“เหลิม” ป้องนายกฯ ไม่เกี่ยวพาพี่แม้วกลับบ้าน ระบุ เป็นความคิดส่วนตัว แต่ไม่รับประกันกลับได้ปีไหน ลั่นต้องเร่งเดินหน้าออก พ.ร.บ.ปรองดอง ตามสัญญาที่เคยได้หาเสียงไว้ อ้าง รธน.มาตรา 142(2) ที่เปิดช่องให้ 20 ส.ส.เข้าชื่อเสนอได้ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล
วันนี้ (12 มี.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ชี้แจงเรื่องการนำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศโดยไม่มีความผิดว่า ฝากไปถึง นายอภิสิทธิ์ ที่ได้มาแสดงความเห็นคาดคั้นให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ พูดให้ชัดเรื่องร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ปรองดอง โดยอยากให้นายอภิสิทธิ์ รับทราบไว้ว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัวที่ที่ตนได้ปราศรัยมาตั้งแต่ปี 52 ไม่เคยปรึกษาหารือเรื่องนี้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพราะถือว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นพี่ชายของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงไม่ควรมีส่วนเกี่ยวข้องด้วย หากนายอภิสิทธิ์อยากทราบรายละเอียดให้มาถามตน
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า หากมีเวลาว่างอยากให้ นายอภิสิทธิ์ ไปอ่านบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 142(2) ที่ระบุถึงช่องทางในการเสนอร่าง พ.ร.บ.ให้ ส.ส.20 คน สามารถเข้าชื่อเสนอได้ เป็นแนวทางที่ตนจะใช้ ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล ไม่เกี่ยวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ดังนั้น นายอภิสิทธิ์ไม่ควรมาทำให้ประชาชนสับสน และเมื่อตนเสนอเข้าสู่สภา ประธานสภาผู้แทนราษฎร จะบรรจุเข้าสู่วาระประชุมเมื่อไรก็เป็นสิทธิ หรือสภาฯจะพิจารณาอย่างไรก็บังคับไม่ได้ แต่ตนมีสิทธิเสนอร่วมกับเพื่อน ส.ส.20 คน และก็อยู่ที่ตนจะโน้มน้าวให้ ส.ส.เห็นด้วยหรือไม่ ว่า บ้านเมืองมีปัญหา ต้องออก พ.ร.บ.ปรองดอง และตนยกร่างไว้แล้ว 6 มาตรา ทุกภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ ได้ประโยชน์ทั้งหมด ไม่ใช่คนหนึ่งคนใด ขอให้เลิกพูดว่า ตนจะล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เนื่องจากไม่จำเป็น เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำผิด ไม่ต้องนิรโทษกรรม หรืออภัยโทษ
“ผมจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 142 ใช้เพื่อ ส.ส.20 คน แม้ในพรรคผมจะมีพวกไม่มาก แต่วันนี้มีแล้ว 21 เสียง โดยที่รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่เกี่ยวข้อง ไม่เกี่ยวกับนายกฯยิ่งลักษณ์ ท่านทักษิณก็ไม่เคยมาบอกกับผม เป็นดุลพินิจของผมเอง ที่ได้ปราศรัยไว้กับพี่น้องประชาชนตั้งแต่ปี 52 แล้วคุณอภิสิทธิ์มายุ่งอะไรกับผม” รองนายกฯ ระบุ
ผู้สื่อข่าวถามถึงความมั่นใจการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ตรงนี้ไม่สามารถห้ามใครได้ แต่ถือว่าทำตามหลักประชาธิปไตย ใช้รัฐสภาเป็นหลัก หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยก็อภิปรายคัดค้านได้ เมื่อผ่านสภาแล้วใครจะมาประท้วง ก็ต้องถามว่าตามหลักประชาธิปไตยหากไม่ผ่านรัฐสภา แล้วจะให้ไปใช้ระบบไหน ส่วนที่มีการพูดถึงการตัดตอนคดีผู้เสียชีวิต 91 ศพก่อนที่จะมีการเสนอ พ.ร.บ.ปรองดองนั้น ตนยังไม่เคยคิด ที่ยกร่างไว้ 6 มาตรา ไม่เกี่ยวกับเรื่องฆ่าคน เรื่องนี้ใครผิดก็ติดคุกไป ส่วนรายละเอียดขอเวลาอีกซักระยะ ให้มั่นใจกว่านี้ก่อน เพราะตอนนี้ประชาชนยังไม่เข้าใจ เมื่อมีความเข้าใจแล้ว ก็สามารถเสนอได้ทันที สำหรับการเดินสายปราศรัยนั้นคาดว่า จะใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน ช่วงสภาฯปิด ตนจะเข้าทำเนียบรัฐบาลบเพียงแต่วันประชุมคณะรัฐมนตรี วันอื่นๆจะออนทัวร์ตรวจราชการ แก้ปัญหายาเสพติด พร้อมปราศรัยในเรื่องนี้
เมื่อถามว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ได้กล่าวถึง พ.ร.บ.ปรองดอง มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เคยกล่าวถึง ถือเป็นการปฏิเสธหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะตนไม่เคยไปบอก น.ส.ยิ่งลักษณ์ แต่ได้พูดเรื่องนี่มาตั้งแต่ปี 52 เช่นเดียวกับการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะยังไม่ได้กลับประเทศ ที่ตนไม่ทราบเช่นกัน แต่คงไม่ถือเป็นการขัดกันแต่อย่างใด ตนก็พยายามดำเนินการในส่วนนี้ โดยที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ไม่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันก็ไม่เคยคุยกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ในเรื่องนี้ด้วย
ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า การดำเนินการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง โดยที่จะมีการเดินสายปราศรัยทั่วประเทศ อาจทำให้ต้องชนกับกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ประกาศเดินสายให้ความรู้ประชาชนเช่นกัน ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คงไม่ชนกัน ต่างคนต่างพูด อยู่ที่ประชาชนว่าเชื่อใครมากกว่า เรื่องนี้ตนพูดมานานแล้ว หากไม่ทำต่อ ก็คงไปต่างจังหวัดลำบาก ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้คงไม่เป็นการสร้างความขัดแย้ง เพราะได้ทำตามขั้นตอนของรัฐสภาอย่างถูกต้อง
ร.ต.อ.เฉลิม ปฏิเสธที่จะกล่าวถึงกรณีที่ พ.ต.ท.ทักษิณ เคยระบุว่า จะกลับประเทศในช่วงปลายปี 55 โดยกล่าวว่า ไม่ขอพูดในรายละเอียด ยืนยันว่า วิธีการของตนไม่เหมือนของคนอื่น อาทิ นายวัฒนา เมืองสุข ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย หรือ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคมาตุภูมิ ในฐานะประธานกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาแนวทางการสร้างความปรองดองแห่งชาติ สภาผู้แทนราษฎร หรือคนอื่นๆ ที่คิดออกแบบมาก็เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ วันนี้ในส่วนของตนก็มี ส.ส.อีสาน และ ส.ส.เหนือมาเข้าคิวลงชื่อแล้ว และสมาชิกในพรรคใครกลัวตกขบวนก็ให้มาลงชื่อ โดย ส.ส.ที่ลงชื่อร่วมกับตนไม่ต้องอธิบายความ เพราะตนจะอธิบายเอง หากสภาฯไม่เห็นด้วยก็จบ นายอภิสิทธิ์ จะมาเดือดร้อนเรื่องอะไร
ผู้สื่อข่าวถามถึงในส่วนของคดีที่ดินรัชดาฯ ที่ศาลได้ตัดสินไปแล้วว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีความผิด จะถือว่าเป็นการไม่ให้ความสำคัญกับกระบวนการตุลาการหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า ไม่ขอพูดถึงตรงนั้น เพียงแต่ร่าง พ.ร.บ.นี้ ยกร่างโดยตนที่เป็นดอกเตอร์ทางกฎหมาย เชื่อว่าหากเปิดเผยออกมาแล้วจะสร้างความฮือฮา และไม่ใช่การล้างความผิดให้ พ.ต.ท.ทักษิณด้วย เพราะคดีเกิดจากการรัฐประหาร 19 ก.ย.49
“ยืนยันว่า ทุกภาคส่วนได้หมด ภาษาทหารเรือ เรียกว่าล้างกันสาด ลืมความหลังเริ่มต้นใหม่ ผมเป็นคนตรงไปตรงมา พูดมาตั้งแต่ปี 52 ไม่ได้ต้องการเชลียร์ เอาใจท่านทักษิณ ที่บอกว่าผมไปสอพลอ กลัวถูกปลดนั้นไม่เป็นความจริง” ร.ต.อ.เฉลิม ระบุ
เมื่อถามถึงการประกาศให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เดินทางเข้าประเทศไทยผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ แทนที่จะเป็นท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า เป็นเพียงเทคนิคปราศรัย เนื่องจากมีคนรัก พ.ต.ท.ทักษิณทั้ง จ.เชียงใหม่ จะให้ไปลงที่อื่นได้อย่างไร อย่างไรก็ตามไม่ขอระบุว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะกลับมาปีไหน แต่ยืนยันว่าทำแน่นอน เพราะหาก พ.ร.บ.ปรองดองจบ จะเกิดความสง่างามกับทุกฝ่าย ตนมั่นใจว่า ทำจบ โดยที่นายกฯยิ่งลักษณ์ ไม่เกี่ยวข้องด้วย