารุต บุนนาค ผู้ริเร่มก่อตั้งสถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์ เปิดใจเกี่ยวกับบทบาของสถาบันพระปกเกล้า เรื่องการปรองดองในปัจจุบันว่า มีความรู้สึกห่วงใย แต่จากกรณีที่คณะผู้วิจัย ได้ทำการวิจัยความเห็นทางการเมืองให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจากการติดตามในรายละเอียด พบว่า สถาบันพระปกเกล้าให้ความเห็นกว้างๆ ในหลายประเด็น แต่คณะกรรมาธิการปรองดองฯได้ใช้ข้อความบางตอนของผลการวิจัยเท่านั้น ซึ่งมีการนำไปใช้ไม่หมด ทำให้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของคณะผู้วิจัย ทั้งที่มีการระบุแล้วว่า ไม่อยากให้มีการนำผลวิจัยไปใช้ในทางการเมือง แต่คณะกรรมาธิการฯ ก็ไม่ยินยอม ตนจึงมีความเป็นห่วงว่า จะมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น
ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อยืนหยัดความเป็นสถาบันทางวิชาการที่มีความอิสระ และความน่าเชื่อถือของประชาชน ตนจึงขอแนะนำให้สถาบันพระปกเกล้า ถอนรายงานการวิจัยเรื่องดังกล่าว คืนมาจากสภาฯ โดยให้ทำเรื่องอย่างเป็นทางการ และอยากให้การประชุมของสภาพระปกเกล้า ในวันนี้ (3 เม.ย. ) พิจารณาเรื่องนี้ด้วย
นายมารุต กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอดังกล่าวนี้ ยืนยันว่าเสนอด้วยใจจริง และชื่นชมสถาบันพระปกเกล้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะการทำงานของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันฯ ที่มีผลงานจำนวนมาก และทำงานได้ดี จึงไม่อยากให้สถาบันฯ ถูกมองว่าขาดความน่าเชื่อถือ
** เร่งออกพ.ร.บ.ปรองดองจะขัดแย้งหนัก
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา การขยายเวลาการปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรรัฐบาลอาจช่วงชิง ออกร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง แม้ว่ารัฐบาลจะชนะด้วยเสียงข้างมาก ตนกังวลว่าจะเป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคมมากกว่า และอาจมีปัญหาบานปลาย จนส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลสะดุด กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง สร้างปัญหาและถอยหลังลงคลองอย่างน่าเสียดาย เป็นการทำให้รัฐบาลและประชาชน เสียโอกาสในการเดินหน้าพาประเทศไปสู่ความสงบร่มเย็น
นายตวง อัทะไชย ส.ว.สรรหา หารือว่า นายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้นำปรองดอง และจะต้องนำในการแสดงออก ทั้งการกระทำ และนโยบาย สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าที่ได้มีการพูดคุยในปัจจุบัน และนายกรัฐมนตรี จะต้องนำไปสู่การกระทำ คือ ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มบุคคลที่ขัดแย้งในบ้านเมือง ซึ่งความขัดแย้งระหว่างบุคคล ได้กลายเป็นกองกำลังที่สะสมกองกำลังของตัวเองขึ้นมา เรื่องนี้รัฐบาลทราบดี
** เชื่อส.พระปกเกล้าไม่ถอนผลวิจัย
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานเลขานุการ กมธ.ปรองดองฯ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยได้ยินว่า สถาบันพระปกเกล้าจะถอนงานวิจัยเรื่องความปรองดองออกจากผลสรุปของกมธ.ปรองดอง และตนก็มั่นใจในจริยธรรมของผู้ทำงานวิจัย 100 % ว่าจะไม่มีการถอนเรื่องดังกล่าวแน่นอน เพราะสถาบันพระปกเกล้า ได้สรุปผลการวิจัยมาให้เรา และที่สำคัญก็ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพื่อนำมาพิจารณาในการประชุมสภาฯสมัยนิติบัญญัติมาแล้วด้วย แต่หากจะถอนงานวิจัยมีเงื่อนไขเดียวคือ ขอกลับไปแก้ไขข้อบกพร่องเท่านั้น
** เตือนปธ.สภาคำนึงถึงความเป็นกลาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เวลานี้แนวที่ทำอยู่มันไม่ใช่การปรองดอง แต่เป็นการใช้เสียงข้างมากที่จะนำไปสู่เป้าหมายการล้างความผิดให้กับคนบางกลุ่มเท่านั้น ตนเชื่อว่าขณะนี้ผู้ที่ทำวิจัยหรือผู้ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในหลายขั้นตอน ก็มองเห็นว่า ไม่ได้มีการนำเอาเจตนารมย์ของการปรองดองไปสานต่ออย่างแท้จริง
ทั้งนี้หากทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย คิดว่าท่านประธานรัฐสภา ควรได้คำนึงถึงสถานะของความเป็นกลาง ที่เป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งในการประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า ในวันที่ 3 เม.ย. ก็คิดว่าประธานสภาฯ ควรจะฟังกรรมการสภา และยังไม่ทราบด้วยว่า ในการประชุมเขาจะคุยกันอย่างไร และถ้าหากประธานไม่ฟังกรรมการ ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้
เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ ( 2 เม.ย. ) ที่สำนักงานกฎหมาย มารุต-รุจิระ นายมารุต บุนนาค ผู้ริเร่มก่อตั้งสถาบันพระปกเกล้า ให้สัมภาษณ์ เปิดใจเกี่ยวกับบทบาของสถาบันพระปกเกล้า เรื่องการปรองดองในปัจจุบันว่า มีความรู้สึกห่วงใย แต่จากกรณีที่คณะผู้วิจัย ได้ทำการวิจัยความเห็นทางการเมืองให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งจากการติดตามในรายละเอียด พบว่า สถาบันพระปกเกล้าให้ความเห็นกว้างๆ ในหลายประเด็น แต่คณะกรรมาธิการปรองดองฯได้ใช้ข้อความบางตอนของผลการวิจัยเท่านั้น ซึ่งมีการนำไปใช้ไม่หมด ทำให้ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ของคณะผู้วิจัย ทั้งที่มีการระบุแล้วว่า ไม่อยากให้มีการนำผลวิจัยไปใช้ในทางการเมือง แต่คณะกรรมาธิการฯ ก็ไม่ยินยอม ตนจึงมีความเป็นห่วงว่า จะมีความคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น
ดังนั้นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อยืนหยัดความเป็นสถาบันทางวิชาการที่มีความอิสระ และความน่าเชื่อถือของประชาชน ตนจึงขอแนะนำให้สถาบันพระปกเกล้า ถอนรายงานการวิจัยเรื่องดังกล่าว คืนมาจากสภาฯ โดยให้ทำเรื่องอย่างเป็นทางการ และอยากให้การประชุมของสภาพระปกเกล้า ในวันนี้ (3 เม.ย. ) พิจารณาเรื่องนี้ด้วย
นายมารุต กล่าวด้วยว่า ข้อเสนอดังกล่าวนี้ ยืนยันว่าเสนอด้วยใจจริง และชื่นชมสถาบันพระปกเกล้ามาโดยตลอด โดยเฉพาะการทำงานของ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันฯ ที่มีผลงานจำนวนมาก และทำงานได้ดี จึงไม่อยากให้สถาบันฯ ถูกมองว่าขาดความน่าเชื่อถือ
** เร่งออกพ.ร.บ.ปรองดองจะขัดแย้งหนัก
นายวันชัย สอนศิริ ส.ว.สรรหา การขยายเวลาการปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎรรัฐบาลอาจช่วงชิง ออกร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง หรือ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งจะเป็นจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริง แม้ว่ารัฐบาลจะชนะด้วยเสียงข้างมาก ตนกังวลว่าจะเป็นการสร้างความขัดแย้งในสังคมมากกว่า และอาจมีปัญหาบานปลาย จนส่งผลให้การทำงานของรัฐบาลสะดุด กระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และการเมือง สร้างปัญหาและถอยหลังลงคลองอย่างน่าเสียดาย เป็นการทำให้รัฐบาลและประชาชน เสียโอกาสในการเดินหน้าพาประเทศไปสู่ความสงบร่มเย็น
นายตวง อัทะไชย ส.ว.สรรหา หารือว่า นายกรัฐมนตรี จะต้องเป็นผู้นำปรองดอง และจะต้องนำในการแสดงออก ทั้งการกระทำ และนโยบาย สิ่งที่น่ากลัวมากกว่าที่ได้มีการพูดคุยในปัจจุบัน และนายกรัฐมนตรี จะต้องนำไปสู่การกระทำ คือ ความขัดแย้งระหว่างกลุ่มบุคคลที่ขัดแย้งในบ้านเมือง ซึ่งความขัดแย้งระหว่างบุคคล ได้กลายเป็นกองกำลังที่สะสมกองกำลังของตัวเองขึ้นมา เรื่องนี้รัฐบาลทราบดี
** เชื่อส.พระปกเกล้าไม่ถอนผลวิจัย
นายชวลิต วิชยสุทธิ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานเลขานุการ กมธ.ปรองดองฯ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยได้ยินว่า สถาบันพระปกเกล้าจะถอนงานวิจัยเรื่องความปรองดองออกจากผลสรุปของกมธ.ปรองดอง และตนก็มั่นใจในจริยธรรมของผู้ทำงานวิจัย 100 % ว่าจะไม่มีการถอนเรื่องดังกล่าวแน่นอน เพราะสถาบันพระปกเกล้า ได้สรุปผลการวิจัยมาให้เรา และที่สำคัญก็ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา เพื่อนำมาพิจารณาในการประชุมสภาฯสมัยนิติบัญญัติมาแล้วด้วย แต่หากจะถอนงานวิจัยมีเงื่อนไขเดียวคือ ขอกลับไปแก้ไขข้อบกพร่องเท่านั้น
** เตือนปธ.สภาคำนึงถึงความเป็นกลาง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า เวลานี้แนวที่ทำอยู่มันไม่ใช่การปรองดอง แต่เป็นการใช้เสียงข้างมากที่จะนำไปสู่เป้าหมายการล้างความผิดให้กับคนบางกลุ่มเท่านั้น ตนเชื่อว่าขณะนี้ผู้ที่ทำวิจัยหรือผู้ที่เข้าไปมีส่วนร่วมในหลายขั้นตอน ก็มองเห็นว่า ไม่ได้มีการนำเอาเจตนารมย์ของการปรองดองไปสานต่ออย่างแท้จริง
ทั้งนี้หากทุกอย่างเป็นไปตามเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย คิดว่าท่านประธานรัฐสภา ควรได้คำนึงถึงสถานะของความเป็นกลาง ที่เป็นประมุขของฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งในการประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า ในวันที่ 3 เม.ย. ก็คิดว่าประธานสภาฯ ควรจะฟังกรรมการสภา และยังไม่ทราบด้วยว่า ในการประชุมเขาจะคุยกันอย่างไร และถ้าหากประธานไม่ฟังกรรมการ ก็จะทำให้เกิดปัญหาได้