xs
xsm
sm
md
lg

“เฉลิมชัย” แนะ “เผดิมชัย” สอบคนใกล้ชิด ก่อนปูดข่าวงาบหัวคิวแรงงาน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เฉลิมชัย ศรีอ่อน
รมว.แรงงานเงา ปชป. สวน “เผดิมชัย” ปูดข่าวงาบหัวคิวแรงงานไทยไปอิสราเอล 6 พันล้าน ควรสำรวจคนใกล้ชิดก่อน เหน็บถ้าหัวไม่ส่าย หางคงไม่กระดิก สงสาร จนท.กระทรวงฯ ถูกเรียกเฉ่งจนหัวหด แถมไม่มีผลงาน เย้ยให้สานต่อเอ็มโอยูลดค่าหัวเหลือ 8 หมื่นในยุค ปชป.

วันนี้ (15 มี.ค.) นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะ รมว.แรงงานเงา พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีนายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ออกมาระบุว่ามีการเก็บค่าหัวคิวในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่ประเทศอิสราเอลว่า มีการเขมือบกันแหลกกว่า 6 พันล้าน และเป็นขบวนการใหญ่ มีนักการเมืองและข้าราชการร่วมในขบวนการว่า ตนขอชี้แจงถึงขั้นตอนในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานที่อิสราเอลที่รัฐมนตรีเผดิมชัยระบุใน 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการส่งแรงงงานไทยไปถึง 2-3 หมื่นคน ข้อเท็จจริงมีแรงงานไทยในอิสราเอลจนถึงเวลานี้คือ 2.6 หมื่นคน โดยจะมีการเดินทางไปทุกปีสลับกันเฉลี่ยปีละ 5-7 พันคน เนื่องจากสัญญาในการทำงานตกคนละ 5 ปี จึงมีแรงงานหมุนเวียนสลับกันไปแทนที่คนที่หมดสัญญา ในอดีตมีการเสียค่าหัวคิวในการไปทำงาน 3-4 แสนบาทต่อหัวจริง เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน แต่เมื่อนายไพฑูรย์ แก้วทอง มาเป็นรัฐมนตรีแรงงานก่อนตน ก็ได้ทำเงื่อนไขข้อตกลงเรื่องการทำข้อสัญญาบริษัทคู่ค้าระหว่างไทยกับอิสราเอลในการจัดส่งแรงงานไทยไปอิสราเอล ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเดินทางลดลงเหลือหัวละ 1.8 แสนบาท โดยกฎหมายมีเงื่อนไขว่า การจะเรียกค่าใช้จ่ายจากแรงงานที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศต้องไม่เกิน 4 เดือนของเงินเดือน บวกกับอีก 1 เดือน คือรวมแล้วไม่เกิน 5 เท่าของเงินเดือนที่จะได้จากการทำงานในประเทศนั้นๆ

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า เมื่อตนได้มีโอกาสมาเป็น รมว.แรงงานในยุครัฐบาลประชาธิปีตย์ ได้ดำเนินการโดยเจรจากับรัฐบาลอิสราเอลผ่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย คือ เจรจาส่งแรงงงานไทยผ่านองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (ไอโอเอ็ม) ซึ่งเป็นองค์กรเฉพาะของอิสราเอลที่ตั้งขึ้นเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการรับคนงานไปทำงานในประเทศเขา ขณะที่ทางอิสราเอลก็มีกฏหมายระบุว่า ถ้าประเทศไหนที่จะส่งแรงงงานเข้าไปในประเทศเขา ไม่ทำสัญญาผ่านไอโอเอ็ม จะถูกปรับลดโควต้าของจำนวนแรงงานลงเหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ จึงได้ทำบันทึกตกลงความเข้าใจ หรือเอ็มโอยูในการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในอิสราเอลให้เหลือค่าจัดส่งรายละ ไม่เกิน 8 หมื่นบาทต่อหัว เมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2553 ผ่านเอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย แต่ระหว่างที่รอเงื่อนไขการตกลงผลประโยชน์ของแรงงานไทยที่จะไปทำงานในประเทศเขา ในแบบรัฐต่อรัฐหรือจีทูจี เราก็ได้ขอให้มีการจัดส่งแรงงงานไทย ให้สามารถเดินทางไปทำงานในอิสราเอลได้ชั่วคราวไปก่อน ในระหว่างที่รอเงื่อนไขจากไอโอเอ็ม ทั้งหมดเป็นผลประโยชน์ที่แรงงานไทยจะได้ในการลดค่าหัวคิวลง และรักษาโควตาจำนวนของคนที่จะไป ไม่ให้ถูกปรับลดลง ทั้งหมดเป็นความจริงใจในการเจรจาลดค่าหัวคิว ซึ่งมีการดำเนินการไปพร้อมกับการก่อตั้งปฏิญญา 3 ส.ค.เพื่อการทำงานอย่างมีศักดิ์ศรีของแรงงานไทย ที่ตนได้ขอความร่วมมือจากบริษัทส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศให้ลดค่าหัวคิวทุกประเทศลงจากเดิม มีบริษัทต่างๆ เข้าร่วมกว่า 80 บริษัท โดยได้จับกุม ปราบปรามบริษัทเถื่อนที่เอาเปรียบไปหลายร้อยรายในยุคที่ตนเป็น รมว.แรงงาน

“แต่ประเด็นที่เป็นข่าว เกิดจากรัฐมนตรีเผดิมชัยออกมาระบุว่า คนงานที่เดินทางไปอิสราเอลมีค่าหัวตกไปถึงนักการเมือง ข้าราชการรายละ 2-3 แสนบาท รวมเป็นเงินกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งตนคิดว่าคนที่เป็นรัฐมนตรีต้องมีความชัดเจนในการพูด อย่าพูดจาในลักษณะคลุมเครือ ข้อเท็จจริงตัวรัฐมนตรีควรจะไปตรวจสอบคนที่ใกล้ชิดของท่านบ้างว่ามีการกระทำเช่นใด มันจริงหรือไม่ที่มีเสียงลือเสียงเล่าในวงการออกมาว่ามีการเรียกบริษัทที่จัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศมาตกลงกันแล้ว แต่ไม่ลงตัว โดยเรียกขอค่าหัวรายละ 3 หมื่นบาท และขอเรียกเก็บย้อนหลังไปถึงแรงงานที่เดินทางไปทำงานในอิสราเอลแล้วจำนวน 3,300 คนเศษ หากเป็นจริงก็เป็นเงินร่วมพันล้านบาท ยังไม่รวมแรงงานที่จะเดินทางไปทำงานอีกกว่า 4-5 พันคน ฉะนั้นคนที่เป็นรัฐมนตรีต้องกลับไปตรวจสอบคนใก้ตัวก่อนและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพราะวันนี้ข้าราชการในกระทรวงแรงงาน ถูกเรียกขึ้นไปเฉ่งที่ชั้น 6 จนกระทั่งข้าราชการขี้ เยี่ยวแตก กลัวกันตัวสั่นงันงก ไม่กล้าแม้แต่อ้าปาก ในทุกระดับที่เกี่ยวข้องมันจริงหรือไม่ รัฐมนตรีต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริงตรงนี้ให้ปรากฏว่าข่าวพวกนี้มันจริงหรือไม่ ตามที่คนในวงการเขารู้กัน” นายเฉลิมชัยกล่าว

“และถ้าท่านมั่นใจว่ามีใครที่เกี่ยวข้องในการทุจริตงาบค่าหัวคิว 6 พันล้านบาท ก็ขอให้ออกระบุชื่อให้ชัดไปเลย ท่านต้องกล้าบอกว่าใคร นักการเมืองคนไหนที่คอร์รัปชัน ต้องระบุตัวและให้ดำเนินการอย่างเฉียบขาด และข้าราชการคนไหนที่ไปกินหยาดเหงื่อแรงงานของผู้ใช้แรงงาน เพราะท่านเป็นคนพูดเองว่าคนที่ทำอย่างนี้ยังมีความเป็นมนุษย์อยู่หรือไม่ ถ้าวันนี้ไม่มีคำชี้แจงใดๆ ออกมากระทรวงแรงงานก็กลับเข้าสู่ยุคมืดอีกครั้ง เรื่องอย่างนี้ถามว่า ถ้าหัวไม่ส่าย หางมันจะกล้ากระดิกหรือ ผมยืนยันว่าสมัยที่ผมเป็นรัฐมนตรีแรงงาน ผมพร้อมที่จะให้ทุกองค์กร หน่วยงานเข้าตรวจสอบ ถ้าพบว่าผมมีส่วนเรียกรับเงินหรือมีผลประโยชนย์กับพี่น้องแรงงานไทย แม้สตางค์แดงเดียว ผมจะเลิกเล่นการเมือง แต่รัฐมนตรีก็ต้องเคลียร์ตัวเองและคนรอบข้างที่ใกล้ชิดท่าน ก็ต้องเคลียร์ตัวเองและตอบสังคมนี้ด้วย” นายเฉลิมชัยกล่าว

นายเฉลิมชัยกล่าวต่อว่า เวลานี้ผ่านมาเกือบ 7 เดือนที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารงาน ก็ไม่รู้ว่างานที่ตนได้ริเริ่มทำ เช่น เอ็มโอยูในการส่งแรงงานไทยไปอิสราเอลคืบหน้าไปถึงไหน ค่าจัดส่งที่เริ่มตกลงเจรจาว่าจะลดเหลือ 8 หมื่นบาท คิดว่าก็คงยังไม่คืบ เพราะวันนี้กระทรวงแรงงานยังไม่มีนโยบายอะไรออกมาเลย เพิ่งจะมีข่าวโผล่มาก็ซัดมาเลยเรื่องงาบหัวคิว 6 พันล้านบาท เข้าใจว่าทุกคนต่างอ้างเหตุน้ำท่วมใหญ่ ทั้งที่มันไม่เกี่ยวข้องอะไรเลยกับเรื่องผลประโยชน์ของแรงงานไทยในต่างประเทศ เพราะยังมีการส่งแรงงานไปทำงานในประเทศต่างๆ ทุกวัน แรงงานที่ไปทำงานในต่างประเทศก็ยังทำงานถูกเก็บหัวคิวอยู่ นี่ยังไม่นับถึงเรื่องอื่นที่เป็นหน้าที่ของกระทรวง เช่น คนพิการจะดูแลเขาอย่างไร การเริ่มปรับค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทในวันที่ 1 เม.ย.ที่จะถึงมีผลกระทบอย่างไร โรงงานจะปิดกี่แห่ง มีมาตรการรองรับแรงงานตกงานเพิ่มหรือไม่ ไม่มีคำตอบจากกระทรวงแรงงานในยุคนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น