กมธ.ปรองดองซีก ปชป.ไขก๊อก! ปธ.วิปค้าน ซัด “บัง” เร่งชงสภามัดมือชกนิรโทษกรรม

ประธานวิปฝ่ายค้าน เผย กมธ.ปรองดองซีก ปชป.ลาออกยกชุด หวั่นถูกใช้เป็นเครื่องมือบางกลุ่ม หลัง “บิ๊กบัง” เมินทบทวนรายงาน แต่ชงเข้าที่ประชุมรัฐสภาเฉย ยันไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน ชี้ส่อขัดแย้งหนัก ซัดมัดมือชกสู่การนิรโทษกรรม สับ “ค้อนปลอม” เร่งบรรจุญัตติฮั้วเป็นกระบวนการชัด - เล็งตั้งกระทู้สดถามจำนำข้าว-ค่าแรง 300 บาท 7 จังหวัด


วันนี้ (26 มี.ค.) ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) แถลงถึงกรณีที่มีการเปิดประชุมร่วมรัฐสภา ในวันที่ 27 มี.ค.เพื่อขอมติให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ ในสมัยสามัญนิติบัญญัติว่า วิปฝ่ายค้านได้หารือร่วมกับคณะกรรมาธิการฯ ปรองดองในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ และมีความเห็นร่วมกันว่า คณะกรรมาธิการฯซีกประชาธิปัตย์จะลาออกจากการเป็นคณะกรรมาธิการฯ เพื่อไม่ให้ถูกใช้เป็นเครื่องมือของกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีการร้องขอให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้เรียกประชุมเพื่อขอให้ทบทวนรายงานของทางกรรมาธิการฯ โดยมีเหตุผล 4 ข้อ ประกอบด้วย 1. เพื่อให้รายงานสามารถปรากฏข้อเท็จจริงอย่างครบถ้วน 2. เพื่อไม่ให้เลือกหยิบเพียงบางประเด็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาเป็นความเห็นของกรรมาธิการฯ 3. เพื่อไม่ให้เกิดนำข้อมูลมาใช้อ้างให้เกิดความสำคัญผิด และ 4. ในวันที่มีการจัดเสวนาสถาบันพระปกเกล้ายอมรับจะนำผลการวิจัยไปปรับปรุง

นายจุรินทร์กล่าวอีกว่า ประธานคณะกรรมาธิการฯ นอกจากจะไม่เรียกประชุมเพื่อทบทวนรายงาน ทั้งๆ ที่ขยายเวลาออก 30 วัน ตนอยากถามว่าเหตุใดถึงได้รวบรัดที่จะนำเสนอต่อประธานรัฐสภาเช่นนี้ ทั้งนี้ การที่ประธานรัฐสภาเร่งบรรจุระเบียบเข้าที่ประชุมร่วมเป็นกรณีพิเศษ โดยอ้างความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับสังคม ตนอยากบอกว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นความจำเป็นเร่งด่วน และไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของสังคมแต่อย่างใด กลับเป็นเรื่องที่จะสร้างความขัดแย้งให้เพิ่มมากขึ้นด้วย

“การบรรจุวาระดังกล่าวเสมือนเป็นการจับรัฐสภามัดมือชก เพื่อให้รัฐสภาอนุญาตพิจารณาญัตติดังกล่าว เพื่อใช้อ้างและนำไปสู่การนิรโทษกรรม เป็นการสะท้อนว่าประธานรัฐสภาพยายามเร่งรัด เนื่องจากกรรมาธิการฯปรองดอง ได้เสนอวาระต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 23 มี.ค. และในวันเดียวกันนอกเวลาราชการ ประธานรัฐสภากลับเร่งอนุมัติบรรจุวาระดังกล่าว สะท้อนให้เห็นว่าเป็นการเร่งรัดกระทำอย่างเป็นกระบวนการทั้งกรรมาธิการฯ ปรองดอง ประธานรัฐสภา รวมทั้งนายกรัฐมนตรีด้วย ที่ออกมาพูดชัดเจนว่าขอให้เป็นเรื่องของสภาฯ ในการพิจารณา” นายจุรินทร์กล่าว

นอกจากนี้ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ยังแถลงถึงกรณีการเตรียมตั้งกระทู้ถามในวันที่ 29 มี.ค.นี้ว่า ทางวิปฝ่ายค้านยังมีความเป็นห่วง 2เรื่อง ได้แก่ 1. โครงการรับจำนำข้าว รัฐบาลดำเนินการล้มเหลว เกษตรกรไม่สามารถขายข้าวหรือรับจำนำข้าวได้ตามที่รัฐบาลออกนโยบายไว้ ซึ่งจากการลงพื้นที่เกษตรกรขายข้าวได้ราคาเกวียนละ 8,000 บาท และมีปัญหาการโกงความชื้น การกดราคา ส่งผลให้เกษตรกรต้องขายข้าวในราคาถูก 2. นโยบายขึ้นราคาค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท มีความชัดเจนว่ารัฐบาลผิดคำสัญญา เพราะไม่ได้ให้ทั้งประเทศ ให้เพียงแค่ 7 จังหวัดเท่านั้น ผลกระทบที่ตามมาที่รัฐบาลต้องเตรียมรับมือ คือ รัฐบาลต้องเตรียมรับมือเรื่องค่าครองชีพ และของราคาแพงที่จะตามมา หลักประกันที่จะให้แก่ผู้ใช้แรงงานบางส่วนว่าจะไม่ถูกเลิกจ้างหลังจากค่าแรงปรับขึ้น รวมไปถึงมาตรฐานการป้องกันการผลิตเป็นอย่างไร