xs
xsm
sm
md
lg

พักรบช่วงสิ้นปีรอรับศึกใหญ่หลังปีใหม่!!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ในที่สุดรัฐบาลพรรคเพื่อไทยที่นำโดย นายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ลากนาวา “ถูลู่ถูกัง” ผ่านไปแล้วกว่า 4 เดือน และกำลังจะก้าวข้ามผ่านปีใหม่ปี 2555 ในอีกไม่กี่วันข้างหน้าโดยได้ทิ้งคำถาม และความหงุดหงิดรำคาญเอาไว้ไม่น้อย ขณะเดียวกันเมื่อพิจารณาถึงแนวโน้มอนาคตที่กำลังจะมาถึงหลายคนก็ประเมินตรงกันว่ายังต้องเจอกับเรื่องเดิมๆ มิหนำซ้ำดูแล้วจะหนักหน่วงกว่าเดิม เพราะฝ่ายที่เปิดเกมต้องเร่งมือเพื่อนำไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ เพราะถ้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยเนิ่นช้าออกไป ตัวเองก็จะ “ขาดทุน” ไม่ได้ในสิ่งที่คาดหวังเอาไว้

แน่นอนว่าในปีหน้าการเมืองไทยยังไม่อาจก้าวพ้น ทักษิณ ชินวัตร ไปได้ง่ายๆ เพราะตราบใดที่เขายังบงการรัฐบาลและพรรคเพื่อไทย รวมทั้งยังมีมวลชนคนเสื้อแดงที่ยังหลงเชื่อคอยรับใช้อยู่ตลอดเวลา

ความวุ่นวายที่อาจจะเกิดขึ้นในปีหน้า สาเหตุหลักยังน่าจะมาจากเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่มีมาแต่ดั้งเดิม ซึ่งสังคมรับรู้มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่ได้ส่งสัญญาณออกมาให้ชัดเจนว่าจะให้ลงมือกันช่วงเวลาไหน แต่รับรองว่าต้องเริ่มดำเนินการในช่วงการประชุมสภาสมัยสามัญนิติบัญญัติ ซึ่งจะกินเวลาไปถึงเดือนเมษายน 2555 เหมือนกับ “เปิดหัว” ทิ้งเอาไว้ก่อน จากนั้นก็ปล่อยไปตามจังหวะ แล้วแต่ว่าบรรยากาศในช่วงเวลานั้นเป็นอย่างไร ต้องประเมินสถานการณ์แบบสัปดาห์ต่อสัปดาห์

สิ่งที่ต้องจับตาก็คือ การร่นเวลาลงมือให้เร็วขึ้น น่าจะมาจากความล้มเหลวของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นหลัก เพราะถ้าตราบใดที่สังคมไม่แฮปปี้กับผลงานของรัฐบาลมากเท่าใด มันก็ยิ่งส่งผลสะเทือนต่อความต้องการของตัวเองตามไปด้วย อย่างเช่นตัวอย่างกรณีเกิดเหตุวิกฤติอุทกภัยที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝัน ทำให้คนได้เห็นตัวตนและสติปัญญาของยิ่งลักษณ์ได้อย่างรวดเร็วเกิดคาด ภาพของความศรัทธา ภาพของความภาคภูมิใจของนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกได้ลดทอนลงมาอย่างมาก

แม้ว่าหากพิจารณากันตามความเป็นจริง “ความเสื่อม” ของรัฐบาลยังไม่ถึงขั้นวิกฤติ แต่รับรองว่ามันไม่เหมือนเดิม และกำลังอยู่ในระดับชั้น “ธรรมดา” เพราะแม้แต่ผลสำรวจทุกสำนักไม่ว่าจะเป็นประเภท “รับจ้างเชียร์” หรือไม่ก็ตามล้วนแล้วออกมาตรงกันว่าความนิยมลดลงมากบ้างน้อยบ้างว่ากันไป

ล่าสุด “กรุงเทพโพลล์” เพิ่งเปิดเผยผลสำรวจออกมาว่า สิ่งที่ประชาชนผิดหวังมากที่สุด กลายเป็นรัฐบาลยิ่งลักษณ์นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีผลสำรวจของ “เอแบคโพลล์” ที่ออกมาในวันเดียวกันก็คือ สิ่งที่ชาวบ้านคาดหวังอยากได้ของขวัญจากรัฐบาลในช่วงปีใหม่มากที่สุด คืออยากเห็นรัฐบาลมีความซื่อสัตย์สุจริต

หากพิจารณาจากผลสำรวจทั้งสองสำนักดังกล่าวก็สะท้อนให้เห็นว่า เรื่องแรกก็คือประชาชนรู้สึกผิดหวังกับการทำงานของรัฐบาล ซึ่งในที่นี้ก็ต้องหมายรวมทั้งนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคนว่าทำผลงานได้ไม่เอาไหน ไม่สมกับราคาคุย ผิดไปจากที่ได้คาดหวังเอาไว้ก่อนหน้านี้ โดยพิสูจน์ให้เห็นจากการเทคะแนนเลือกตั้งจนชนะถล่มทลาย แต่แค่ผ่านมาเพียง 4 เดือนเศษเท่านั้นทำไมถึงได้กลับตาลปัตร เพราะข่าวคราวที่ได้รับแต่ละวันล้วนมีแต่เรื่องความมุ่งมั่นช่วยเหลือ ทักษิณ เท่านั้น

เรื่องความซื่อสัตย์ก็เช่นเดียวกัน มันสะท้อนให้เห็นว่าชาวบ้านเขาไม่เชื่อมั่นในเรื่องของความสุจริต ภาพตัวอย่างที่เห็นตำตากรณีทุจริตถุงยังชีพ แอบแปะชื่อ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไว้บนถุงยังชีพที่ได้มาจากการบริจาคของภาคประชาชนแล้วเอาไปแจกหาเสียงเอาหน้า ภาพของความไร้ประสิทธิภาพ เหลวแหลกของศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) ที่ผ่านมาก็ไม่ต้องมาแก้ตัวให้เสียน้ำลาย สิ่งที่เกิดขึ้นล้วนทำลายความศรัทธาที่มีต่อพรรคเพื่อไทย รัฐบาล นายกรัฐมนตรี ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ซึ่งก็ย่อมสะเทือนไปถึง ทักษิณ ชินวัตร ด้วยในฐานะที่เป็น “เจ้าของ” ของคนพวกนี้

ด้วยความเสื่อมศรัทธาและความล้มเหลวดังกล่าวของรัฐบาลและนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ที่ถูกกำหนดให้เป็น “โคลนนิ่ง” ของทักษิณนี่แหละที่หลายฝ่ายมองว่าน่าจะเป็นตัวเร่งให้เขาต้องสั่งลงมือโดยเร็ว ร่นเวลาเข้ามาอีก ซึ่งหากพิจารณาจากความต้องการเพียงอย่างเดียวในเวลานี้ก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อลบล้างความผิดและเปิดทางให้กลับมามีอำนาจ ส่วนประเด็นอื่นล้วนเป็นเรื่องรอง และนำมาประดับเอาไว้ให้ดูดีเท่านั้น

หากจำกันได้ตอนแรกที่เริ่มมีการเคลื่อนไหวนำร่องแบบโยนหินถามทางมาก่อนว่าหากมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็จะต้องมีการทำประชามติ และมีการระบุกันว่าจะทำก่อนการแก้ไข และทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ก็ออกมารับลูก โดยเสนอใช้งบประมาณราว 2-3 พันล้านบาท แต่ล่าสุดกลายเป็นว่าออกมาในแนวแก้ไขก่อนแล้วค่อยลงประชามติทีหลัง

ความหมายก็คือ หากทำประชามติก่อนโอกาสไม่ผ่านก็มีสูง เพราะอย่างที่บอกเมื่อดูจากผลงานห่วยแตกของรัฐบาล มีแต่ข่าวคราวผลประโยชน์ของ ทักษิณ รายวัน มิหนำซ้ำแก้รัฐธรรมนูญเที่ยวนี้ก็ยังสงสัยว่าทำเพื่อล้างผิดทำเพื่อนักการเมือง ชาวบ้านไม่ได้ประโยชน์ ขณะเดียวกันอีกความเห็นหนึ่งที่ดังเข้ามาพร้อมกับตั้งคำถามก็คือทำไมไม่แก้ที่ตัวนักการเมืองให้เลวน้อยลงก่อน ทำไมไปแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ไม่ได้มีความผิดอะไร ปรากฏการณ์แบบหลังนี่แหละที่ทำให้การแก้ไขยุ่งยาก และเป็นเหตุผลที่ทักษิณต้องสั่งเร่งลงมือ ต้องทำแบบม้วนเดียวจ บแต่ในความเป็นจริงมันก็ไม่ง่าย

แต่ถึงอย่างไรก็ต้องมาว่ากันหลังปีใหม่ เชื่อว่าหนักหน่วงกันทั้งสองฝ่ายแน่!!
กำลังโหลดความคิดเห็น