“เหลิม” ป้อง “บัง” ชูปรองดองเยียวยาปฏิวัติ ย้ำ ต้องออก พ.ร.บ.ฉะ ปชป.น่าเกลียด

“เฉลิม” อ้าง “บิ๊กบัง” ปรองดองเยียวยารัฐประหาร ซัด ประชาธิปัตย์อ้างคำสั่งศาลแต่ไม่ฟัง หน.คมช.ถามถ้าไม่มี คตส.“แม้ว” จะโดนคดีมั้ย ฉะ ฝ่ายค้านอนุรักษ์ปฏิวัติ จวกรุมกลางสภาฯน่าเกลียด สมเพช ยันต้องออก พ.ร.บ.เท่านั้น ไล่เคารพเสียงข้างมากในสภา

วันนี้ (28 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 10.50 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีเหตุการณ์ที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รุมล้อมกรอบ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาแนวทางการปรองดองแห่งชาติ ว่า ขอเรียนว่า ให้สัมภาษณ์ข้ามฝากเดี๋ยวทะเลาะกัน แต่ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน พล.อ.สนธิ ท่านเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติระยะเวลาผ่านมา 4 ปีเศษๆ ท่านก็คิดว่า การปฏิวัติไม่ถูกต้อง และการตั้งคตส.ไม่น่าจะชอบธรรม เพราะเอาคนที่เป็นปฏิปักษ์กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคดีที่ดินรัชดาฯ มาเป็นคณะกรรมการสอบ ท่านก็คิดจะหาทางเยียวยาเพื่อนำไปสู่การปรองดอง เพราะการปฏิวัติก่อให้เกิดผลกระทบ อำนาจปฏิวัติเป็นอำนาจที่ไม่ชอบ เป็นอำนาจที่ไม่ถูกต้อง

“ผมไม่เข้าใจว่า ทำไมพรรคประชาธิปัตย์อนุรักษ์อำนาจคณะปฏิวัติ จนกระทั่งไม่ยอมให้มีการปรองดอง ตรงนี้ประชาชนจะเป็นคนตัดสิน ประชาธิปัตย์จะอ้างคำพิพากษาของศาล ทำไมไม่ฟังความคิดเห็นของ พล.อ.สนธิ เขาบ้าง ว่า การปฏิวัติมันไม่ถูกต้อง คตส.ก็ไม่น่าจะชอบ เขาก็จะมีการเปลี่ยนแปลงเพื่อเยียวยา หากไม่มีการปฏิวัติจะมี คตส.มั้ย ก็ไม่มี หากไม่มี คตส.จะมีคดี พ.ต.ท.ทักษิณ มั้ย ก็ไม่มี คือ การปฏิวัติมันเป็นอำนาจนอกระบบ แต่เมื่อประชาธิปัตย์อนุรักษ์ไว้ รอบหน้าผมหาเสียงง่าย เอาเทปไปเปิดเลยว่าประชาธิปัตย์ชอบ หัวหน้าคณะปฏิวัติแท้ๆ เขายังบอกว่า การปฏิวัติมันไม่ชอบ แต่ประชาธิปัตย์กลับชอบ ตรงนี้เป็นเครื่องชี้วัดชัดเจนว่าอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์ ประชาธิปัตย์ชอบ อะไรที่จะสร้างความถูกต้องชอบธรรม พรรคประชาธิปัตย์ก็แสดงอย่างเมื่อวานนี้ (27 มี.ค.) แล้วที่ไปล้อม พล.อ.สนธิ เขาน่าเกลียด เขาเป็นนักรบ ไอ้พวกปลาซิวปลาสร้อยแสดงอิทธิฤทธิ์อิทธิเดชกันไม่เข้าท่าจริงๆ มีส.ส.บางคนถึงขนาดถามเขาว่าเป็นทหารหรือเปล่า เขาเป็น พล.อ.ไม่เป็นทหารแล้วเป็นอะไร ผมนั่งดูอยู่ผมสมเพชจริงๆ ไอ้คนปฏิวัติแท้ๆ เขาบอกว่า ไม่ถูกต้องก็กลับไปสู่ที่เก่าเถอะ ไอ้คนที่อ้างเป็นพรรคเก่าแก่ อ้างเป็นนักการเมืองในระบอบประชาธิปไตย กลับชอบ ประหลาด” รองนายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า สถานการณ์เหล่านี้จะนำไปสู่การออกพระราชกำหนดปรองดองได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตนบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่าปรองดองต้องออกเป็น พ.ร.บ.ไม่สำเร็จหรอก ตนบอกมาตั้งแต่ต้นอะไรที่เป็นประโยชน์กับพรรคประชาธิปัตย์เขาก็รับ อะไรที่ไม่เป็นประโยชน์เขาก็ไม่เอา การที่จะทำความปรองดองได้ ถ้าแค่ความเห็นของคณะกรรมาธิการมันไม่ได้เป็นนามธรรม ต้องออกเป็น พ.ร.บ.ถึงจะเป็นรูปธรรม ส่วนการที่ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯ ออกจดหมายเปิดผนึกนั้น ท่านก็ให้เหตุผลดี แต่ว่านโยบาย 66/23 กับกรณีการปฏิวัติและหลังปฏิวัติไม่เหมือนกัน เพราะกรณีนโยบาย 66/23 ยังไม่มีการตัดสินคดีความ แต่ขณะนี้มีการตัดสินคดีความแล้ว ถ้าจะออกแบบ 66/23 ตนว่ามันจะไม่แล้วเสร็จตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 9-10 ข้อที่ พล.อ.ชวลิต แสดงความเห็นมาเหมาะสม เป็นความคิดแบบผู้ใหญ่ เป็นความคิดของผู้นำทางทหารในอดีต และคนที่เคยเป็นนายกฯ ที่ตอบโต้แนวความคิดของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านนั้นถูกต้อง โดยท่านก็ได้บอกว่า นอกจากจะใช้นโยบาย 66/23 แล้ว ท่านก็ยังใช้มาตรการอื่นด้วย ถ้าจะเลิกคำวินิจฉัยของ คตส.คงไม่ได้ เพราะเขาวินิจฉัยไปแล้ว และที่บอกว่าจะโอนคดีของ คตส.ไปให้ ป.ป.ช.มันก็เลยไปแล้ว ขณะนี้คดีอยู่ที่ศาล คดีที่ ป.ป.ช.ก็ไม่มี ดังนั้น ต้องออกเป็น พ.ร.บ.อย่างเดียว อย่างอื่นไม่มีทาง

เมื่อถามว่า หมายความว่า แนวทางของท่านคดีความค้างเก่าของ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็ไม่ได้ล้มล้างไป แต่จะนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมปกติได้ รองนายกฯ กล่าวว่า ต้องออกเป็น พ.ร.บ.ถึงได้จบกัน สิ่งที่ตนทำไว้สมบูรณ์ที่สุด พวกที่ทำมาเขาตั้งใจดี อยากให้เกิดความปรองดอง แต่คิดไม่เป็นระบบ การปรองดองพูดด้วยปากไม่ได้ ถ้าเป็น พ.ร.บ.พรรคประชาธิปัตย์คัดค้านไม่ได้ หากไม่เห็นด้วยก็ถกเถียงแสดงความเห็น ถ้าลงมติกันคุณแพ้คุณต้องเคารพ ถ้าไม่ฟังเสียงข้างมากในสภาฯแล้วจะเป็นนักประชาธิปไตยได้อย่างไร จะมาเอาตามใจชอบได้อย่างไร ถ้าคุณคัดค้านอย่างนี้แล้ว พวกตนชนะในสภาฯ ถ้าพวกตนไม่ดีเลือกตั้งรอบหน้าพวกตนก็แพ้ “เมื่อวานน่าเกลียดไปล้อมเขาฮืออา พล.อ.สนธิ เขากลัวเหรอ เขาพวกหมวกแดง ปัดโธ่ ไอ้นกระจิบนกกระจอก แสดงตัวเป็นบู๊ลิ้ม แมวบางครั้งมันอ้วน ลายใหญ่ ก็ไปเข้าใจว่าตัวเองเป็นเสือ พล.อ.สนธิ เขารบมาตั้งแต่เด็ก เป็นทหารพลร่ม รบกับอริราชศัตรูมาเยอะแยะ ไอ้พวกไปล้อมเขา เคยทำอะไรบ้าง ปืนแก๊ปยังยิงไม่เป็นเลย” เมื่อถามว่า บรรยากาศวุ่นวายในสภาฯไทยจะพัฒนากลายเป็นสภาฯไต้หวันหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวหัวเราะติดตลกว่า “ไม่มี เอาเกาหลีดีกว่า”