ของแพง-ค่าครองชีพกระฉูด ประจานน้ำยาพี่น้อง “แม้ว-ปู!!”

ผ่าประเด็นร้อน

เราจะกระชากค่าครองชีพลงมา เอามั้ยค้าาา!!

เราจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงมาทันทีลิตรละ 7-8 บาท เอามั้ยค้าาา!!

นั่นเป็นคำพูดของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่พูดตามสคริปต์กลางสายฝนระหว่างหาเสียงช่วงโค้งสุดท้ายเมื่อก่อนมีการเลือกตั้งวันที่ 3 กรกฎาคม เพียงไม่กี่ชั่วโมง ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งอาจเป็นเพราะความล้มเหลวไม่ได้เรื่องของฝ่ายตรงข้ามที่ชาวบ้านเห็นตำตาอยู่ตอนนั้นทำให้เป็นแรงส่งเสริมเข้ามาเพิ่มทำให้พรรคเพื่อไทย และยิ่งลักษณ์ ที่ถูกดันหลังจากพี่ชายเข้ามาสู่เวทีการเมืองแค่ 49 วัน และด้วยคำโฆษณาชวนเชื่ออ้างความสำเร็จในอดีตเป็นภายาภาพว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ทำให้ได้ชัยชนะถล่มทลาย

ทำให้ ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ท่ามกลางเสียงชื่นชมยินดีของพี่น้องคนไทยทั้งหญิงและชาย พี่น้องคนเสื้อแดงที่อุตส่าห์ออกมาเสี่ยงตายตากแดดตากลมอยู่นานนับปี มั่นใจว่านับจากนี้เป็นต้นไปคงจะได้ลืมตาอ้าปากได้กันเสียที และลืมฝันร้ายในอดีตให้ผ่านเลยไป เพราะมีคำพูดตอกย้ำออกมาจากปากของผู้นำคนใหม่หมาดๆ ตอนนั้นว่า “แก้ไข ไม่แก้แค้น”

ทุกอย่างในเวลานั้นเหมือนอยู่ในเทพนิยาย ช่างมีความสุขเสียนี่กระไร เพราะกำลังจะได้ค่าแรงวันละ 300 บาท จบปริญญาตรีได้เงินเดือน 15,000 บาท ขายข้าวได้ราคาไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 15,000 บาท คนแก่สูงอายุ ก็เกทับเพิ่มเงินให้อีก ยังมีกองทุนหมู่บ้าน สารพัด โอ้ย จะทะลักความสุขตายอยู่แล้ว!!

อย่างไรก็ดี ทุกอย่างน่าจะราบรื่นสามารถตบตาไปได้อีกนาน แต่เหมือนกับ “ฟ้ามีตา” เกิดเหตุเพทภัยน้ำทะลักท่วมเข้ามาอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน สร้างความเสียหายย่อยยับ ทั้งบ้านช่องไร่นาราพนาสูร พี่น้องคนไทยต้องสังเวยชีวิตไปถึงกว่า 800 ศพ ตบหน้านายกฯ “เอาอยู่” แตกยับเป็นริ้ว เพราะแม้แต่ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่ตั้งขึ้นมาช่วยเหลือชาวบ้านยังเอาตัวไม่รอด ต้องหนีน้ำกันหัวซุกหัวซุน และจากเหตุการณ์ดังกล่าวนี่เองที่ทำให้ชาวบ้านได้เห็นถึงความ “กลวง” ทางด้านสติปัญญาของ ผู้นำประเทศคนนี้ ที่ “พี่ชาย” ของเธอ คือ ทักษิณ ชินวัตร ส่งเข้ามาหลอกต้มคนทั้งประเทศ

แต่ด้วยสถานการณ์ที่ไม่ปกติ ทั้งเรื่องน้ำท่วมใหญ่ ซึ่งหากว่าไปแล้วสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดวิกฤติกว่าครั้งใด ก็เพราะการบริหารจัดการน้ำที่ห่วยแตก โดยเฉพาะการไร้ความสามารถของผู้นำ ทำให้การสั่งการเต็มไปด้วยโกลาหล ทั้งที่หากเปรียบเทียบกันแล้วปริมาณน้ำไม่ได้มีมากกว่าปีก่อนมากนัก แต่ที่นักเคราะห์ตั้งข้อสังเกตตรงกันก็คือ การสั่งกักน้ำในเขื่อนใหญ่ไม่ถูกจังหวะเวลา เพื่อรองรับนโยบายทางการเมืองนั่นคือ โครงการรับจำนำข้าว ต่อมาสั่งปล่อยน้ำแบบฉุกเฉินทำให้ทะลักไหลลงมาท่วมพ้นที่ปลายน้ำจนพินาศย่อยยับ

จากความล้มเหลวในเรื่องบริหารจัดการน้ำดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่มีความเชื่อมั่น โดยเฉพาะบรรดานักธุรกิจนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ หลายแห่งถึงกับต้องย้ายการลงทุนหนีไปอยู่ที่อื่นที่ปลอดภัยกว่า

ขณะเดียวกัน ปัญหาที่กำลังย้อนกลับมาเป็นจุดตายของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ก็คือ เรื่อง “ค่าครองชีพ” ที่กำลังพุ่งขึ้นสูงสุดอย่างที่ไม่เคยพบมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทยเช่นเดียวกัน หลังจากที่ไม่อาจหาทางฉุดรั้งด้วยการหามาตรการใดๆพยุงให้ราคาน้ำมันอยู่กับที่ได้ และมีแนวโน้มว่าราคาน้ำมันในตลาดโลกจะต้องพุ่งไปถึง 150 เหรียญสหรัฐต่อบาเรล ถึงตอนนั้นก็จะได้เห็นน้ำมันดีเซลขึ้นไปถึงลิตรละ 40 บาท โดยเฉพาะหน้านี้หากในเดือนเมษายนรัฐบาลจะเริ่มกลับมาเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมัน ทั้งเบนซิน และดีเซลอีก ไม่ว่าจะเป็นทยอยจัดเก็บ หรือเก็บแบบรวดเดียวมันก็จะส่งผลต่อราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นทันที เพียงแต่ค่อยๆ เพิ่ม หรือว่าเพิ่มทันทีแบบช็อกกันไปเลย

ปัญหาน้ำมันราคาแพงนี่แหละที่กำลังให้กับคนไทยต้องแบกรับภาระ เพราะเป็นต้นทุนหลักในกิจการทุกประเภท โดยเฉพาะราคาสินค้าที่กำลังพุ่งขึ้นไม่หยุด กลายเป็น “ยุคข้าวยากหมากแพง” เต็มขั้นแล้ว ขณะเดียวกัน ปัญหาของแพงส่วนหนึ่งก็ยังเป็นเรื่องจิตวิทยาอันเนื่องมาจากนโยบายประชานิยม ทั้งเรื่องค่าแรง เงินเดือนที่กำลังมีการทยอยปรับขึ้น แต่กลายเป็นว่ามีการขึ้นราคาสินค้าไปรอไว้ล่วงหน้าเรียบร้อย และเมื่อขึ้นไปก็ไม่มีทางลงมาเด็ดขาด

เรื่องข้าวของแพงถือว่าเป็นความล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวและสร้างความเดือดร้อนใหัแก่ชาวบ้านอย่างแท้จริง และเมื่อยิ่งลักษณ์ล้มเหลวก็ต้องถือว่า ทักษิณ ชินวัตร ล้มเหลวด้วย เพราะ “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” ประจักษ์พยานที่เห็นกันอยู่ตำตาที่เพิ่งเกิดขึ้นหมาดๆ ก็คือการโฟนอินเข้ามาที่โบนันซ่าเขาใหญ่เมื่อสัปดาห์ก่อน ก็พูดจา “โชว์ออฟ” ไม่ต่างจากนายกฯ ตัวจริง มันก็ยิ่งปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้

ดีไม่ดีปัญหาของแพงที่กำลังสร้างความเดือดร้อนให้ชาวบ้านบ้านนี่แหละจะมีผลต่ออนาคตของคนในครอบครัวนี้ ที่มากับไฟ จะไปกับน้ำกับม็อบก็ได้ เพราะถึงอย่างไรเรื่องรัฐธรรมนูญจะเป็นประชาธิปไตยหรือไม่ มันก็กินไม่ได้!!