รองประธาน กมธ.ปรองดอง รับบรรยากาศการประชุมสภาฯ ที่ผ่านมาไม่ปรองดอง เหตุ ส.ส.พูดแต่เรื่องอดีต ยันไม่ขยายเวลาตามข้อเสนอ “อภิสิทธิ์” เพราะภารกิจ กมธ.จบแล้ว อ้าง ส.ส.พท.ไล่ “บวรศักดิ์” เป็นแค่กลุ่มเล็กๆ โต้ “มาร์ค” ค้านนำ พ.ร.บ.เลือกตั้งท้องถิ่น มาใช้กับการเลือกตั้ง ส.ส.ร. บอก กม.ที่ผ่านรัฐสภามีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน
วันนี้ (5 เม.ย.) นายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาวาระรับทราบรายงานของ กมธ.ปรองดองฯ เมื่อวันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมาว่า บรรยากาศออกมาในลักษณะที่ไม่ค่อยจะปรองดอง ซึ่ง ส.ส.ส่วนใหญ่มักไปหยิบเรื่องในอดีตมาพูดทำให้บรรยากาศเสีย ที่จริงแล้วควรจะมาพูดกันถึงเนื้อหาสาระของผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้ามากกว่าว่าจะยอมรับกันหรือไม่ว่า ทุกวันนี้บ้านเมืองเกิดปัญหา และทุกฝ่ายก็อยากจะปรองดอง ทางสถาบันพระปกเกล้าเขาก็ทำการวิจัยมา เราควรจะมาพูดกันมากกว่าว่าจะทำอย่างไร จะให้อภัยกันหรือไม่ ต้องยอมรับว่าทุกฝ่ายมีส่วนทำผิด และมีส่วนสร้างปัญหา
ผู้สื่อข่าวถามว่าทาง กมธ.ปรองดองฯ จะทบทวนข้อเสนอของผู้นำฝ่ายค้านให้ขยายเวลาเพื่อให้เกิดความละเอียดรอบคอบหรือไม่ นายสามารถกล่าวว่า จะขยายเวลาอย่างไร ผลงานวิจัยก็คืองานวิจัย เพราะเขาได้รายละเอียดและข้อสรุปแล้ว วันนี้สาระอยู่ที่เราต้องเอาผลงานวิจัย ไปทำอย่างไรให้เกิดความปรองดอง ตนถือว่า กมธ.ปรองดองฯ เขาก็เสร็จสิ้นภารกิจแล้ว ต่อจากนี้ก็เป็นเรื่องของสภา ที่จะต้องมาช่วยกันเดินหน้าหาทางออกเพื่อสร้างความปรองดอง
ส่วนที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยบางส่วนได้แถลงข่าวขับไล่ไม่พอใจนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ให้พ้นจากตำแหน่ง เพราะเห็นว่าข้อเสนอของสถาบันพระปกเกล้าเป็นการแทรกแซงและข่มขู่การทำงานของ กมธ.ปรองดองฯ นั้น นายสามารถกล่าวว่า ตนว่าสถาบันพระปกเกล้า เขาก็รับภาระงานจาก กมธ.ปรองดองฯ ไป เขาก็ทำตามหน้าที่ พอเสร็จผลงานวิจัยนั้นก็เป็นเพียงแค่แนวทางเท่านั้น ท่านเพียงบอกว่าอาจจะต้องใช้เวลา เอาผลงานวิจัยมาเป็นเครื่องนำทางสู่ความปรองดอง ทุกฝ่ายก็ยอมรับอยู่แล้วว่าการปรองดองต้องใช้เวลา การอภิปรายในสภาเป็นพียงจุดเริ่มต้นในการสร้างกระแสความปรองดองให้เกิดขึ้นเพื่อเดินหน้าต่อไป ส่วนการที่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยออกมาเช่นนี้ ตนก็คิดว่าเป็นความคิดเห็นของคนกลุ่มหนึ่ง อาจจะไม่ใช่ ส.ส.ทั้งหมด ตนเห็นใจสถาบันพระปกเกล้าที่มารับภารกิจจาก กมธ.ปรองดองฯ ไปทำ เขาก็มีข้อเสนอแนะต่างๆ ออกมา
นายสามารถยังกล่าวในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่…) พ.ศ. … กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงในการนำ พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นมาบังคับใช้ว่า ตนเห็นว่ากฎหมายที่ผ่านรัฐสภาก็ถือว่ามีศักดิ์เท่าเทียมกัน ทุกอย่างผ่านกระบวนการนิติบัญญัติของรัฐสภา กฎหมายท้องถิ่น มันไม่ซับซ้อน ทุกวันนี้เราก็ใช้ในการเลือกตั้งนายก อบจ.ก็มีลักษณะเป็นการเลือกเขตจังหวัดเหมือนกัน กฎหมายท้องถิ่นไม่มีความซับซ้อน ไม่ต้องมีการไปลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มันก็เหมาะสม ทาง กกต.บางส่วนเองก็เห็นด้วยกับแนวทางนี้ แต่อาจจะมีการปรับอะไรบางอย่างให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
ส่วนจะเป็นการเปิดทางให้สมาชิกพรรคการเมือง ส่งผู้สมัครลงเป็น ส.ส.ร.หรือไม่นั้น ตนเห็นว่า การให้สิทธิสมัครต้องไปดูที่หมวดคุณสมบัติ หากไม่อยากให้ผู้เป็นสมาชิกพรรคการเมืองลงก็มีสมาชิกหลายท่านแปรญัตติเอาไว้ ก็ต้องไปเขียนอยู่ในส่วนของคุณสมบัติ คงไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้