“เทพไท” สวน “เหลิม” แค่ถามความจริง “บิ๊กบัง” ไม่ได้ล้อมกรอบ แนะตักน้ำใส่กะโหลกย้อนดูตอน “เมารัก” เดินเข้าหา “รังสิมา” แขวะ ส.ส.เสื้อแดงไร้อุดมการณ์ กลับลำอุ้มอดีตประธาน คมช.ที่ตัวเองเคยเล่นงาน ชี้เอาแต่ประโยชน์ทางการเมืองเพื่อช่วยนายใหญ่ เชื่อปรองดองไม่มีวันเกิดนับแต่เหตุการณ์คืนวันที่ 27 มี.ค.
นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวกรณี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรีโจมตีว่า ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ รังแก พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนฯ ด้วยการเข้าไปล้อมกรอบในที่ประชุมรัฐสภาเป็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของสมาชิกพรรค เพราะความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเป็นเพราะประธานรัฐสภาไม่สามารถควบคุมการประชุมให้เป็นไปตามข้อบังคับได้ และยังมีท่าทีไม่ให้เกียรติต่อผู้นำฝ่ายค้าน ด้วยการปิดไมค์และตัดบทไม่ให้พูด ซึ่งไม่เคยมีปฏิบัติในสภามาก่อน รวมถึงตัว พล.อ.สนธิเองก็นั่งนิ่ง ไม่ตอบคำถามและข้อสงสัยของสมาชิก จึงทำให้สถานการณ์ตึงเครียดและมีความกดดันมากขึ้น ยืนยันว่าสมาชิกพรรคไม่ได้เข้าไปรุมล้อมหรือมีท่าทีคุกคามตัว พล.อ.สนธิแต่อย่างใด
“แต่ที่น่าแปลกใจ คือ พล.อ.สนธิไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเป็นพิเศษ แต่กลับมีคนในพรรคเพื่อไทยเรียงหน้าออกมาปกป้อง โดยเฉพาะ ส.ส.แกนนำเสื้อแดงที่เคยเป็นไม้เบื่อไม่เมากับ คมช.ในอดีต เคยโจมตีใส่ร้ายตลอดการชุมนุมเคลื่อนไหว แม้พอ พล.อ.สนธิพลิกลิ้นยอมเปลืองตัวมาเป็นประธาน กมธ.ปรองดอง คนเหล่านี้ก็เข้ามายกย่องเชิดชูคุ้มครองให้มาเป็นพวกของตนเอง แสดงให้เห็นถึงธาตุแท้คนเหล่านี้ว่าไม่มีอุดมการณ์ แต่เอาผลประโยชน์ทางการเมืองเพื่อตัวเองเป็นที่ตั้ง”
ดังนั้น ร.ต.อ.เฉลิมไม่ควรอวดอ้างเอาสถานะความเป็นชายชาติทหารการเป็นนักรบของ พล.อ.สนธิมาดูถูกดูแคลนเราว่าเป็นแค่ปลาซิวปลาสร้อย หรือนกกระจิบนกกระจอกไปล้อมกรอบ พล.อ.สนธิ ซึ่งความเป็นจริงสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เพียงเข้าไปทวงถามคำตอบจาก พล.อ.สนธิเท่านั้น ถ้า ร.ต.อ.เฉลิมคิดว่าพฤติกรรมดังกล่าวเป็นการคุมคาม พล.อ.สนธิ ก็อยากถามว่าในคืนวันพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ ร.ต.อ.เฉลิมอยู่ในอาการเมารัก แล้วเดินเข้าไปหา น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นลูกผู้หญิงแท้ๆ เป็นการคุกคามหรือไม่ และพฤติกรรมอย่างไหนจะน่าเกลียดกว่ากัน ก่อนที่ ร.ต.อ.เฉลิมจะกล่าวหาคนอื่น ให้กลับไปย้อนดูพฤติกรรมตัวเองเสียก่อน ไม่อยากใช้คำพังเพยที่ว่า ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงาตัวเองเสียก่อน
นายเทพไทกล่าวว่า นับตั้งแต่เหตุความวุ่นวายในช่วงดึกวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เชื่อว่าความปรองดองจะไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะคนในฝ่ายรัฐบาลเหลิงในอำนาจ พยายามรวบรัดให้ทุกอย่างเป็นไปตามต้องการ นับตั้งแต่การนำผลการศึกษาของ กมธ.ปรองดองเข้ามาแบบมัดมือชก และจะก้าวไปสู่การออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รวมไปถึงการเร่งรัดผลักดันการแก้รัฐธรรมนูญให้เสร็จสิ้นภายในสมัยประชุมสามัญนิติบัญญัตินี้ ล้วนแต่เป็นเงื่อนไขนำมาสู่ความขัดแย้ง หลังจากนี้จะมีการก่อตัวของกลุ่มประชาชนขึ้นมาต่อต้านรัฐบาลและพรรคเพื่อไทยอย่างแน่นอน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของความขัดแย้งในสังคมอีกครั้งอย่างเต็มรูปแบบ
