xs
xsm
sm
md
lg

“เทพไท” เชื่อ กมธ.แก้ รธน.ปักธงผ่าน 3 วาระรวดตามใบสั่ง “แม้ว”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เทพไท เสนพงศ์
“เทพไท” ตั้งข้อสังเกต ปธ.กมธ.แก้ รธน.เร่งรัดจัดประชุมผิดระเบียบข้อบังคับ ขีดเส้นผ่าน 3 วาระรวดก่อนสิ้นเดือน เม.ย.ตามใบสั่ง “แม้ว” เรียกร้อง รมต.กำกับสื่อตอบข้อครหาการแทรกแซงสื่อและใช้สื่อรัฐโจมตีพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม

วันนี้ (2 เม.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า จากท่าทีของนายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมาธิการพิจารณารัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีท่าทีรวบรัดประชุมให้เสร็จภายสัปดาห์นี้ และเข้าสู่การพิจารณาวาระ 2 ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้สอดรับกับสมัยประชุมที่จะเลื่อนไปถึงสิ้นเดือน เม.ย. ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตถึงการเพิ่มเวลาการประชุมพิเศษเป็นประชุมพุธ วันพฤหัสฯ เต็มวัน และยังเพิ่มวันอังคาร โดยวันอังคารจะประชุมตามปกติ วันพุธ วันพฤหัสฯ จะเป็นการเชิญผู้สงวนคำแปรญัตติมาชี้แจง ซึ่งเกรงว่าจะมีการทำผิดระเบียบข้อบังคับหรือไม่ เนื่องจากต้องทำหนังสือเชิญผู้มาชี้แจงล่วงหน้า ดังนั้น อยากให้ประธานรอบคอบมากกว่าทำตามใบสั่งให้แก้รัฐธรรมนูญเสร็จภายในเดือน เม.ย. ซึ่งน่าจับตาการประชุมพิจารณาในวาระ 2 ที่ต้องการแปรญัตติให้เสร็จก่อนวันที่ 12 เม.ย. ซึ่งจะมีการประชุมในวันที่ 10-12 เม.ย.คงจะใช้โอกาสนี้พิจารณาทั้งวันทั้งคืน และใช้ช่วงสงกรานต์บีบให้ประชุมเสร็จโดยเร็ว

นานเทพไทกล่าวอีกว่า มีข้อพิจาณาจาก กกต.ที่ต้องการให้ออก พ.ร.บ.เลือกตั้ง ส.ส.ร.แทนการออกระเบียบตามมที่รัฐบาลได้ตั้งธงไว้ ซึ่งไม่ควรให้เป็นเช่นนั้นและไม่ควรที่จะมัดมือชกออก พ.ร.บ.โดยการตั้ง กมธ.เต็มสภาพิจารณา 3 วาระรวด หรือหาช่องออกเป็น พ.ร.ก.โดยอ้างเรื่องความมั่นคง ซึ่งจะเป็นการแสดงให้เห็นถึงพฤติกรรมลุแก่อำนาจ ใช้เสียงข้างมากลากไป ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคเพื่อไทยออกมระบุว่า เรื่องการขยายเวลาสมัยประชุมออกไปไม่ใช่เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่เป็นเพราะมีกฎหมายสำคัญที่ต้องพิจารณา ซึ่งถือเป็นการหลอกลวงประชาชนเพราะรัฐบาลไม่เคยให้ความสำคัญต่อการออกกฎหมายนอกจากกฎหมายที่จะเป็นประโยชน์ต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

นายเทพไทกล่าวอีกว่า สถานการณ์ขณะนี้รัฐบาลมี 4 เรื่องที่ควรทำ และ 4 เรื่องที่ไม่ควรทำ ซึ่ง 4 เรื่องที่ควรทำ คือ 1. ควรแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนโดยเร็ว 2. แก้ปัญหาพืชผลเกษตรตกต่ำ 3. แก้ปัญหาราคาน้ำมันซึ่งเป็นปัจจัยให้สินค้าราคาแพง 4. แก้ปัญหาความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนใต้ ส่วน 4 ข้อที่ไม่ควรทำได้แก่ 1. ควรถอนญัตติและผลการวิจัยของสถาบันพระปกเกล้าออกจากการพิจารณา เพราะมีหลายฝ่ายไม่เห็นด้วย 2. ไม่ควรใช้วธีลักไก่ให้ ส.ส.21 คนยื่นญัตติ พ.ร.บ.ปรองดองช่วย พ.ต.ท.ทักษิณตามที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ ออกมาโยนหินถามทาง 3. ไม่ควรเร่งรัดการแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยมัดมือชกให้เสร็จภายในสมัยประชุมนี้ และ 4. ไม่ควรไปรดน้ำดำหัว พ.ต.ท.ทักษิณที่ประเทศลาว และกัมพูชา แต่ควรเอาเวลาไปดูแลแก้ไขให้พี่น้องประชาชนจะดีกว่า

นายเทพไท ในฐานะ รมต.ประจำสำนักนายกฯ เงา กล่าวว่า อยากเรียกร้องให้นายนิวัฒน์ธำรงค์ บุญทรงไพศาล รมต.ประจำสำนักนายกฯ ในฐานะกำกับดูแลสื่อของรัฐควรเข้าไปดูแลการแทรกแซงสื่อในหน่วยงานของรัฐโดยเฉพาะช่อง 9 ที่กลับมาเป็นแดนสนธยาอีกครั้ง โดยพรรคประชาธิปัตย์ได้ซื้อเวลาออกอากาศเทปงาน “จับมือรวมพลังออกแบบประเทศไทย” ซึ่งมีการพูดตั้งแต่ยังไม่ได้ส่งเทปว่าเทปนี้ไม่ผ่านการเซ็นเซอร์ อย่างไรก็ตาม รอง ผอ.อสมท ได้สอบถามมาว่าเทปดังกล่าวมีการพาดพิงถึงบุคคลที่ 3 หรือไม่ แต่ได้ยืนยันไปว่าไม่มีการพูดถึงบุคคลที่ 3 มีแต่พูดถึงนโยบาย ซึ่งรอง ผอ.ก็รับทราบ แต่ก่อนที่จะเดินทางไปต่างประเทศ 1 ชม.ก็มีแจ้งยกเลิกไม่ให้ออกอากาศ ถือเป็นพิรุธ ไม่เป็นธรรม ซึ่ง รมต.ประจำต้องตอบคำถามว่าเรื่องนี้ข้อเท็จจริงเป็นเช่นไร

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ขณะนี้สถานีโทรทัศน์ช่อง 11 ที่เป็นหน่วยงานของรัฐทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์รัฐบาลก็ไม่มีปัญหา แต่การเชิญพิธีกรที่มาจากรายการเอเชียอัพเดท เป็นการเปิดโอกาสให้เข้ามาโจมตีฝ่ายค้านอย่างเดียว และต้องตอบคำถามถึงการกีดกันไม่ให้ผู้สื่อข่าวช่อง 7 ไปทำข่าวนายกฯ ที่กัมพูชา เป็นการแทรกแซงสื่อหรือไม่ เรื่องนี้ไม่ควรเพิกเฉยทำเป็นทองไม่รู้ร้อน และหากยังเพิกเฉยจะมีมาตรการต่อไปอีก อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับธรรมาภิบาล เมื่อไหร่ที่มีโอกาสก็จะนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ ในเบื้องต้นอาจจะมีการตั้งกระทู้ถามก่อน
กำลังโหลดความคิดเห็น