ประธานกุนซือชาติไทยพัฒนา เซ็งประชุมรัฐสภาฯวุ่นวายนี้ ชี้ 2 ฝ่ายยังไม่เข้าใจกันส่อขัดแย้งอีก จี้ “บิ๊กบัง” ถอนรายงานออกสภาฯ สับ ส.พระปกฯ อย่าหนีความรับผิดชอบ หากเกิดเหตุรุนแรง ลั่นรับไม่ได้ผลวิจัย ยันยิ่งผุด พ.ร.ก.ปรองดอง ยิ่งน่าห่วง แนะอย่าเพิ่งรีบ เชื่อ “นช.แม้ว” กลับตอนนี้ก็ไม่เป็นสุขแน่ เตือนอย่าประมาทพันธมิตรฯ หวั่นเหตุร้ายหนักถึงขั้นชาติล้มละลาย ชี้ ปัญหาอยู่ที่คน 2 คน ถ้าเคลียร์กันได้ก็สงบ
วันนี้ (28 มี.ค.) ที่รัฐสภา พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกรณีบรรยากาศประชุมร่วมรัฐสภาเมื่อวันที่ 27 มี.ค.ว่า ไม่น่าจะเกิดขึ้น ควรต้องประนีประนอมกัน ซึ่งหากยังไม่เข้าใจกันทั้งสองฝ่ายเช่นนี้ อาจจะนำไปสู่ความไม่สงบเรียบร้อยของประเทศได้ อย่างไรก็ตาม คณะผู้วิจัยของสถาบันพระปกเกล้า เมื่อเห็นสังคมประเทศเกิดความขัดแย้งน่าจะถอนรายงานออกไป ซึ่งการที่ นายวุฒิสาร ตันไชย รองเลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า ออกมาระบุว่า เรื่องของความขัดแย้งที่เกิดขึ้น เกินความรับผิดชอบของสถาบันไปแล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดนั้น ตนคิดว่า ถือเป็นการท้าทายประชาชน นักวิชาการไม่ควรทำแบบนี้ อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธาน กมธ.ปรองดอง ได้ถอนรายงานผลสรุปการศึกษาออกไป เนื่องจากเป็นห่วงที่จะมีการนำเข้าสู่สภาฯในวันที่ 4 เม.ย.นี้ ซึ่งคงต้องหวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วย ทั้ง พระสยามเทวาธิราช และ สมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ (ร.5) เพื่อขอให้ พล.อ.สนธิ กลับใจเสียที เพราะประชุมไปก็ไร้ประโยชน์
“ผมไม่เชื่อว่า แนวทางผลสรุปของ กมธ.จะนำไปสู่ความปรองดองได้จริง ซึ่งคิดว่า รัฐบาลเองควรที่จะได้ร่วมเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นด้วย เพราะถ้าหากยังดื้อดึงอยู่ต่อไปอาจเกิดวิกฤตขึ้นได้ และยิ่งมีกระแสข่าวว่า มีการพยายามหาทางออกเป็น พ.ร.ก.ปรองดองก็ยิ่งน่าเป็นห่วง กลัวจะสร้างความขัดแย้งเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ ตนเห็นว่า อย่าเพิ่งเร่งรีบดำเนินการเรื่องนี้เลย เพราะเชื่อว่าคนไทยยังรู้จักให้อภัยกัน ซึ่งถ้าไปใช้วิธีการอื่นๆ เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับเข้ามาก็คงไม่มีความสุข มีแต่อันตราย” พล.ต.สนั่น กล่าว
เมื่อถามว่า ทางสถาบันพระปกเกล้า ที่เคยระบุว่า ความยุติธรรมต้องไม่ใช่มาจากผู้ชนะ ซึ่งถ้ามีการผลักดันให้เป็นไปตามแนวทางเลือกจริงจะเป็นอย่างไร พล.ต.สนั่น กล่าวว่า สถาบันพระปกเกล้า ถือเป็นสถาบันชั้นสูง ต้องทำให้เป็นที่น่าเชื่อถือ ไม่ใช่พูดไปแล้วถอนไม่ได้ และบอกไม่รับผิดชอบเช่นนี้ ซึ่งถ้าเกิดอะไรขึ้น ตนยกโทษไปที่พระปกเกล้าแน่ หากมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในประเทศไทย เพราะ 3 ข้อที่เสนอมา ล้วนรับไม่ได้ทั้งสิ้น ทั้งที่ผลวิจัยยังไม่สมบูรณ์ก็น่าเอากลับไปทบทวนใหม่ อย่างไรก็ตาม จากนี้สิ่งที่ตนจะทำ คือ การเดินสายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อไป เพื่อพยายามชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทุกคนได้ทราบว่า กระบวนการปรองดองต้องเดินอย่างไรจึงจะถูกต้องกันแน่
เมื่อถามว่า การที่ พธม.เตรียมเคลื่อนไหวหากมีการนิรโทษกรรมจริงนั้น พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ตนคิดว่า รัฐบาลอย่าประมาท ขอให้ยับยั้งเรื่องการผลักดันเข้าสู่สภาฯก่อนดีกว่า เพราะที่ผ่านมา การบริหารประเทศตลอด 8 เดือน ก็กำลังไปได้ดี อย่าให้เหตุการณ์ความขัดแย้งเกิดขึ้นเลย ซึ่งอาจนำมาสู่ความรุนแรงกว่าปี 2553 ได้อย่างแน่นอน เพราะถึงเวลานั้นประเทศชาติคงล้มละลาย ส่วนเหตุการณ์รัฐประหารจะซ้ำรอยหรือไม่ คิดว่า ประวัติศาสตร์บอกมาทุกครั้งไปอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวคิดว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้ต้องมีการเร่งรัดดำเนินการในเรื่องการเสนอรายงานการปรองดองเข้าสู่สภาฯ พล.ต.สนั่น กล่าวว่า ก็คงเพราะอยากกลับบ้าน ซึ่งตนคิดว่าปัญหาเรื่องเหล่านี้อยู่ที่คนสองคน ถ้าทั้งสองสามารถทำความเข้าใจกันได้ ประเทศคงเห็นทางออกไปสู่ความสงบนั่นเอง