หัวหน้าเพื่อไทยทำเป็นมึน ส.พระปกเกล้าจะถอนรายงาน อ้างใครเอาไปใช้เป็นเรื่องสาธารณะ สวนกลับถ้ารู้ว่าทำแล้วจะเกิดเหตุรุนแรงทำไมไม่คิด บอกชาวบ้านอยากปรองดอง โอ่นายกฯ จริงใจ ไร้วาระซ่อนเร้น เมินฝ่ายค้านไม่เอาด้วย ชูเสียงข้างมากตัดสิน บอกทั่วโลกเขาก็ทำกัน
วันนี้ (5 เม.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกแถลงการณ์จี้นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ให้ออกจากตำแหน่งว่า ตนก็เพิ่งเคยได้ยินและมันแปลกๆ เพราะมีรายงานผลการศึกษาออกมาแล้วก็ต้องนำเสนอสาธารณะ และหากฝ่ายใดนำรายงานมาใช้หรือฝ่ายใดไม่เห็นด้วยนั้นย่อมเป็นเรื่องสาธารณะ แต่ไม่ใช่ว่าเมื่อนำเสนอรายงานแล้วแต่มีคนคัดค้านแล้วถอนคืนนั้น ตนไม่เคยเห็น และทั่วโลกนั้นยึดหลักว่าเมื่อเสนอรายงานและสังคมคิดและพูดในเรื่องนี้กันแล้ว จากนั้นฝ่ายใดคัดค้านและฝ่ายใดเห็นด้วย และจะมีการนำรายงานไปใช้หรือไม่นั้น มันเป็นเรื่องสาธารณะ เมื่อถามว่า สถาบันพระปกเกล้าอาจเกรงว่าหากนำรายงานไปใช้จะเกิดความรุนแรงขึ้นอีก นายยงยุทธกล่าวว่า แล้วทำไมตอนทำรายงานไม่คิด เมื่อทำรายงานมาแบบนี้แล้วต้องรอคนเชียร์แล้วค่อยบอกว่าดีอย่างนั้นหรือ
นายยงยุทธกล่าวว่า ประชาชนอยากปรองดองทั้งนั้น และไม่ต้องขยายเวลาเพราะมันเสียเวลา สถาบันพระปกเกล้าควรปล่อยไปตามที่สาธารณะต้องการว่าจะนำไปใช้อย่างไร คนเห็นด้วยก็มี คนคัดค้านก็เสนอความเห็นออกมา ไม่ใช่ว่าขอคืน มันเป็นธรรมเนียมใหม่หรือ ต้องปล่อยไปสู่สาธารณะที่ต้องวิจารณ์ ไม่ใช่ทำแบบโยนหินถามทาง หากจะทำแบบนั้นไม่ต้องรับทำตั้งเเต่ต้น เมื่อถามว่ารายงานฉบับนี้ฝ่ายนิติบัญญัติกำลังอภิปรายกันและน่าจะก้าวข้ามความปรองดองไปสู่ความขัดแย้งอีกครั้งแล้ว นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่หรอก ตนบอกแล้วว่าหากหญิงร้ายชายเลว มันคงคุยกันไม่ได้ แต่อันนี้ไม่ทราบว่าอีกฝ่ายจะเป็นอย่างไร ตนทราบว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สุภาพ จริงใจ ไม่สร้างเรื่อง อยากปรองดองสมานฉันท์แบบไม่บิดเบือน ไม่มีวาระซ่อนเร้น เมื่อเป็นแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะทำอย่างไร หากร้ายต่อร้ายเจอกันมันคงจะยาวแต่หากฝ่ายหนึ่งร้าย อีกฝ่ายหนึ่งดี ฝ่ายร้ายคงจะเดินต่อไปไม่ได้
เมื่อถามว่า มีความเห็นอย่างไรหลังจากนายคณิต ณ นคร ประธาน คอป.เสนอไม่ควรรวบรัดในการสร้างความปรองดอง นายยงยุทธตอบว่า เป็นสิทธิที่จะแสดงความเห็นได้ ไม่มีปัญหา ควรมีหัวใจเป็นธรรม และเมื่อพูดออกไปแล้วมีฝ่ายใดถูกใจหรือไม่นั้นต้องยอมรับทำใจ ไม่ใช่ว่าทำสิ่งใดออกมาหนึ่งอย่างแล้วบางฝ่ายไม่เห็นด้วย กลับบอกว่าไม่ได้พูดอย่างนั้นและขอคืน เมื่อถามว่าฝ่ายค้านยืนยันไม่ปรองดองตามแนวทางนี้ นายยงยุทธกล่าวว่า ไม่เป็นไร เสียงส่วนใหญ่ในประเทศเเละในรัฐสภาเป็นอย่างไร เรามีระบบการปกครองในระบบประชาธิปไตยที่เคารพเสียงข้างมาก และรับฟังเสียงข้างน้อย เราไม่ใช่ระบบเผด็จการรัฐสภา เพราะทั่วโลกก็ทำอย่างที่ประเทศไทยกระทำที่ใช้เสียงข้างมากตัดสิน และเสียงข้างมากนั้นมาจากประชาชนเลือกตั้ง ไม่อย่างนั้นคงเป็นเผด็จการทั่วโลก หากไม่เคารพเสียงประชาชนคงต้องหาระบบการปกครองใหม่ตามที่ตัวเองพอใจ เมื่อถามว่าการเมืองไทยวิปริตเพราะแต่ละฝ่ายเอาแต่ใจตัวเอง นายยงยุทธกล่าวว่า ผู้สื่อข่าวพูดเอง