พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคง ว่า สาเหตุของการก่อเหตุความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มาจากกลุ่มหัวรุนแรง แต่ยังไม่ขอระบุว่าเป็นกลุ่มใด โดยภายใน 1-2 วันนี้จะมีความชัดเจนจากภาพกล้องวงจรปิด ซึ่งกลุ่มที่ก่อเหตุมีเป้าหมายทำลายความน่าเชื่อถือ และสร้างความกดดันต่อรัฐบาล รวมถึงสร้างความหวาดระแวงให้กับประชาชนในพื้นที่
สำหรับมาตรการเบื้องต้นคือเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยในจุดที่ล่อแหลม โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี รวมถึง จ.สงขลา
ทั้งนี้ การทำงานต้องบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร และ ศอ.บต. อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุในเหตุการณ์ทั้ง 2 จุด เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นการรวมตัวของกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ต่างๆ และเป็นกลุ่มที่อยู่ในประเทศก่อการ โดยนำวัตถุระเบิดมาประกอบภายในรถยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อผู้เชี่ยวชาญในการประกอบวัตถุระเบิดแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้นตามลำดับใน 3 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องมีการยกระดับไปถึงขั้นเจรจากับกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เนื่องจากมีหลายกลุ่ม หากเจรจากับกลุ่มเดียว อาจสร้างความไม่พอใจให้กับอีกกลุ่มได้
สำหรับมาตรการเบื้องต้นคือเพิ่มกำลังรักษาความปลอดภัยในจุดที่ล่อแหลม โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส และ จ.ปัตตานี รวมถึง จ.สงขลา
ทั้งนี้ การทำงานต้องบูรณาการร่วมกันระหว่างตำรวจ ทหาร และ ศอ.บต. อย่างไรก็ตาม คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุในเหตุการณ์ทั้ง 2 จุด เป็นกลุ่มเดียวกัน แต่ไม่ได้เป็นการรวมตัวของกลุ่มหัวรุนแรงในพื้นที่ต่างๆ และเป็นกลุ่มที่อยู่ในประเทศก่อการ โดยนำวัตถุระเบิดมาประกอบภายในรถยนต์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ทราบชื่อผู้เชี่ยวชาญในการประกอบวัตถุระเบิดแล้ว และกำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าสถานการณ์ในพื้นที่จะดีขึ้นตามลำดับใน 3 เดือน โดยไม่จำเป็นต้องมีการยกระดับไปถึงขั้นเจรจากับกลุ่มต่างๆ ที่เคลื่อนไหวในพื้นที่ เนื่องจากมีหลายกลุ่ม หากเจรจากับกลุ่มเดียว อาจสร้างความไม่พอใจให้กับอีกกลุ่มได้