ASTVผู้จัดการรายวัน-สภาสถาบันพระปกเกล้า ออกแถลงการณ์ แก้เกมพวกมากลากไป เสนอขยายอายุกมธ.วิสามัญฯถึงสิ้นปี 2555 จัดเวทีหาทางออกทุกระดับก่อนตกผลึก ขู่ดึงวิจัยปรองดองกลับ หากนำไปอ้างอิงอุ้มนายใหญ่ ไฟเขียว “กมธ.บิ๊กบัง” รายงานปรองดองสภาฯวันนี้ ด้าน “บิ๊กบัง-วิปรัฐ”มึนท่าทีขยายเวลา
วานนี้(3 เม.ย.)นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานการประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า เพื่อพิจารณารายงานศึกษาวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ณ สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โดยใช้เวลาประชุมร่วม 3 ชั่วโมง
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และคณะผู้วิจัย แถลงยืนยันว่าการทำวิจัยดังกล่าวเป็นการใช้งบประมาณของสถาบันไม่มีการว่าจ้าง พร้อมย้ำว่าผลการวิจัยเป็นเพียงข้อเสนอแนะแนวทางไม่ใช่ข้อสรุปเพื่อนำไปปฏิบัติในการสร้างความปรองดองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สถาบันยินดีให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎรที่มี พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานนำรายงานดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบในวันที่ 4 เม.ย.นี้
และให้นำรายงานดังกล่าวไปจัดเวทีเสวนาเพื่อหาทางออกร่วมกันทั้งในระดับพรรคการเมืองและภาคประชาชนทั่วประเทศ พร้อมขอให้ฝ่ายค้าน และประชาชนทุกคน เห็นแก่ประเทศให้ความร่วมมือกันพูดคุยหาทางออกอย่างสร้างสรรค์เพื่อยุติข้อขัดแย้ง แต่มีการนำรายงานของสถาบันไปอ้างอิงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเป็นเหตุแห่งความขัดแย้ง สถาบันพระปกเกล้าก็พร้อมที่จะขอรายงานดังกล่าวกลับคืน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมองว่า หากจะมีการใช้เสียงข้างมากก็ควรจะเป็นเพียงแค่มติในการรับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งอ้างอิงรายงานวิจัยนี้ และควรจะขยายอายุของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯจนสิ้นสมัยประชุมสมัยหน้าเป็นอย่างน้อย คือสิ้นปี 2555 เพื่อให้เอารายงานไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ของงานวิจัยชิ้นนี้ คือไปพูดคุยกันในระดับประเทศอย่างกว้างขวาง
ส่วนหากรัฐบาลนำผลการวิจัยไปขยายผลต่อจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางสภาสถาบันพระปกเกล้ามีแนวทางที่ชัดเจนว่า ไม่ใช่ข้อเสนอของสถาบันนี้ ดังนั้นจะไม่ให้มีการนำไปอ้างอิง
ต่อข้อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการออกแถลงการณ์ของสถาบันพระปกเกล้าจะยับยั้งปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมาธิการฯเป็นผู้รายงานต่อสภา ดังนั้นขั้นตอนที่บอกว่าถอนหรือไม่ถอน คงไม่มีผลอะไร เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรยืนยันแล้วว่าสภาฯเดินหน้าต่อ แต่สิ่งเดียวที่สภาสถาบันพระปกเกล้าจะทำได้คือ หากจะเดินหน้าต่อ ก็ควรไปในทิศทางที่ควรจะเป็น คือการขยายเวลาของคณะกรรมาธิการฯปรองดอง และกลับมาสู่กระบวนการที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของงานวิจัย
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า สภาจะมีการพิจารณาตามวาระที่บรรจุไว้ตามปกติรวมถึงวาระของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่จะเสนอรายงานศึกษาวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติให้สภารับทราบด้วย ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของกรรมาธิการฯและนำผลรายงานของสถาบันพระปกเกล้าไปปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน สถาบันพระปกเกล้าได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง รายงานการวิจัย “การสร้างความปรองดองแห่งชาติ” ตอนหนึ่งระบุว่า หากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบกับรายงาน และแจ้งคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังข้อเสนอเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ อันจะนำไปสู่ความสับสนของประชาชน และนำไปสู่ “สงครามความปรองดอง” อันเป็นการสถาปนา “ความยุติธรรมของผู้ชนะ” ขึ้น ทั้งยังจะเป็นเหตุแห่งความขัดแย้ง และความรุนแรงนั้น สถาบันก็มีความเสียใจที่จะต้องขอรายงานการวิจัยดังกล่าวกลับคืนมา และหากผู้ใดจะทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่งานดังกล่าวต่อสาธารณะชน จะต้องขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสถาบันก่อน
อีกด้าน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดของคำแถลงการณ์ ในเบื้องต้นกมธ.ปรองดองได้เสนอเรื่องเข้าสู่สภาฯและทางสภาฯได้บรรจุในวาระ การประชุมแล้ว โดยตามขั้นตอนปฏิบัติตนไม่มั่นใจว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ขอหารือกับฝ่ายธุรการก่อน ส่วน ความเห็นส่วนตัวมองประเด็นที่สถาบันพระปกเกล้าจะถอนผลการวิจัย หากมีการรีบเร่งสรุปรายงานเพื่อส่งไปให้ครม. ดำเนินการต่อไป ตนคิดว่าคงไม่มีอะไร อีกทั้งคนในสถาบันพระปกเกล้ามีอยู่หลายส่วน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กมธ.ปรองดอง กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดแถลงการณ์ ที่ขอให้เลื่อนการพิจารณาผลสรุปของกมธ.ปรองดองออกไปจนถึงปิดสมัยประชุมสภาฯ สามัญทั่วไป คงต้องสอบถามไป พล.อ.สนธิว่าจะมีความเห็นอย่างไร และ ตนไม่ทราบว่าสิ่งที่สถาบันพระปกเกล้าบอกให้กมธ.ปรองดองขยายเวลาการศึกษามี รายละเอียดเช่นไร หรือสถาบันพระปกเกล้าอยากจะนำรายงานผลงานวิจัยนำกลับไปปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หรือจะขยายเวลาการประชุมกมธ.ปรองดองและค้างรายงานการปรองดองไว้เฉยๆและการขยายเวลาทำไปเพื่ออะไร
เบื้องต้น หากเสนอให้ขยายเวลาก็ให้ระบุให้ชัดเจน ดังนั้น ตนจึงไม่เข้าใจว่ากมธ.ปรองดองทำงานเสร็จแล้ว จะให้ต่ออายุการทำงานไปทำไม ส่วนประเด็นข้อเสนอสถาบันพระปกเกล้า ตนไม่แน่ใจว่า จะขึ้นอยู่ดุลยพินิจของพล.อ.สนธิ หรือต้องให้เป็นการตัดสินในร่วมกันของสมาชิกสภาฯ
ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค แถลงว่า พรรคยอมรับความเป็นอิสระของสถาบันพระปกเกล้า ยอมรับแนวคิดของผู้ทีทำการวิจัย ,ในเรื่องการขยายเวลาการทำงานกมธ.ปรองดอง ทางพรรคขอให้กมธ.ชุดดังกล่าวปฏิบัติตามคำเสนอ พรรคก็ยินดีส่วนจะเป็นคนเดิมที่ลาออกไปหรือไม่ก็จะพิจารณากันอีกทีหากมีการขยายเวลาทำงานของกมธ.ออกไป
ในส่วนของรายงานวิจัย พรรคก็คงต้องสงวนสิทธิ์ ในการที่จะคัดค้าน ที่ผิดทั้งหลักวิชาการและกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะเราถือว่าถ้ามีการดึงดัน ดังนั้นกมธ.ก็ควรจะทบทวนข้อเสนอของสภาสถาบันพระปกเกล้า
ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมสมาชิกบางคนประเมินว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม แต่ยังหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ส่งตัวแทนร่วมเป็นกรรมาธิการมาตลอดก็ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าทำตัวเป็นเด็กประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองเนื่องจากมีถ่ายทอดสดตลอดการประชุม สำหรับพรรคเพื่อไทยจะเน้นอภิปรายเนื้อหา
นายนพดล ยังปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีพิมพ์เขียวร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ไม่มีการพูดถึงเรื่องเพิ่มเนื้อหาปลดล็อคให้กับ 109 อดีตกรรมการบริหารพรรค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงว่ามีการกำชับให้ ส.ส.เข้าประชุมสภาฯ โดยพร้อมเพรียง เนื่องจากยังมีกฎหมายรอการนำเสนออีกหลายฉบับ นอกจากนี้สมาชิกพรรคได้มีการหารือกันกรณีที่สถาบันพระปกเกล้า จะถอนผลการศึกษาเรื่องการปรองดอง ซึ่งในที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะถอนหรือไม่ถอนผลการศึกษาก็ไม่สำคัญ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่มกรีน กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับแถลงการณ์แต่สถาบันพระปกเกล้าไม่ควรเอาแต่ขู่ แต่ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะเรื่องนี้ถลำลึกไปไกลมาก และสังคมก็เคลือบแคลงในบทบาทของสถาบันไม่น้อยในเรื่องนี้ สถาบันฯ เป็นเจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้ จะปฏิเสธความรับผิดชอบก็เป็นเรื่องยาก ฉะนั้นก็ต้องตัดสินใจเด็ดขาด หาก กมธ. และสภาฯ ยังดื้อดึง รวบรัดตัดตอน ก็จะไม่ได้รับการยอมรับและหมดความชอบธรรมไปด้วย.
วานนี้(3 เม.ย.)นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรในฐานะประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานการประชุมสภาสถาบันพระปกเกล้า เพื่อพิจารณารายงานศึกษาวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ณ สถาบันพระปกเกล้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ แจ้งวัฒนะ โดยใช้เวลาประชุมร่วม 3 ชั่วโมง
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า และคณะผู้วิจัย แถลงยืนยันว่าการทำวิจัยดังกล่าวเป็นการใช้งบประมาณของสถาบันไม่มีการว่าจ้าง พร้อมย้ำว่าผลการวิจัยเป็นเพียงข้อเสนอแนะแนวทางไม่ใช่ข้อสรุปเพื่อนำไปปฏิบัติในการสร้างความปรองดองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ สถาบันยินดีให้คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติสภาผู้แทนราษฎรที่มี พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นประธานนำรายงานดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเห็นชอบในวันที่ 4 เม.ย.นี้
และให้นำรายงานดังกล่าวไปจัดเวทีเสวนาเพื่อหาทางออกร่วมกันทั้งในระดับพรรคการเมืองและภาคประชาชนทั่วประเทศ พร้อมขอให้ฝ่ายค้าน และประชาชนทุกคน เห็นแก่ประเทศให้ความร่วมมือกันพูดคุยหาทางออกอย่างสร้างสรรค์เพื่อยุติข้อขัดแย้ง แต่มีการนำรายงานของสถาบันไปอ้างอิงเพื่อแสวงหาผลประโยชน์แก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง หรือเป็นเหตุแห่งความขัดแย้ง สถาบันพระปกเกล้าก็พร้อมที่จะขอรายงานดังกล่าวกลับคืน
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ที่ประชุมมองว่า หากจะมีการใช้เสียงข้างมากก็ควรจะเป็นเพียงแค่มติในการรับทราบรายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ซึ่งอ้างอิงรายงานวิจัยนี้ และควรจะขยายอายุของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯจนสิ้นสมัยประชุมสมัยหน้าเป็นอย่างน้อย คือสิ้นปี 2555 เพื่อให้เอารายงานไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ของงานวิจัยชิ้นนี้ คือไปพูดคุยกันในระดับประเทศอย่างกว้างขวาง
ส่วนหากรัฐบาลนำผลการวิจัยไปขยายผลต่อจะทำอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ทางสภาสถาบันพระปกเกล้ามีแนวทางที่ชัดเจนว่า ไม่ใช่ข้อเสนอของสถาบันนี้ ดังนั้นจะไม่ให้มีการนำไปอ้างอิง
ต่อข้อถามว่าจะมั่นใจได้อย่างไรว่าการออกแถลงการณ์ของสถาบันพระปกเกล้าจะยับยั้งปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นได้ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมาธิการฯเป็นผู้รายงานต่อสภา ดังนั้นขั้นตอนที่บอกว่าถอนหรือไม่ถอน คงไม่มีผลอะไร เพราะประธานสภาผู้แทนราษฎรยืนยันแล้วว่าสภาฯเดินหน้าต่อ แต่สิ่งเดียวที่สภาสถาบันพระปกเกล้าจะทำได้คือ หากจะเดินหน้าต่อ ก็ควรไปในทิศทางที่ควรจะเป็น คือการขยายเวลาของคณะกรรมาธิการฯปรองดอง และกลับมาสู่กระบวนการที่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของงานวิจัย
ด้านนายสมศักดิ์ กล่าวว่า สภาจะมีการพิจารณาตามวาระที่บรรจุไว้ตามปกติรวมถึงวาระของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ที่จะเสนอรายงานศึกษาวิจัยการสร้างความปรองดองแห่งชาติให้สภารับทราบด้วย ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรว่าจะให้ความเห็นชอบตามข้อเสนอของกรรมาธิการฯและนำผลรายงานของสถาบันพระปกเกล้าไปปฏิบัติตามวัตถุประสงค์หรือไม่
รายงานข่าวแจ้งว่า วันเดียวกัน สถาบันพระปกเกล้าได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง รายงานการวิจัย “การสร้างความปรองดองแห่งชาติ” ตอนหนึ่งระบุว่า หากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเห็นชอบกับรายงาน และแจ้งคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป ดังข้อเสนอเดิมของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ อันจะนำไปสู่ความสับสนของประชาชน และนำไปสู่ “สงครามความปรองดอง” อันเป็นการสถาปนา “ความยุติธรรมของผู้ชนะ” ขึ้น ทั้งยังจะเป็นเหตุแห่งความขัดแย้ง และความรุนแรงนั้น สถาบันก็มีความเสียใจที่จะต้องขอรายงานการวิจัยดังกล่าวกลับคืนมา และหากผู้ใดจะทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่งานดังกล่าวต่อสาธารณะชน จะต้องขออนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากสถาบันก่อน
อีกด้าน พล.อ.สนธิ กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดของคำแถลงการณ์ ในเบื้องต้นกมธ.ปรองดองได้เสนอเรื่องเข้าสู่สภาฯและทางสภาฯได้บรรจุในวาระ การประชุมแล้ว โดยตามขั้นตอนปฏิบัติตนไม่มั่นใจว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง ขอหารือกับฝ่ายธุรการก่อน ส่วน ความเห็นส่วนตัวมองประเด็นที่สถาบันพระปกเกล้าจะถอนผลการวิจัย หากมีการรีบเร่งสรุปรายงานเพื่อส่งไปให้ครม. ดำเนินการต่อไป ตนคิดว่าคงไม่มีอะไร อีกทั้งคนในสถาบันพระปกเกล้ามีอยู่หลายส่วน
นายอุดมเดช รัตนเสถียร ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กมธ.ปรองดอง กล่าวว่า ตนไม่ทราบรายละเอียดแถลงการณ์ ที่ขอให้เลื่อนการพิจารณาผลสรุปของกมธ.ปรองดองออกไปจนถึงปิดสมัยประชุมสภาฯ สามัญทั่วไป คงต้องสอบถามไป พล.อ.สนธิว่าจะมีความเห็นอย่างไร และ ตนไม่ทราบว่าสิ่งที่สถาบันพระปกเกล้าบอกให้กมธ.ปรองดองขยายเวลาการศึกษามี รายละเอียดเช่นไร หรือสถาบันพระปกเกล้าอยากจะนำรายงานผลงานวิจัยนำกลับไปปรับปรุงแก้ไขหรือไม่ หรือจะขยายเวลาการประชุมกมธ.ปรองดองและค้างรายงานการปรองดองไว้เฉยๆและการขยายเวลาทำไปเพื่ออะไร
เบื้องต้น หากเสนอให้ขยายเวลาก็ให้ระบุให้ชัดเจน ดังนั้น ตนจึงไม่เข้าใจว่ากมธ.ปรองดองทำงานเสร็จแล้ว จะให้ต่ออายุการทำงานไปทำไม ส่วนประเด็นข้อเสนอสถาบันพระปกเกล้า ตนไม่แน่ใจว่า จะขึ้นอยู่ดุลยพินิจของพล.อ.สนธิ หรือต้องให้เป็นการตัดสินในร่วมกันของสมาชิกสภาฯ
ท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรค แถลงว่า พรรคยอมรับความเป็นอิสระของสถาบันพระปกเกล้า ยอมรับแนวคิดของผู้ทีทำการวิจัย ,ในเรื่องการขยายเวลาการทำงานกมธ.ปรองดอง ทางพรรคขอให้กมธ.ชุดดังกล่าวปฏิบัติตามคำเสนอ พรรคก็ยินดีส่วนจะเป็นคนเดิมที่ลาออกไปหรือไม่ก็จะพิจารณากันอีกทีหากมีการขยายเวลาทำงานของกมธ.ออกไป
ในส่วนของรายงานวิจัย พรรคก็คงต้องสงวนสิทธิ์ ในการที่จะคัดค้าน ที่ผิดทั้งหลักวิชาการและกระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะเราถือว่าถ้ามีการดึงดัน ดังนั้นกมธ.ก็ควรจะทบทวนข้อเสนอของสภาสถาบันพระปกเกล้า
ที่พรรคเพื่อไทย นายนพดล ปัทมะ กรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในที่ประชุมสมาชิกบางคนประเมินว่าพรรคประชาธิปัตย์อาจจะวอล์คเอาท์ออกจากห้องประชุม แต่ยังหวังว่าพรรคประชาธิปัตย์ส่งตัวแทนร่วมเป็นกรรมาธิการมาตลอดก็ต้องทำตัวเป็นผู้ใหญ่ แต่ถ้าทำตัวเป็นเด็กประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเองเนื่องจากมีถ่ายทอดสดตลอดการประชุม สำหรับพรรคเพื่อไทยจะเน้นอภิปรายเนื้อหา
นายนพดล ยังปฏิเสธว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีพิมพ์เขียวร่างพ.ร.บ.ปรองดอง ไม่มีการพูดถึงเรื่องเพิ่มเนื้อหาปลดล็อคให้กับ 109 อดีตกรรมการบริหารพรรค
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรค แถลงว่ามีการกำชับให้ ส.ส.เข้าประชุมสภาฯ โดยพร้อมเพรียง เนื่องจากยังมีกฎหมายรอการนำเสนออีกหลายฉบับ นอกจากนี้สมาชิกพรรคได้มีการหารือกันกรณีที่สถาบันพระปกเกล้า จะถอนผลการศึกษาเรื่องการปรองดอง ซึ่งในที่ประชุมเห็นตรงกันว่าจะถอนหรือไม่ถอนผลการศึกษาก็ไม่สำคัญ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานกลุ่มกรีน กล่าวว่าตนเห็นด้วยกับแถลงการณ์แต่สถาบันพระปกเกล้าไม่ควรเอาแต่ขู่ แต่ไม่กล้าตัดสินใจ เพราะเรื่องนี้ถลำลึกไปไกลมาก และสังคมก็เคลือบแคลงในบทบาทของสถาบันไม่น้อยในเรื่องนี้ สถาบันฯ เป็นเจ้าของงานวิจัยชิ้นนี้ จะปฏิเสธความรับผิดชอบก็เป็นเรื่องยาก ฉะนั้นก็ต้องตัดสินใจเด็ดขาด หาก กมธ. และสภาฯ ยังดื้อดึง รวบรัดตัดตอน ก็จะไม่ได้รับการยอมรับและหมดความชอบธรรมไปด้วย.