xs
xsm
sm
md
lg

คำทำนาย-ถ้าแก้ รธน.แล้วหมกเม็ด “เพื่อแม้ว” บรรลัยแน่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ทักษิณ ชินวัตร
ผ่าประเด็นร้อน

มีแต่คำว่า “เอาแน่” สำหรับการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพียงแต่ว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าจะเดินเครื่องกันวันไหน แบบไหน และใครเป็นเจ้าภาพ เนื่องจากตัวการที่จะขับเคลื่อนหลักคือ ทักษิณ ชินวัตร ยัง “ไม่กล้าโยนติ้ว” ลงมา เพราะถ้าพลาดเที่ยวนี้ก็จบเห่ ขาดทุนป่นปี้ ทำให้ต้องจดๆจ้องๆยังไม่กล้าส่งสัญญาณให้ชัด เวลานี้จึงมีเพียงบรรดาลิ่วล้อเท่านั้นที่แย่งกันเสนอโครงการไปให้พิจารณาพร้อมกับให้ความหวัง บรรยากาศจึงดูสับสน

อย่างไรก็ดี ถ้าให้ประเมินแบบรู้ทันก็ต้องเข้าใจเสียก่อนว่า ก่อนที่จะเดินไปข้างหน้าก็ต้องสำรวจให้แน่ใจเสียก่อนว่าองคาพยพของร่างกายพร้อมแค่ไหน ซึ่งหากเปรียบเทียบให้เห็นภาพก็ต้องหมายถึงรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ที่นำโดยนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แน่นอน และที่ผ่านมาได้โชว์ผลงานให้สมกับราคาคุยหรือไม่

ที่สำคัญภาวะผู้นำของนายกฯ โคลนนิ่ง ที่ ทักษิณ ส่งเข้ามาเป็นตัวแทนอำนาจนั้นมีระดับสติปัญญาแค่ไหน สร้างความหวังให้กับชาวบ้านได้มากน้อยแค่ไหน แม้ว่าจะอ้างว่ามีเวลาเล็กน้อยแค่ 3-4 เดือน แต่ถ้าเจ๋งจริงรับรองว่ามันก็ต้องเห็นแวว เห็นแนวโน้มให้มีความหวังได้แน่นอน
 

แต่นี่กลับตรงกันข้าม ไม่เอาไหน นายกรัฐมนตรีทำตัวไม่ต่างจาก “พริตตี้” ตามงานอีเวนต์ทั่วไป หรือคอยกดปุ่มเปิดงาน ไร้แก่นสารไปวันๆ

ขณะเดียวกัน ในเรื่องที่เป็นผลประโยชน์ของชาติก็ทำตัวให้น่าสงสัย เพราะไม่ต่างจากคน “แสตมป์” คอยลงนามตามหลังพี่ชายที่ไปเจรจาตกลงกันไว้ล่วงหน้าดังกรณีที่เห็นในพม่า และกัมพูชาในเรื่องผลประโยชน์พลังงาน ลักษณะไม่ต่างจากผลประโยชน์ทับซ้อนที่มักพัวพันรอบตัว ทักษิณ และคนในครอบครัวนี้อยู่ตลอดเวลาที่เกี่ยวข้องกับการเมืองไทย

ขณะที่ในเรื่องผลประโยชน์ของชาวบ้าน เรื่องค่าครองชีพ ประเภท “คืนความสุขให้คนไทย” ที่โม้เอาไว้ก็ยังมองไม่เห็นวี่แวว ตรงกันข้ามมีแนวโน้มจะเดือดร้อนหนักข้อขึ้นหลายเท่าในปีหน้า เพราะมีปัจจัยทั้งภายในภายนอกประดังรุมเร้าเข้ามา สรุปก็คือภายใต้การบริหารของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีแต่ละคนล้วนแล้วแต่แข่งขันทำแต่เรื่องน่ารำคาญ น่าโมโห ประเภท “เรื่องโง่แล้วฉลาดนัก” หรือคิดว่าชาวบ้านรู้ไม่ทัน

ไม่เชื่อก็ลองพิจารณาจากความรู้สึกที่ออกมา ล้วนแล้วแต่ตกต่ำลง รับรองว่าบรรยากาศเปลี่ยนไปจากเดิม หากเทียบกับเมื่อครั้งที่ชนะการเลือกตั้งใหม่ๆ ซึ่งบรรยากาศที่เป็นลบเหล่านี้ยังคงต้องมีต่อไปต่อเนื่องในปีหน้า

เมือสภาพยังห่วยแตกแบบนี้คิดจะ “ทำงานใหญ่” อย่างการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้อย่างไร เพราะทุกครั้งที่แตะต้องเรื่องดังกล่าวที่เป็นประเด็นอ่อนไหว มันก็เกิดการเคลื่อนไหว เกิดความขัดแย้งในสังคมขึ้นมาทันที และด้วยสภาพของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ในปัจจุบันอาจทำให้ ทักษิณ ยังไม่กล้าขยับออกมาให้ชัดเจน เนื่องจากไม่มั่นใจว่ารองรับแรงเสียดทานที่กดทับลงมาได้หรือไม่ ซึ่ง
 
ตราบใดที่รัฐบาลยังไม่สามารถโชว์ผลงานเรื่องการแก้ปัญหาปากท้องได้อย่างน่าประทับใจ เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญถือว่าเป็นเรื่องเสี่ยง

ที่สำคัญการแก้ไขรัฐธรรมนูญเที่ยวนี้หากพิจารณากันอย่างตรงไปตรงมาแล้วล้วนแต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ และผลประโยชน์ที่ว่านั้นยังรองรับพวกนักการเมืองเลวๆเสียด้วย เพราะคนพวกนี้ทำมาหากินอยู่กับอำนาจมาตลอด เป็นการลงทุนที่เรียกว่า “ธุรกิจการเมือง” ที่คุ้มค่ามีทั้งอำนาจและบารมีตามมา

การแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 ที่พวกนักการเมืองกำลังขยับแก้ไขก็เช่นเดียวกัน มีเพียงข้ออ้างเดียวคือมาจาก “มดลูกเผด็จการ” มาจากการรัฐประหาร เท่านั้น แต่ถามว่ามีอุปสรรคต่อการบริหารบ้านเมืองหรือไม่ ก็เปล่ายกเว้นเพียงว่าเป็นรัฐธรรมนูญที่เข้มงวดกับนักการเมืองชั่วๆ ที่จ้องเข้ามาโกงและทุจริตงบประมาณเท่านั้น ทั้งนี้เนื้อหาแทบทั้งหมดล้วนแล้วต่อยอดมาจากรัฐธรรมนูญฉบับปี 2540 ทั้งสิ้น จะมีเพิ่มขึ้นมาก็คือการออกมาตรการให้รัดกุมมากขึ้นเท่านั้นเอง

ดังนั้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญที่หากเกิดขึ้นก็จึงไม่ใช่เรื่องเกินเลยหากบอกว่าเป็นเรื่องประโยชน์ของนักการเมือง ไม่ได้เกี่ยวข้องกับชาวบ้านอะไรเลย ขณะที่ ทักษิณ ชินวัตร ก็หมายมั่นปั้นมือว่าจะแก้ไขเพื่อให้ตัวเองได้กลับมามีอำนาจ ลบล้างความผิด ได้เงินคืน โดยเฉพาะการเล็งไปที่มาตรา 309 แต่ก็อย่างว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะชาวบ้านเขาก็รู้ทัน

การที่บอกว่าจะมีการทำประชามติ เพื่อความแนบเนียนว่าในเมื่อรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้รับการรับรองมาด้วย 14.7 ล้านเสียง ก็ต้องให้ประชาชนเห็นชอบก่อน ก็เนื่องจากมั่นใจจากเสียงข้างมากที่ชนะเลือกตั้งถล่มทลาย แต่ปัญหาก็คือคราวที่แล้วที่ชนะนั้นมันพ่วงด้วยการหลอกต้มจากนโยบายประชานิยม ทั้งเรื่องค่าแรงวันละ 300 บาท จำนำข้าวไม่ต่ำกว่าเกวียนละ 15,000 บาทเป็นต้น ถามว่าคราวนี้ถ้ามีแต่เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญโดดๆ อีกทั้งชาวบ้านยังรู้ว่ากระสันทำเพื่อแม้วคนเดียว แถมผลงานรัฐบาลห่วยแตกมาประกอบอีก คิดหรือว่าจะผ่านได้ง่ายๆ เพราะก่อนถึงวันลงประชามติมันก็ยิ่งมีการรณรงค์มีการแฉเปิดโปงเข้มข้น มันก็ยิ่งเสี่ยง

นี่อาจเป็นเหตุผลที่ ทักษิณ ยังไม่กล้าเป่านกหวีดส่งสัญญาณเคลื่อนไหวให้แก้ไขรัฐธรรมนูญให้ชัดเจน เพราะยังไม่แน่ใจว่าจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะเป้าหมายของเขาคงไม่ใช่เรื่องอุดมการณ์ประชาธิปไตยอะไรหรอก แต่เรื่องเดียวที่ต้องการคือลบล้างความผิด เปิดทางให้มีอำนาจ  
 

ดังนั้นเป็นไปได้ว่าอาจต้องยืดเวลาไปอีกระยะหนึ่งก่อนนั่นคือการปรับ คณะรัฐมนตรีในต้นปีหน้า ในช่วงเวลานี้ก็โยนหินหยั่งกระแสไปก่อนรอให้ทุกอย่างชัวร์ก่อนแล้วค่อยลงมือ เพราะถ้าพลาดก็บรรลัยแน่!!
กำลังโหลดความคิดเห็น