กมธ.แก้ไข รธน.เสียงข้างมากลากไป มัดมือชกยึดร่าง 291/1 ฉบับรัฐบาล เร่งเครื่องพิจารณาผ่าน 3 ประเด็นรวด ที่มา-คุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้าม ส.ส.ร.
วันนี้ (29 มี.ค.) ที่ประชุมคณกรรมาธิการร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ โดยมี นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานคณะกรรมธิการทำหน้าที่ประธานการประชุม ที่ประชุมได้กลับมาพิจารณามาตรา 291/1 ที่มาของสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ต่อ ภายหลังจากที่ได้ย้อนกับไปพิจารณาหลักการของร่าง โดยได้ยืนยันหลักการให้เป็นไปตามร่างของรัฐบาล เมื่อฝ่ายเลขานุการกรรมาธิการอ่านร่างมาตรา 291/1 แล้ว นายอลงกรณ์ พลบุตร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กรรมาธิการ ทักท้วงว่า เมื่อจะขอทบทวนมาตรา 291/1 ต้องทบทวนตามมติเดิมที่มีอยู่ ซึ่งที่ประชุมได้ลงมติให้ร่างของรัฐบาลตกไปแล้ว เหตุใดย้อนกลับมาพิจารณาร่างเดิมอีก
ประธานจึงแจ้งว่า มติที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ (28 มี.ค.) เป็นมติว่าจะเอามาตรา 291/1 ตามร่างของรัฐบาล หรือร่างของผู้แปรญัตติ ต่อมาที่ประชุมวันนี้ (29 มี.ค.) ที่ประชุมได้ยืนยันหลักการตามร่างฯของรัฐบาล ดังนั้นองค์ประกอบของ ส.ส.ร.จึงต้องมาจากการเลือกตั้งโดยตรงและการคัดเลือกของรัฐสภา แต่กรรมาธิการเสียงข้างน้อยซึ่งเหลืออยู่ในห้องประชุมเพียง 4 คน ได้ทักท้วงไม่ให้พิจารณาต่อ
ขณะที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กรรมาธิการ เสนอว่า เมื่อจะทบทวนมาตรา 291/1 ใหม่ก็ควรนำร่างของพรรคเพื่อไทยที่เสนอโดย นายสุนัย จุลพงศธร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย มาพิจารณาร่วมด้วย เพราะร่างของพรรคเพื่อไทยมีความแตกต่างจากร่างของรัฐบาล อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการเสียงข้างน้อยได้ทักท้วง ประธาน จึงยืนยันว่า การทบทวนมาตรา 291/1 ใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการ หากกรรมาธิการมีความเห็นต่างสามารถสงวนคำแปรญัตติได้ แต่ต้องอยู่บนหลักการที่ยืนยันแล้วว่าที่มาของสสร.ต้องมาจากการเลือกตั้งและการเลือกโดยรัฐสภา
จากนั้นประธานได้ถามมติที่ประชุมว่าจะให้คงร่างฯ มาตรา 291/1 ไว้ตามร่างของรัฐบาลหรือไม่ ทำให้กรรมาธิการเสียงข้างน้อยทักท้วงว่า ไม่มีโอกาสเสนอคำแปรญัตติที่แตกต่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย และ นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ส.ว.สรรหา กรรมาธิการ เสนอว่าขณะนี้เหลือผู้ที่เคยเสนอคำแปรญัตติไว้เพียง 2-3 คน เมื่อใช้เวลามานานแล้วควรให้กรรมาธิการกลับไปพักผ่อนแล้วค่อยมาเสนอคำแปรญัตติใหม่ในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และกรรมาธิการฝ่ายรัฐบาลหลานคนเห็นตรงกันว่าเมื่อพิจารณามาถึงขั้นนี้ควรเดินหน้าต่อไป ในที่สุดประธานจึงยังคงเดินหน้าพิจารณาต่อไป นายวิรัช ร่มเย็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เสนอให้นับองค์ประชุม แต่เมื่อนับแล้วองค์ประชุมมี 24 คน ครบองค์ประชุม (เกินกึ่งหนึ่งไป 1 เสียง) ประธานจึงจะให้ลงมติต่อ นายนิพนธ์ บุญญามณี ส.ส.สงขลา และ นายวิรัช จึงขอเสนอคำแปรญัตติสัดส่วนของ ส.ส.ร.ในส่วนที่มาจากการเลือกตั้งของรัฐสภา, นพ.เหวง โตจิราการ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จึงเสนอคำแปรญัตติสัดส่วนของกรรมธิการ โดยให้ส.ส.ร.มาจากการเลือกตั้งโดยตรง 100 คน ไม่มีผู้ทรงคุณวุฒิ
เมื่อเสนอคำแปรญัตติครบแล้วประธานจึงถามมติมาตรา 291/1 โดยผลการลงมติที่ประชุมยืนยันตามร่างเดิมของรัฐบาลด้วยคะแนนเสียง 21 ต่อ 3 เสียง โดย นายพีระพันธ์ พาลุสุข ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย อธิบายว่า เหตุที่ใช้ฐานพื้นที่เป็นหลักในการคำนวณสัดส่วน ส.ส.ร.เพื่อมให้สะท้อนความต้องการของแต่ละพื้นที่ การเลือกตั้ง ส.ส.ร.ไม่ได้เลือกไปเพื่อดูแลทุกข์สุขของราษฎรแต่เลือกมาเพื่อทำรัฐธรรมนูญจึงไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงสัดส่วนประชากรทั้งหมด
จากนั้นที่ประชุมพิจารณามาตรา 291/1 บุคคลผู้มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ร.