ปัญหาอยู่ที่ “ยิ่งลักษณ์” ทำผลงานห่วยแตก “แม้ว” ขยับลำบาก!!

บ้านพระอาทิตย์
วิเคาะห์การเมือง

บางครั้งการเมืองไม่จำเป็นต้องมองอะไรให้ซับซ้อนมากนัก ที่ผ่านมาหากสังเกตให้ดีจะพบว่าคนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ก็เดินเกมแบบธรรมดา เข้าใจง่าย เพียงแต่ว่าเขาเข้าใจจิตวิทยามวลชน เข้าใจอารมณ์ของคนไทยว่าชอบแบบไหน แล้วกลยุทธ์ทางการตลาดที่แฝงไปด้วยการโฆษณาชวนเชื่อเข้าไปโปรโมตมันก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสคลั่งไคล้ และเมื่อติดลมบนแล้วถึงตอนนั้นก็ไม่ต้องลงทุนแล้ว ที่เหลือก็มีแต่กำไร

ลองย้อนกลับไปพิจารณาเมื่อครั้งที่มีกระแส “แม้วฟีเวอร์” สร้างพรรคไทยรักไทยชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย ด้วยกระแสเชื่อมั่นว่า “รวยแล้วไม่โกง” อีกทั้งคนไทยจำนวนไม่น้อยคิดว่าคนที่รวยมหาศาลแบบนี้มันต้องเก่งเหนือมนุษย์จึงต้องฝากความหวังไว้กับคนประเภทนี้เผื่อว่าคนรวยพวกนี้จะสามารถพึ่งพาได้และหวังว่าจะทำให้เราสบายไปด้วย

ในต้อนนั้นแม้ว่ากระทำผิดกรณีซุกหุ้นภาคแรก แม้แต่ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญยังต้องยอมตามกระแส แม้ว่าในความเป็นจริงจะมีข้อแลกเปลี่ยนผลประโยชน์อะไรหรือไม่ก็ตาม แต่ก็ยอมรับว่าไม่กล้าฝืนกระแสที่ชาวบ้านเลือกมากว่า 14 ล้านเสียง
 
จนกระทั่งยอมให้ ทักษิณ พ้นผิด
 
แม้ว่าจะเป็นเสียงชี้ขาดให้ผ่านแบบฉิวเฉียด แต่ก็ทำให้เขาได้เข้าสู่เส้นทางอำนาจจนสามารถขยายเครือข่ายจนเติบใหญ่มาจนถึงทุกวันนี้

ขณะเดียวกัน ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในช่วงที่เขามีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีได้นำนโยบายประชานิยมที่ลอกแบบมาจากกลุ่มประเทศในแถบอเมริกาใต้มาใช้กับคนไทยที่เป็นสังคมอุปถัมภ์จนเสพติดจนถอนตัวไม่ขึ้น แม้ว่าในที่สุดแล้วในวงรอบสุดท้ายผลประโยชน์ ผลกำไรก็ย้อนกลับมาหาธุรกิจในครอบครัวของเขานั่นเอง

ด้วยนโยบายที่สร้างความประทับใจให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะคนจนที่เป็นฐานรากจำนวนมากที่สุด คนเหล่านี้ก็กลายเป็นฐานเสียงสนับสนุนอันสำคัญ เพราะถึงอย่างไรเรื่องปากท้อง ความเป็นอยู่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด และนอกเหนือไปกว่านั้นก็คือยังมีการใช้กลยุทธทางการตลาดแบบโฆษณาชวนเชื่อทุ่มเข้าไปอีกก็ยิ่งหลงใหล

นั่นเป็นการเท้าความให้เห็นว่า หากสามารถสร้างความประทับใจให้กับมวลชนได้มากเท่าใดก็ยิ่งทำให้เกิดกระแสสนับสนุนปกป้องได้มากเท่านั้น เหมือนกับที่ ทักษิณ เคยสร้างปรากฏการณ์แปลกใหม่แบบนี้มาแล้ว และส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี เมื่อมาถึงยุคของน้องสาว คือ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในตอนเข้ามาก็ใช้จุดขายในลักษณะไม่แตกต่างกัน คือนอกเหนือจากความเชื่อในความเก่งกาจของ ทักษิณ ที่เป็นพี่ชายแล้ว เมื่อพี่ชายเก่ง น้องสาวก็ต้องเก่งตามไปด้วย เพราะดูได้จากที่ผ่านมาก็ได้บริหารธุรกิจในครอบครัวชินวัตร หรือถ้าเลือกยิ่งลักษณ์ก็เหมือนได้ทักษิณ สองต่อ

ขณะเดียวกันยังสร้างกระแสทางการตลาดเข้ามาเสริมก็คือ นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศไทย อีกทั้งรูปร่างหน้าตาที่ดูดี ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทำให้ พรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย และ ยิ่งลักษณ์ ก็ได้เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างไม่ยากเย็น แม้ว่าจะมีเรื่องนโยบายประชานิยมที่บลัฟฝ่ายตรงข้ามเป็นสองเท่าก็ตาม ซึ่งก็ไม่เถียงว่าเรื่องดังกล่าวก็มีส่วนอย่างมาก

ทุกอย่างน่าจะโรยด้วยกลีบกุหลาบ ฝ่ายตรงข้ามน่าจะเริ่มฝ่อลงทุกวัน เพราะพรรคเพื่อไทยชนะขาดเสียงในสภานิติบัญญัติเบ็ดเสร็จ แต่กลายเป็นว่าเมื่อถึงคราวบริหารบ้านเมือง ยิ่งลักษณ์ ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ผ่านมาเพียงแค่ 4-5 เดือน ทุกอย่างกลับตาลปัตร

ผลสำรวจหรือโพลที่เพิ่งออกมาก็ยืนยันว่า “ผิดหวัง” ทั้งรัฐบาล และตัวนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ และแม้แต่สื่อทั้งที่สภาและทำเนียบฯก็ยังให้ฉายามีความหมายตรงกันคือ “ดาวดับ” และ “นายกฯ นกแก้ว” ซึ่งหากสรุปแบบไม่อ้อมค้อมเกรงใจก็คือ “ห่วยแตก” นั่นแหละ

ที่ผ่านมาสิ่งที่ชาวบ้านและสื่อเริ่มระแคะระคายถึงร่องรอยความไม่เอาไหนของ นายกฯมาตั้งแต่เรื่อง “หญ้าแพรก” และ “เรือดันน้ำ” แล้วว่าเธอไม่มีความรู้รอบตัว ไม่มีความพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำประเทศ แต่เมื่อมีการพิสูจน์ด้วยผลงานการรับมือและแก้ไขปัญหาน้ำท่วมมันก็ทำให้มีการเปิดเผยตัวตนออกมาได้อย่างล่อนจ้อนว่าเธอ “กลวง” จริงๆ ทำให้คนไทยได้รู้ความจริง ทำให้เกิดความผิดหวังกันแบบช็อก ไม่เว้นแม้แต่พวกเดียวกันเองก็เริ่มเงียบเสียง รับรองว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปจากเดิมอย่างแน่นอน

อย่างที่บอกก็คือ การเดินหน้าไปสู่เป้าหมายของทักษิณ ว่าจะประสบความสำเร็จอย่างง่ายดายแค่ไหน ส่วนสำคัญก็ต้องขึ้นอยู่กับความประทับใจผลงานของ ยิ่งลักษณ์ ด้วย ซึ่งที่ผ่านมาแค่ 4-5 เดือนก็เริ่มประจักษ์ชัดแล้ว อย่างไรก็ดี หากจะว่าไปแล้วเรื่องน้ำท่วมถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่คาดหมาย เชื่อว่าแม้กระทั่ง ทักษิณ ก็คาดไม่ถึง เพราะถ้าเป็นสถานการณ์ปกติการบริหารงานของรัฐบาลก็ต้องดำเนินไปเรื่อยๆ ยังสามารถเก็บเกี่ยวคะแนนนิยมจากนโยบายประชานิยมได้อีกพักใหญ่ แต่เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก

ดังนั้น หากพิจารณากันแบบไม่ซับซ้อน แบบเข้าใจง่ายว่าความต้องการของทักษิณ ในหลายเรื่อง ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองพ้นผิด และหวังกลับคืนสู่อำนาจอีกครั้ง รวมไปถึงการทำผลประโยชน์ในลักษณะทับซ้อน มันก็ทำให้เป็นงานยากและเสี่ยงกว่าเดิมหลายเท่า เพราะนอกจากมีคนรู้ทันมากขึ้นแล้ว ยังมีผลลบจากผลงานของรัฐบาลน้องสาวที่ล้มเหลวในเวลาอันรวดเร็วมันก็ยิ่งลำบากเป็นสองเท่า และที่สำคัญถ้าพลาดเที่ยวนี้ก็จบเห่!!