“ส.ว.รสนา” จี้รัฐบาลทบทวนขึ้นราคาน้ำมัน-ก๊าซหุงต้ม ทำค่าครองชีพสูง แฉตัวเลขราคาน้ำมันต่างประเทศถูกกว่าของไทยอื้อ ด้าน “ส.ว.ชรินท์” เรียกร้องรัฐบาลเร่งจ่ายเงินน้ำท่วม 2 หมื่นบาทให้ผู้ประสบภัย “จารุพงศ์” แนะควบคุมรายการ อสมท เหตุมีเนื้อหาไม่เหมาะสม หวั่นสร้างความขัดแย้งในสังคม
ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า วันนี้ (12 มี.ค.) มีการประชุมวุฒิสภา สมัยสามัญนิติบัญญัติ ครั้งที่ 17 โดยมี พล.อ.ธีรเดช มีเพียร ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระประธานฯ ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกหารือ โดย น.ส.รสนา โตสิตระกูล ส.ว.กทม. กล่าวว่า ตนขอฝากไปยังรัฐบาลว่าขณะนี้ราคาน้ำมันในประเทศกำลังจะปรับขึ้นราคา ซึ่งสวนทางกับนโยบายหาเสียงของรัฐบาลที่ประกาศว่าจะกระชากค่าครองชีพ ทั้งยังสวนทางกับราคาน้ำมันของประเทศเพื่อนบ้านที่ได้มีการตรวจสอบ ซึ่งวันนี้ (12 มี.ค.) ตนพบว่าราคาน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ราคา 44.89 บาท ในขณะที่ประเทศมาเลเซียนั้นอยู่ที่ราคา 19 บาท ส่วนอินโดนีเซีย อยู่ที่ 31.70 ในขณะที่ประเทศพม่านำเข้าน้ำมันจากประเทศมาเลเซียราคาน้ำมันเบนวิน 95 อยู่ที่ 24 บาท ส่วนดีเซลนั้นแพงกว่าคือ 27.70 บาท
น.ส.รสนากล่าวว่า ส่วนที่สหรัฐอเมริกา น้ำมันเบนซิน 95 ในวันที่ 23 ก.พ. ราคา 23.80 บาท ซึ่งประเทศไทยในวันเดียวกันราคาพุ่งสูงถึง 42 บาท ทั้งนี้ตนคิดว่าราคาเหล่านี้สูงเกินกว่าราคาตลาดโลก โดยเฉพาะรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ที่ออกมาประกาศว่าจะขึ้นราคาก๊าชหุงต้มอีกแต่ในขณะที่ประเทศไทยมีก๊าชจากอ่าวไทย และขายก๊าชหุงต้มราคา 18.13 บาท ก๊าซยานยนต์ 19.63 บาท และก๊าซอุตสาหกรรมอยู่ที่ 27.13 บาท ซึ่งตนคิดว่าจะทำให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงเกินความเป็นจริงและยังส่งผลกระทบต่อประชาชนรัฐบาลควรพิจารณาราคาค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาพลังงานนั้นเป็นความไม่เป็นธรรมต่อประเทศต่อประชาชน เนื่องจากประเทศไทยมีทรัพยากรปิโตรเลียม และขุดปิโตรเลียมขายก๊าชในอันดับที่ 23 ของโลกและน้ำมันในอันดับ 35 ของโลก ตนคิดว่าเรื่องดังกล่าวเป็นการเอาเปรียบประชาชนและไม่เป็นธรรม ฝากให้รัฐมนตรีและรัฐบาลพิจารณาทบทวนเรื่องดังกล่าวอีกครั้ง
ด้าน นายชรินท์ หาญสืบสาย ส.ว.ตาก กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และ ผู้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทย ในเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในปี 2554 ตามที่รัฐบาลได้ให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในปีที่ผ่านมา เบื้องต้นรายละ 5,000 บาทโดยให้ยื่นหลักฐานขอความช่วยเหลืออีกรายละ 2,0000 บาทขณะนี้ประชาชนยังรอคอยการช่วยเหลือจากรัฐบาลอยู่
นอกจากนี้ ประชาชนยังสูญเครื่องใช้ไฟฟ้าเฟอร์นิเจอร์ เช่น ตู้เย็น ทีวี เพราะประชาชนไม่สามารถไปกู้เงินซื้อได้ จึงอยากให้ธนาคารแห่งประเทศไทยจัดเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษไม่เกิน 3 เปอร์เซ็นต์ให้กับประชาชนที่เดือดร้อนเช่นเดียวกับที่รัฐบาลให้ความช่วยเหลือภาคอุตสาหกรรม ซึ่งถ้าทำได้เป็นการช่วยเหลือประชาชนที่ตรงจุด
ส่วน นายจารุพงศ์ จีนาพันธ์ ส.ว.สรรหา กล่าวว่า ตนอยากฝากไปยัง สำนักงานคณะกรรมาธิการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ให้ดูแลการรายการของบริษัท อสมท จํากัด (มหาชน) ซึ่งมีบางรายการที่นำเสนอมิวสิกวิดีโอที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมนำมาเผยแพร่ เป็นการสร้างความขัดแย้งให้แก่สังคม จึงทำให้เกิดคำถามว่า ในการกระทำดังกล่าวนั้น อสมท ได้ขออนุญาต กสทช.แล้วหรือยัง ถ้ายังไม่ขออนุญาต กสทช.จะดำเนินการในเรื่องนี้อย่างไร
ส่วนในกรณีการทดลองออกอากาศเหตุใด อสมท จึงเปิดโอกาสให้บริษัทเอกชนเพียงรายเดียวมาทำการออกอากาศ ทำไม อสมท จึงไม่ทดลองออกอากาศเอง และที่สำคัญเนื้อหาสาระของรายการเกี่ยวกับการเทิดพระเกียรติ หรือเกี่ยวกับเรื่องที่ส่งเสริมสถาบันพระมหากษัตริย์ ทำไมจึงไม่นำรายการเหล่านี้มาออกอากาศ เรื่องดังกล่าวตนหวังเป็นอย่างยิ่งว่าองค์กรที่เกี่ยวข้องอย่าง กสทช.ดำเนินการแก้ไขอย่างเร่งด่วน