ผู้นำฝ่ายค้านซัดนายกฯ ใจดำ ไม่ลงพื้นที่เหตุคาร์บอมบ์ 3 จว.ภาคใต้ ชี้ปัญหาเกิดจากนโยบายฝ่ายการเมือง หวั่นซ้ำรอยยุค “แม้ว” สับ “ยุทธศักดิ์” มั่วสรุปเหตุจากปัญหายาเสพติด พร้อมเตรียมยื่นถามกระทู้สด รบ. โวยอย่าโยนบาป รบ.ชุดที่แล้วเจรจาทางลับ
วันนี้ (1 เม.ย.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ กล่าวภายหลังลงพื้นที่โรงแรมลีการ์เดนส์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา และอ.เมือง จ.ยะลา เพื่อดูสถานที่เกิดเหตุคาร์บอมบ์ว่า ตนมีความเป็นห่วง เพราะเป็นเหตุที่เกิดขึ้นกลางชุมชน ซึ่งประชาชนได้รับผลกระทบ การลงพื้นที่ของตนเพื่อแสดงความเสียใจและจะช่วยติดตามประเด็นต่างๆ ที่เป็นความห่วงใย โดยเบื้องต้นคิดว่าต้องมีการปรับปรุงระบบการป้องกันเหตุ และต้องขอความร่วมมือจากประชาชนด้วย ทั้งนี้ ทั้งจุดเกิดเหตุทั้ง 2 แห่งมีการใช้รถยนต์ที่ได้ขโมยไป โดยขณะนี้มีการกล่าวถึงกันว่ารถยนต์คันดังกล่าวเคยใช้ก่อเหตุมาหรือไม่ ทำให้การติดตามหลังจากนี้ต้องเข้มข้น โดยที่ทั้ง 2 แห่งก็คงเป็นการใช้ระเบิดที่ประกอบขึ้นเองตามที่ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกฯ ชี้แจง และตนก็เห็นว่ามีความรุนแรงเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ จากการสอบถามข้อมูลจากแม่ทัพภาคที่ 4 ก็เชื่อว่าจะได้ข้อมูลจากภาพกล้องวงจรปิดด้วย แต่สิ่งสำคัญตนคิดว่ามีภาพใหญ่ในเชิงนโยบายที่ต้องไปทบทวนสถานการณ์ว่าสิ่งที่เกิดเหตุรุนแรงมากขึ้นเพราะอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า เรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับกรณีที่รัฐบาลเคยระบุว่าให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาฯศอ.บต.ไปเจรจากับกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ จนทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตรงนี้คงต้องมีการตรวจสอบว่ามีการเปลี่ยนแปลงความเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่ ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่ารัฐบาลชุดที่แล้วมีการเจรจาในทางลับ แต่รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้ดำเนินการนั้น ตนเห็นว่าสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ดำเนินการก็น่าจะต่อเนื่อง แต่เห็นว่ามีปัญหาในระดับฝ่ายนโยบายและฝ่ายการเมืองที่เปลี่ยนแปลงผู้ปฏิบัติงานที่ส่งลงไปในพื้นที่อาจทำให้เกิดความสับสนได้ ซึ่งไม่ทราบว่าในพื้นที่ไม่มีการยอมรับ พ.ต.อ.ทวีหรือไม่ แต่อยากให้นายกฯ หรือรองนายกฯ ที่รับผิดชอบ หรือ รมต.คนใดคนหนึ่งเอาใจใส่ติดตามประเด็นต่างๆ ในพื้นที่ เช่น รัฐบาลชุดที่แล้วมีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกฯ นายถาวร เสนเนียม อดีต รมช.มหาดไทย อยู่ในพื้นที่ตลอดเพื่อติดตามไม่ให้เรื่องเล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่
เมื่อถามว่า หน่วยข่าวกรองมีปัญหาหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า การข่าวจะต้องมีการปรับปรุง ซึ่ง 8 เดือนที่ผ่านมาดูเหมือนว่ารัฐบาลไม่ให้ความสนใจปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่าที่ควร พรรคประชาธิปัตย์ก็เตือนอยู่ตลอดว่ามีสัญญาณความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะความไม่มั่นใจในความต่อเนื่องของนโยบายบางด้าน จึงอยากให้ทำนโยบายอย่างจริงจัง ส่วนกรณีที่มีระบุว่า พล.อ.ยุทธศักดิ์ได้เจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่ก็อาจมีหลายกลุ่มที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ทำให้กลุ่มอื่นแสดงศักยภาพนั้น ตนเห็นว่าขณะนี้ ยังสรุปไม่ได้ และเร็วเกินไปอาจจะไม่เป็นธรรมด้วย แต่ตนก็คิดว่าต้องไปพิจารณาดูว่าเกิดอะไรขึ้นในแง่ความเคลื่อนไหวของผู้ที่เกี่ยวข้อง
ถามว่า การพูดต่อสาธารณะของผู้ที่ทำงานด้านความมั่นคงจะต้องระมัดระวังหรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า เรื่องนี้มีความสำคัญโดยเฉพาะฝ่ายนโยบาย ซึ่งต้องยอมรับว่าเคยมีการพูดช่วงที่มีการยิงชาวบ้านก็มีการพูดจาในลักษณะที่ไม่ระมัดระวังคำพูดในช่วงแรก เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน ทั้งนี้ จากประสบการณ์ที่เกิดเหตุเมื่อปี 2549 เชื่อว่าการเกิดเหตุครั้งนี้ก็จะกระทบต่อเศรษฐกิจ ซึ่งต้อมยอมรับว่าชาวต่างประเทศก็คงกังวล ขณะนี้ทราบว่าเริ่มมีการยกเลิกที่พักในการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวแล้ว และคิดว่าต้องมีการสร้างความเชื่อมั่นโดยต้องมีมาตรการต่างๆ ที่จะทำให้คนเกิดความเชื่อมั่นได้ ทั้งในด้านนโยบายและมาตรการในแต่ละพื้นที่ที่จะทำให้เห็นเป็นรูปธรรม
ต่อกรณีที่การประชุมหน่วยงานด้านความมั่นคง พล.อ.ยุทธศักดิ์สรุปว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เกิดจากปัญหายาเสพติดไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเหตุใดถึงสรุปแบบนี้ และทำไมการค้ายาเสพติดจะมาใช้รูปแบบนี้ในการต่อสู้ ตนก็ยังไม่เข้าใจ ซึ่งจะพูดอะไรก็น่าจะระมัดระวัง รวมทั้งเรื่องข้อมูลด้วย และเห็นว่าการที่นายกฯระบุว่าเหตุดังกล่าว เป็นการก่อเหตุของกลุ่มเล็กๆ ไม่ใช่กลุ่มใหญ่นั้น เป็นเรื่องที่น่ากลัว
ผู้สื่อข่าวถามว่า พรรคประชาธิปัตย์จะมีการกำหนดท่าที่ต่อเรื่องนี้หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมาก็มีการอภิปรายในการประชุมสภาฯ ถึงเรื่องนี้แล้ว และในการประชุมสภาฯสัปดาห์นี้ก็จะมีการตั้งกระทู้ถามเรื่องนี้อย่างแน่นอน ทั้งนี้ ยอมรับว่ามีความเป็นห่วงว่าความรุนแรงจะกลับไปซ้ำรอยเหมือนสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งตนคิดว่ารัฐบาลชุดนี้ต้องให้ความชัดเจน ปฏิบัติในทางที่ถูกต้อง มีความเป็นเอกภาพและหากนายกฯสามารถเดินทางลงพื้นที่ได้ก็ต้องลงไปให้กำลังใจเยี่ยมเยือนประชาชน แต่วันนี้ตนรู้สึกแปลกใจที่นายกฯ ไม่ได้ลงไปยังพื้นที่ แต่ก็ยังส่งลูกน้องมาด่าคนที่ไป ซึ่งตนไม่เข้าใจและเห็นว่าเป็นเรื่องใจดำ และไม่น่าเชื่อว่าตนลงไปก็ไม่ได้ไปสร้างปัญหา แต่ลงไปเป็นกำลังใจให้กับประชาชน ซึ่งการทำแบบนี้ไม่ควรจะมีและถือว่าใจดำมาก