xs
xsm
sm
md
lg

“สุกำพล” ลั่นทหารพร้อมรับผิดชอบ ผลสอบยิงชาวบ้าน 4 ศพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.อ.อ.สุกำพล  สุวรรณทัต (แฟ้มภาพ)
“สุกำพล” ยันทหารพร้อมรับผิดชอบผลสอบยิงชาวบ้าน 4 ศพ พ้อเจ้าหน้าที่รัฐตายทุกวันแต่ไม่เป็นข่าว แต่พอทหารพลาดกลับประโคมข่าวกันคึกโครม เผยเตรียมแผน 4 คุม ป้องกันผู้ก่อการร้ายก่อเหตุ พร้อมตัดวงจร “ยาเสพติด-ค้าอาวุธสงคราม” เชื่อสถานการณ์จะดีขึ้น ขณะเดียวกันยอมรับทหารถูกตัดงบกระทบแผนพัฒนากองทัพ แต่ได้เตรียมแผนรองรับไว้แล้ว

 คลิกที่นี่ เพื่อฟังคลิปเสียง "พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต" ให้สัมภาษณ์ 
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงผลสอบสวนจากคณะกรรมการอิสระที่สรุปว่าเจ้าหน้าที่เป็นฝ่ายผิดกรณีเหตุทหารพรานยิงปะทะจนทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 4 รายที่ จ.ปัตตานี ว่าหากคณะกรรมการตัดสินออกมาอย่างไรเราต้องยอมรับว่าเป็นอย่างนั้น และต้องเข้าใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารด้วย เจ้าหน้าที่ทหารตายทุกวัน การทำงานไม่ใช่ว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ไปทำก่อน มันมีเหตุการณ์ต่อเนื่องกันมา และคณะกรรมการอิสระฯ ก็เข้าใจดีว่าอะไรคืออะไร ตนได้มีโอกาสคุยกับแม่ทัพภาคที่ 4 ทำให้ทราบว่าผลออกมาเป็นอย่างไร มันเป็นเรื่องของจิตวิทยาด้วย เมื่อผลสรุปออกมาอย่างไรก็ยอมรับเป็นลูกผู้ชาย อะไรที่ว่าผิดก็ผิดว่ากันไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ส่วนการเยียวยาเป็นเรื่องที่ต้องทำเพราะมีกระบวนการของทางรัฐบาลอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นห่วงหรือไม่ว่า ผู้ก่อความไม่สงบจะนำเรื่องนี้ไปเป็นเงื่อนไขในการปลุกระดมชาวบ้าน พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ต้องเข้าใจว่าคนไม่ดีก็ต้องใช้ทุกอย่างอยู่แล้วที่จะทำให้สถานการณ์ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีปัญหาตนเห็นใจผู้ที่ลงไปปฏิบัติงาน ซึ่งตนได้มีโอกาสคุยกับเขาแล้ว รู้ว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบจะมีการปรับเปลี่ยนแผนลอบทำร้ายผู้บริสุทธิ์อยู่ตลอด ทหารที่ลงไปทำหน้าที่ก็ทำกันอย่างเปิดเผย เราหลีกเลี่ยงไม่ได้เลยในการคุ้มครองครู คุ้มครองพระหรือประชาชนในพื้นที่ให้ปลอดภัย เป็นหน้าที่ที่ทหารจะต้องทำซ้ำๆ ทุกวันจึงเป็นเป้าให้กับผู้ก่อความไม่สงบลงมือก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่ เรารู้ว่าเราต้องทำเจ้าหน้าที่รัฐตายทุกวัน ขอให้เห็นใจกับ้าง เรื่องที่ทหารเสียชีวิตทุกวันไม่ค่อยจะเป็นข่าว แต่ทหารพลาดมาบ้างเป็นข่าวใหญ่โตถาโถมเข้ามา เราต้องให้เกียรติกับผู้ที่ทำหน้าที่ด้วย

“เรากำลังดูวิธีแก้ไขสถานการณ์ทุก 3 เดือน โดยแม่ทัพภาคที่ 4 จะเป็นคนประเมินผลอยู่ตลอดเวลา และฝ่ายตรงข้ามมันก็เปลี่ยนตลอดเวลาเช่นกัน เราแต่งเครื่องแบบตลอด ฝ่ายตรงข้ามไม่ได้แต่งเครื่องแบบ บางทีปลอมใส่ชุดทหารในการลงมือก่อเหตุ จึงมีความคิดว่า ถ้าเราคุม 4 อย่างได้ คือ 1. คุมรถยนต์ทุกคันได้ในเขตทางการประกาศไว้ 2. คุมรถจักรยานยนต์ได้ 3. โทรศัพท์มือถือ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ควบคุมอยู่แล้ว และ 4. บัตรประชาชน ถ้ามีการควบคุมตรวจสอบด้วยเทคโนโลยีแล้วสถานการณ์จะดีขึ้นมากจะได้รู้ว่าใครเป็นใคร เช่น การตรวจสอบบัตรประชาชนหรือโทรศัพท์มือถือจะได้รู้ว่า เครื่องไหนหายเครื่องไหนที่ถูกขโมยสามารถตรวจสอบได้รวดเร็ว เราต้องใช้เทคโนโลยีเข้าช่วยเพื่อให้การทำงานของฝ่ายตรงข้ามได้ยากขึ้นการแก้ปัญหาภาคใต้ ถ้าแก้ให้เสร็จต้องค่อยๆ แก้อย่างนี้ ถ้าแก้ให้เสร็จเร็วปัญหาจบเร็ว แต่ปัญหาอื่นตามมาเยอะเป็นสิ่งที่ใช้เวลา"

ผู้สื่อข่าวถามว่า ห่วงหรือไม่ว่ามีปัญหายาเสพติด อาวุธสงคราม และการฟอกเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ส่วนที่เกี่ยวข้องทราบแล้วและกำลังดำเนินการในหลายๆ อย่างอยู่ ขณะนี้ค่อยๆ ตัดวงจรตรงนี้ออกไป

ส่วนที่มีแนวคิดในเรื่องการคุม 4 ข้อจะต้องประสานงานกับกระทรวงอื่นๆ หรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ถ้าเราเห็นดีด้วยก็ต้องทำ หากเกี่ยวข้องกับกระทรวง ทบวง กรม ไหนก็ต้องทำ ต้องก้าวไปให้ถึงเพื่อให้ตรงนี้สำเร็จ เพราะหากสำเร็จแล้วจะได้ผลประโยชน์ตอบแทนที่ดี ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับหลายฝ่ายอย่างละเอียดรอบคอบอีกที ถ้าเห็นว่าดีแล้วอะไรมาขวางก็ไม่ได้

ส่วนการทำงานร่วมกันระหว่าง กอ.รมน.และศอ.บต.นั้น เขามีเวทีพูดคุยกันอยู่แล้ว ทาง กอ.รมน.ทำเรื่องของความมั่นคงส่วน ศอ.บต.ทำเรื่องการพัฒนา โดยต้องควบคู่กันไป ซึ่ง ศอ.บต. และกอ.รมน.เป็นพี่น้องกัน คุยกันรู้เรื่องเป็นหลักการที่เข้าใจอยู่แล้วว่าจะต้องมีการทำงานควบคู่กันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำประเทศไทยเข้าพบในวันนี้มีวาระพิเศษหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่มีวาระอะไรตอนที่ตนอยู่กระทรวงคมนาคมทางทูตท่านก็มาเข้าพบเพื่อแสดงความยินดี เข้าพบ 5-10 นาทีก็กลับแล้ว ส่วนเรื่องสถานการณ์ด้านความมั่นคง ท่านทูตคงถามบ้างเพราะเป็นเรื่องหัวข้อการพูดคุยกัน เป็นเรื่องธรรมดา

พล.อ.อ.สุกำพลยังกล่าวถึงงบประมาณของเหล่าทัพในปี 2556 ที่ถูกตัดไปว่า ขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการของบประมาณว่าต้องการเท่าไร โดยขั้นต้นทางเหล่าทัพได้ขอรวมกันประมาณ 2 แสนกว่าล้านบาท ซึ่งเป็นความต้องการที่แท้จริงที่ขอไปมันมาก เรารู้ว่า ต้องถูกตัดทอน แต่รัฐบาลทราบดีว่า กองทัพมีภาระค่าใช้จ่ายงบประมาณในปี 56 มากในเรื่องของการป้องกันอุทกภัย ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปต้องคุยว่างบประมาณจะต้องเหลือเท่าไร คิดว่าคงจะเท่ากับปีนี้โดยขั้นต้นเป็นเพียงให้ตัวเลขงบประมาณไปก่อนแล้วค่อยกลับมาพิจารณาอีกทีว่าเราต้องการงบประมาณจริงเท่าไร ซึ่งเป็นขั้นตอนการปฏิบัติเหมือนเช่นนี้ทุกปี

อย่างไรก็ตาม คิดว่าหากมีการตัดงบประมาณกองทัพก็จะส่งผลกระทบต่อการพัฒนากองทัพที่จะก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 แน่นอน แต่เราเตรียมการไว้แล้วเพราะเรามีประสบการณ์อย่างนี้ทุกปีว่าจึงต้องมีการเรียงลำดับความสำคัญก่อน-หลังของแต่ละโครงการ

พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ส่วนกองทัพอากาศที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมนั้น ทางกองทัพอากาศเองก็ได้งบประมาณอีกส่วนหนึ่งช่วยอยู่แล้วเป็นงบประมาณฟื้นฟู 1.2 แสนล้านบาท ซึ่งทางกองทัพอากาศได้ส่งของบประมาณฟื้นฟูมาแล้ว โดยตนเป็นคนพิจารณาเองเพราะขณะนั้นดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม และเป็นประธานในการพิจารณางบประมาณฟื้นฟูพอดี
กำลังโหลดความคิดเห็น