กมธ.แก้ รธน.เสียงข้างน้อย เชื่อ ปธ.ทำงานตามใบสั่ง หวังเพิ่มวันการประชุม กมธ.แก้ รธน.ให้เสร็จภายในเดือน เม.ย. แฉให้ความสำคัญเฉพาะ กม.ที่เป็นประโยชน์ต่อ “ทักษิณ” ทั้งที่ กม.สำคัญค้างพิจารณาเพียบ แนะวาระ 4 ข้อที่ควรทำ และไม่ควรทำ
วันนี้ (2 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ และในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณารัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมแถลงว่า จากท่าทีของนายสามารถ แก้วมีชัย ประธาน กมธ.รัฐธรรมนูญ ซึ่งมีท่าทีรวบรัดประชุมให้เสร็จภายในสัปดาห์นี้ และเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สอดรับกับสมัยประชุมที่จะเลื่อนไปถึงสิ้นเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตถึงการเพิ่มเวลาการประชุมพิเศษเป็นประชุมวันพุธ วันพฤหัสบดีเต็มวัน แล้วยังเพิ่มวันอังคาร โดยวันอังคารจะประชุมตามปกติ วันพุธ วันพฤหัสบดีจะเป็นการเชิญผู้สงวนคำแปรญัตติมาชี้แจง ซึ่งเกรงว่าจะมีการทำผิดระเบียบข้อบังคับหรือไม่เนื่องจากต้องทำหนังสือเชิญผู้มาชี้แจงล่วงหน้า ดังนั้น อยากให้ประธานรอบคอบมากกว่าทำตามใบสั่งให้แก้ รธน.เสร็จภายในเดือน เม.ย. ซึ่งน่าจับตาการประชุมพิจารณาในวาระ 2 ที่ต้องการแปรญัตติให้เสร็จก่อนวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 10-12 เม.ย.คงจะใช้โอกาสนี้พิจารณาทั้งวันทั้งคืน และใช้ช่วงสงกรานต์บีบให้ประชุมเสร็จโดยเร็ว
นายเทพไทกล่าวอีกว่า มีข้อพิจารณาจาก กกต.ที่ต้องการให้ออก พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ร.แทนการออกระเบียบตามที่รัฐบาลได้ตั้งธงไว้ ซึ่งไม่ควรให้เป็นเช่นนั้น และไม่ควรที่จะมัดมือชกออก พ.ร.บ.โดยการตั้ง กมธ.เต็มสภาพิจารณา 3 วาระรวด หรือหาช่องออกเป็น พ.ร.ก.โดยอ้างเรื่องความมั่นคง ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมลุแก่อำนาจ ใช้เสียงข้างมากลากไปทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน
ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่า เรื่องการขยายเวลาสมัยประชุมออกไปไม่ใช่เพราะการแก้ไข รธน. แต่เป็นเพราะมีกฎหมายสำคัญที่ต้องพิจารณา นายเทพไทกล่าวว่า ถือเป็นการหลอกลวงประชาชน เพราะรัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญต่อการออกกฎหมายนอกจากกฎหมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เท่านั้น
นายเทพไทกล่าวอีกว่า สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลมี 4 เรื่องที่ควรทำ และ4 เรื่องที่ไม่ควรทำ ซึ่ง 4 เรื่องที่ควรทำ คือ 1. ควรแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนโดยเร็ว 2. แก้ปัญหาพืชผลเกษตรตกต่ำ 3. แก้ปัญหาราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยให้สินค้าราคาแพง 4. แก้ปัญหาความรุนแรง 3 จว.ชายแดนใต้ ส่วน 4 ข้อที่ไม่ควรทำ ได้แก่ 1. ควรถอนญัตติและผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าออกจากการพิจารณา เพราะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย 2. ไม่ควรใช้วิธีลักไก่ให้ ส.ส.21 คนยื่นญัตติ พ.ร.บ.ปรองดองช่วย พ.ต.ท.ทักษิณตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาโยนหินถามทาง 3. ไม่ควรเร่งรัดการแก้ไข รธน.โดยมัดมือชกให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้ และ 4. ไม่ควรไปรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศลาว และกัมพูชา แต่ควรเอาเวลาไปดูแลแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนจะดีกว่า