xs
xsm
sm
md
lg

“แม้ว” แค่ของปลอม ใครยังไม่เชื่อให้ทนรอพิสูจน์!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

น้ำท่วมเที่ยวนี้หนักหนาสาหัสเกินเยียวยา และเดือดร้อนกันทุกหย่อมหญ้า ตั้งแต่ ไพร่ เศรษฐี ไปจนถึงอำมาตย์ อ่วมอรทัยกันไปตามๆ กัน มากบ้างน้อยบ้าง เพียงแต่ว่าคนที่ร่ำรวย มีเงินทองสามารถหาทางออกบรรเทาความเดือดร้อนได้มากกว่า เท่านั้นเอง

อย่างไรก็ดี เหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นหากจะบอกว่าเป็นภัยธรรมชาติก็คงไม่มีใครเถียง แต่ประเด็นก็คือสามารถบริหารจัดการบรรเทาปัญหาให้มีประสิทธิภาพได้ดีกว่านี้ถ้ารัฐบาลมีสติปัญญามากพอ และผู้นำคือ นายกรัฐมนตรีสามารถบริหารสั่งการ ตัดสินใจบนข้อมูลที่ถูกต้องและบูรณาการอย่างแท้จริง

ต้องไม่ลืมก็คือ ปัญหาน้ำท่วมมันมีที่มาที่ไป ไม่ใช่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ไม่ใช่จู่ๆก็ไหลทะลักท่วมบ้านช่องดะไปหมด แต่มันต้องเกี่ยวข้องกับปริมาณน้ำฝน ปริมาณน้ำเหนือเขื่อน ใต้เขื่อน การเปิด-ปิดประตูระบายน้ำ รวมไปถึงน้ำทะเลหนุน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้สามารถคำนวณได้ล่วงหน้า โดยผู้เชี่ยวชาญเรื่องน้ำ และวิศวกรที่มีอยู่จำนวนมาก ซึ่งนายกรัฐมนตรีไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่ต้องรู้จักใช้คน มีภาวะผู้นำทั้งในสถานการณ์ปกติและวิกฤติ

แต่เมื่อมาพิจารณาผู้นำคนปัจจุบัน คือ นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีคุณสมบัติดังกล่าวแค่ไหน คงไม่ต้องมาสาธยายให้เสียเวลา เพราะความจริงได้พิสูจน์ให้เห็นอยู่ตรงหน้า และภัยพิบัติน้ำท่วมเที่ยวนี้ยังได้เปลือยตัวตนของเธอออกมาประจานให้เห็นกันอย่างหมดเปลือก ในเวลาอันรวดเร็ว เรียกได้ว่าไม่ต้องเสียเวลาตั้งความหวังรอลุ้นกันอีกในอนาคต

ตรงกันข้ามทำให้หลายคนต้องทำใจ ต้องหาทางออกเพื่อหาวิธีดำรงชีวิตต่อไปได้อย่างไร เพราะคงหวังพึ่งพารัฐบาลไม่ได้แล้ว

อย่างไรก็ดี ในความเป็นจริงแล้ว หากติดตามความเคลื่อนไหวของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์มาตั้งแต่ต้น ก็คงไม่ได้ผิดความคาดหมายแต่อย่างใด เนื่องจากเธอไม่มีความพร้อมสำหรับการเป็นผู้นำประเทศ ไม่เคยไต่เต้าขึ้นมาตามธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นภายในพรรคเพื่อไทย หรือหากย้อนกลับไปเมื่อครั้งเป็นผู้บริหารบริษัทในครอบครัว ล้วนแล้วขึ้นแบบทางลัด หรือเป็นแบบที่ไม่ได้เป็นผู้นำที่แท้จริง เนื่องจากถูกมองว่ามีการ “ว่าจ้างมืออาชีพ” เข้ามาจัดการแทน ส่วนเธอก็มีฐานะไม่ต่างจาก “น้องสาวของเจ้าของบริษัท” เท่านั้นเอง

สำหรับการก้าวสู่การเมืองก็เช่นเดียวกัน ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้มีความพร้อม ไม่เคยมีทักษะ ไม่มีแม้กระทั่งความรู้รอบตัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้สามารถสังเกตได้จากการพูด การแถลง การให้สัมภาษณ์ต่อสื่อ เหมือนกับคำกล่าวที่ว่าหากจะสังเกตสติปัญญา รวมไปถึงความสามารถของใครสักคนให้ดูจากการพูด หรือผลงานการบริหารจัดการว่ามีความสงบเรียบร้อยหรือว่าโกลาหล มีความสับสน มีการเลือกคนให้เหมาะสมกับงานในแต่ละสถานการณ์แค่ไหน ซึ่งกว่าสามเดือน จนกระทั่งมาจนถึงกรณีเหตุการณ์น้ำท่วมมันก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วแบบไร้ข้อกังขา

ขณะเดียวกัน ยิ่งลักษณ์ก็คือ “โคลนนิ่ง” ของพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร เหมือนกับคำพูดที่ใช้หาเสียงที่ว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” และบวกด้วย ยิ่งลักษณ์โคลนนิ่ง ดังนั้น หากให้สรุปก็คือ ทุกสิ่งทุกอย่างของรัฐบาลชุดนี้ล้วนอยู่ภายใต้ระบบคิดการสั่งการของทักษิณทั้งสิ้น ซึ่งเชื่อว่าทุกคนก็ต้องคิดแบบนั้น รวมไปถึงคนเสื้อแดงทั้งหมดด้วย เพราะไม่งั้นคงไม่เฮโลเลือกเธอเข้ามาเป็นผู้นำด้วยคะแนนเสียงท่วมท้น แต่เมื่อผลงานออกมาห่วยแตก นั่นก็ต้องหมายความว่าคนห่วยอีกคนที่อยู่ข้างหลังคือใคร นาทีนี้มีคำตอบชัดเจนแล้ว

สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร หากใครที่ติดตามความเคลื่อนไหวเขามาตั้งแต่ต้นก็จะรู้ทันว่าไม่ใช่เป็นคนเก่งกาจอะไรนักหนา เพียงแต่ว่าเป็นนักเสี่ยงโชค กล้าได้กล้าเสีย รวมไปถึงเป็นนักฉวยโอกาสชั้นเยี่ยม เพราะปากพล่ามบอกว่าเป็นนักประชาธิปไตย แต่พฤติกรรมในอดีตล้วนแล้วแต่ข้องแวะอยู่กับคณะเผด็จการตลอดเวลา ซึ่งก็รวมไปถึงการได้สัมปทานดาวเทียม กิจการโทรคมนาคมเมื่อหลายปีก่อนก็ล้วนแล้วแต่ถูกตั้งข้อสงสัยว่ามาจากผลพวงดังกล่าวทั้งสิ้น หากพูดกันอย่างตรงไปตรงมาก็คือเขาไม่ใช่เทวดาอย่างที่พยายามสร้างภาพ

หากย้อนกลับไปเมื่อครั้งก่อนวิกฤต “ต้มยำกุ้ง” เมื่อปี 2540 เขาก็ถูกสงสัยว่า “ล่วงรู้ข้อมูลภายใน” จนได้กำไรจากค่าเงินจำนวนมาก หลังจากนั้นเมื่อตั้งพรรคไทยรักไทย และเป็นนายกรัฐมนตรีในปี 2544 เป็นต้นมา ก็เกิดขึ้นหลังจากวิกฤตได้ผ่านพ้นไปแล้วและกำลังอยู่ในช่วง “ขาขึ้น” ตามวงรอบเศรษฐกิจ ประกอบกับนโยบายประชานิยมที่สนับสนุนการจับจ่ายทำให้เศรษฐกิจยิ่งขยายตัวเพิ่มขึ้นไปอีก ประกอบกับในตอนนั้นเศรษฐกิจภายนอกทั้งยุโรปและอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกหลักไม่ได้ตกต่ำดังเช่นปัจจุบัน

นอกจากนี้ ในคราวนั้นชาวบ้านยังไม่รู้ทัน ยังเห่อเศรษฐีใหม่ ที่หลอกต้มให้เป็นความหวังของชาติ โดยเฉพาะชาวบ้านรากหญ้า ทั้งที่ในความเป็นจริงล้วนขัดแย้งกันอย่างสิ้นเชิง เพราะเขาเติบโตมาจากธุรกิจสัมปทานผูกขาด ไม่ใช่แข่งขันเสรี แต่ถ้าย้อนไปดูจะพบว่าไม่ว่าธุรกิจใดก็ตามที่มีการแข่งขันเขามักจะล้มเหลว

นั่นเป็นแบ็กกราวนด์ที่ชี้ให้เห็นว่า ทักษิณ เป็นแค่นักฉวยโอกาส เป็นแค่นักสร้างภาพหลอกชาวบ้าน เพื่อสร้างความสำเร็จทางการเมือง ไม่อาจตั้งความหวังได้เลย อย่างไรก็ดีเหตุการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นมันผิดความคาดหมาย เพราะต้องบังคับให้รัฐบาลของเขาแสดงฝีมือให้เป็นที่ประจักษ์ รวมถึงหลังจากน้ำลดไปแล้วซึ่งเชื่อว่าจะหนักหนาสาหัสกว่าหลายเท่า จะโบ้ยให้คนอื่นเหมือนก่อนไม่ได้อีกแล้ว อย่างไรก็ดี หากใครที่ยังหลงเชื่อก็ไม่เป็นไรให้กัดฟันทนรอพิสูจน์อีกครั้งก็ได้ แต่เชื่อว่าหลายคนได้เห็นธาตุแท้หันหลังให้มาตั้งนานแล้ว!!

กำลังโหลดความคิดเห็น