นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ที่ประชุมวิปฝ่ายค้านวันนี้ (26 มี.ค.) มีข้อสรุปว่า คณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ จะลาออกจากกรรมาธิการปรองดอง หลังยื่นหนังสือให้ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ประธานกรรมาธิการฯ ทบทวนรายงานผลการวิจัยแนวทางสร้างความปรองดองของสถาบันพระปกเกล้า แต่ พล.อ.สนธิ ไม่รับฟัง เร่งรัดเสนอเรื่องให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ให้บรรจุในวาระการประชุมร่วมกันขอรัฐสภา เพื่อขอความเห็นและลงมติในรายงานงานของกรรมาธิการฯ ทั้งที่มีการขยายเวลาการพิจารณาของ กรรมาธิการฯ ไปอีก 30 วัน
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านเห็นว่า ควรทบทวนรายงานผลการวิจัยเพื่อให้รายงานครบถ้วน ไม่ให้มีการหยิบบางประเด็นมาเป็นประโยชน์ของฝ่ายใด ไม่ให้นำข้อมูลมาใช้เปรียบเทียบในทางที่ผิด อีกทั้งเรียกร้องให้สถาบันพระปกเกล้าถอนรายงานออก เพื่อป้องกันถูกใช้เป็นเครื่องมือนำไปสู่การนิรโทษกรรม ทำให้ประเทศขัดแย้งครั้งใหม่ และขอคัดค้านการที่นายสมศักดิ์เร่งบรรจุเรื่องนี้เร่งด่วน โดยอ้างความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับสังคม ซึ่งฝ่ายค้านเห็นว่าไม่เร่งด่วนหรือเป็นประโยชน์เพื่อสังคม แต่จะยิ่งขัดแย้งมากขึ้น อย่างไรก็ตามเห็นว่า เป็นการมัดมือชกหรือยืมมือรัฐสภา ยืมมือกรรมาธิการและ สถาบันพระปกเกล้า เพื่อลงมติเและอ้างนำไปสู่เป้าหมายนิรโทษกรรม
ประธานวิปฝ่ายค้านยังมองว่า การเร่งบรรจุเรื่องดังกล่าวในวาระประชุมรัฐสภาของนายสมศักดิ์ในวันที่ 23 มีนาคม เป็นกระบวนการของกรรมาธิการปรองดองฯ รัฐบาล ประธานรัฐสภาและนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องของรัฐสภา
ทั้งนี้ ฝ่ายค้านเห็นว่า ควรทบทวนรายงานผลการวิจัยเพื่อให้รายงานครบถ้วน ไม่ให้มีการหยิบบางประเด็นมาเป็นประโยชน์ของฝ่ายใด ไม่ให้นำข้อมูลมาใช้เปรียบเทียบในทางที่ผิด อีกทั้งเรียกร้องให้สถาบันพระปกเกล้าถอนรายงานออก เพื่อป้องกันถูกใช้เป็นเครื่องมือนำไปสู่การนิรโทษกรรม ทำให้ประเทศขัดแย้งครั้งใหม่ และขอคัดค้านการที่นายสมศักดิ์เร่งบรรจุเรื่องนี้เร่งด่วน โดยอ้างความจำเป็นเร่งด่วนสำหรับสังคม ซึ่งฝ่ายค้านเห็นว่าไม่เร่งด่วนหรือเป็นประโยชน์เพื่อสังคม แต่จะยิ่งขัดแย้งมากขึ้น อย่างไรก็ตามเห็นว่า เป็นการมัดมือชกหรือยืมมือรัฐสภา ยืมมือกรรมาธิการและ สถาบันพระปกเกล้า เพื่อลงมติเและอ้างนำไปสู่เป้าหมายนิรโทษกรรม
ประธานวิปฝ่ายค้านยังมองว่า การเร่งบรรจุเรื่องดังกล่าวในวาระประชุมรัฐสภาของนายสมศักดิ์ในวันที่ 23 มีนาคม เป็นกระบวนการของกรรมาธิการปรองดองฯ รัฐบาล ประธานรัฐสภาและนายกรัฐมนตรี ที่ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า เป็นเรื่องของรัฐสภา