ASTV ผู้จัดการรายวัน - “กรุงเทพโพลล์” เผยคนไทยปลื้มใจเห็นข่าวในหลวงสุขสุดในรอบปี ระทมข่าวน้ำท่วมที่สุด ชมทหาร-อาสาสมัครช่วยน้ำท่วม สุดผิดหวังผลงานรัฐบาล “ทักษิณส่วนหน้า” แต่ความนิยม “ยิ่งลักษณ์” กลับทิ้ง “มาร์ค” ลิ่ว ด้าน “เอแบคโพลล์” ชี้ เหล้า-ไวน์-ของเมายังครองแชมป์ของขวัญยอดนิยม หวังรัฐบาลทำงาน “ซื่อสัตย์” เป็นของขวัญปีใหม่ ขณะที่ “นิด้าโพลล์” เผยพรปีใหม่ที่คนไทยอยากได้ “ชาติรุ่งเรือง-สงบสุข-ในหลวงแข็งแรง”
วานนี้ (28 ธ.ค.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนฝในหัวข้อเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2554” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในทุกสาขาอาชีพ ด้วยคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบคิดคำตอบเอง โดยไม่มีข้อคำตอบให้เลือกจำนวน 9 ข้อคำถาม เมื่อช่วงวันที่ 21 - 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,113 คน สรุปผลได้ดังนี้
**ปลื้มข่าวในหลวง-ช้ำข่าวน้ำท่วม
ข่าวหรือเหตุการณ์ในรอบปี 2554 ที่สร้างความสุขใจมากที่สุด ร้อยละ 55.1 เห็นว่า ข่าวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ ข่าวการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา และข่าวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร ขณะที่ร้อยละ 22.7 เห็นว่า ข่าวการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการฟื้นฟูน้ำท่วม ตลอดจนน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือกันในช่วงวิกฤตน้ำท่วม และร้อยละ 9.2 เห็นว่า ข่าวการได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย
ขณะที่ข่าว หรือเหตุการณ์ในรอบปี 2554 ที่สร้างความทุกข์ใจมากที่สุด ร้อยละ 87.4 เห็นว่า ข่าวเหตุการณ์น้ำท่วม และความเสียหายที่เกิดขึ้น ร้อยละ 1.9 เห็นว่า ข่าวการวางระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และร้อยละ 1.5 เห็นว่า ข่าวความขัดแย้งกันของคนไทยในสังคม ส่วนข่าวที่สนใจและติดตามชมมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 68.1 ข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วม ตลอดจนแนวทางแก้ไข และฟื้นฟูผู้ประสบภัย ร้อยละ 11.8 ข่าวเหตุการณ์ทางการเมือง และ ร้อยละ 3.8 ข่าวการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
**ทหาร-อาสาสมัครได้ใจคนไทย
ด้าน หน่วยงาน/กลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่น่าชื่นชมยกย่องมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 47.2 เหล่าทหารที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงน้ำท่วม ร้อยละ 14.2 ประชาชนผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และ ร้อยละ 12.2 สื่อมวลชน ขณะที่หน่วยงาน/กลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่น่าผิดหวังมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 31.5 รัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 19.9 นักการเมืองไทย และร้อยละ 8.6 ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และฝ่ายค้าน
**ความนิยม “ยิ่งลักษณ์” ทิ้ง “มาร์ค” ลิ่ว
ทางด้านประเภทกีฬาที่มีผลงานโดดเด่นและน่ายกย่องมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 31.6 กีฬาวอลเลย์บอล ร้อยละ 23.5 กีฬาชกมวย ทั้งมวยสากล และมวยไทย (Thai Fight) และร้อยละ 12.1 กีฬาฟุตบอล ส่วนประเภทกีฬาที่มีผลงานยอดแย่มากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 85.5 กีฬาฟุตบอลทีมชาย ร้อยละ 3.0 กีฬาชกมวยสากล และร้อยละ 1.9 กีฬาว่ายน้ำ
เมื่อถามถึง นักการเมืองของไทยที่ชื่นชอบมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 42.1 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 28.3 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ร้อยละ 11.5 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ขณะที่ของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จากรัฐบาลมากที่สุด ร้อยละ 18.2 อยากให้รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ลดค่าครองชีพและลดราคาสินค้าลง ร้อยละ 15.4 อยากให้รัฐบาลมีความจริงใจในการบริหารงาน ไม่ให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน และทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ และร้อยละ 13.6 อยากให้รัฐบาลฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ และหาวิธีป้องกันปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน
** “เหล้า-ไวน์” ของขวัญยอดนิยม
วันเดียวกัน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยในหัวข้อเรื่อง “ของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่” จากตัวอย่างผู้บริโภคที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 15 จังหวัด จำนวน 1,363 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 - 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยที่น่าสนใจร้อยละ 39.3 ตั้งใจจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า ไวน์ เป็นของขวัญปีใหม่ รองลงมาคือ ร้อยละ 28 จะซื้อเครื่องแต่งกาย เช่น ผ้าพันคอ เสื้อ กางเกง ร้อยละ 20.1 จะซื้อเป็นกระเช้าของขวัญ ร้อยละ 19.7 จะซื้อผลไม้ ร้อยละ 19.5 จะซื้อคุ้กกี้ ขนมเค้ก ร้อยละ 13.5 จะให้เงิน ร้อยละ 13.2 จะซื้อการ์ดอวยพร ร้อยละ 9.6 จะซื้อเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อย กำไล ต่างหู และรองๆ ลงไปคือ ของใช้ เช่น ชุดกาแฟ ปากกา ของตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป ของตั้งโชว์ และเครื่องดื่มสุขภาพ ตามลำดับ
** ร้อยละ 70.8 มอบของให้ “พ่อ-แม่”
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 70.8 จะมอบของขวัญให้พ่อแม่ รองลงมาคือ ร้อยละ 47.4 จะมอบให้ญาติ ร้อยละ 34.9 จะมอบให้พี่น้อง ร้อยละ 24.8 จะมอบให้แฟนหรือคนรัก ร้อยละ 20 จะมอบให้เพื่อน ร้อยละ 15.5 จะมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และร้อยละ 3.9 จะมอบให้ครูอาจารย์ ตามลำดับ ส่วนงบประมาณนั้น ร้อยละ 57.8 จะใช้เงินไม่เกิน 2,000 บาท ร้อยละ 28.6 จะใช้เงินระหว่าง 2,001 - 5,000 บาท และร้อยละ 13.6 จะใช้เงินมากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งจูงใจอันดับแรกในการเลือกซื้อของขวัญ ร้อยละ 29.6 ระบุด้านผลิตภัณฑ์ เช่น เป็นที่นิยม มีประโยชน์ มีคุณค่า มีความหมาย ร้อยละ 24.7 ด้านราคา มีความเหมาะสม ไม่แพงหรือถูกเกินไป ร้อยละ 19.3 ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย หาซื้อง่าย ร้อยละ 13.7 ด้านการส่งเสริมการขาย มีลด แลก แจกแถม และร้อยละ 12.6 ระบุจากโฆษณาที่เขามอบเป็นของขวัญปีใหม่กัน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 89.3 ต้องการให้ผู้รับมีความสุข ร้อยละ 86.0 เป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ร้อยละ 85.5 มีความสุขที่ได้ให้ ร้อยละ 80.1 แสดงความกตัญญูแก่ผู้มีพระคุณ ร้อยละ 79.3 เลือกซื้อของขวัญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 76.6 ระบุให้ของขวัญปีใหม่เพราะเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็ทำกัน รองๆ ลงไปคือ ให้ของขวัญแก่คนที่ท่านเคารพนับถือเท่านั้น จะเลือกซื้อของขวัญที่เป็นสิริมงคล มีโชคลาภ แสดงความรุ่งเรือง และเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องให้ของขวัญปีใหม่กัน
**หวังรัฐบาลทำงาน “ซื่อสัตย์”
สำหรับคำถามว่า ถ้าของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลได้อย่างเดียว จะขออะไร ผลสำรวจพบ 5 อันดับแรก ร้อยละ 43.3 ขอให้รัฐบาลซื่อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ร้อยละ 21.7 ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เกิดความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ ร้อยละ 12.7 กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เพิ่มราคาพืชผลทางการเกษตร และดอกเบี้ยเงินฝาก ร้อยละ 11.8 แก้ปัญหาสังคมจริงจังต่อเนื่อง เช่น ยาเสพติด และอาชญากรรม และสุดท้ายร้อยละ 6.2 ระบุขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการ และนโยบายรัฐบาลเรื่องค่าจ้างแรงงาน กับเงินเดือนปริญญาตรี
**อยากให้ชาติรุ่งเรือง-ในหลวงแข็งแรง
อีกด้าน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพลล์) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “เทศกาลปีใหม่ กับการเปลี่ยนแปลงของประชาชน” ระหว่างวันที่ 23 - 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ภาคละ 272 - 276 หน่วยตัวอย่าง ในทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ จำนวน 1,379 หน่วยตัวอย่าง สรุปผลการสำรวจได้ดังนี้
ร้อยละ 46.19 มองปี 54 เป็นปีที่ดี โดยเฉพาะคนภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนอีก 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 32.41 เห็นว่าเป็นปีที่ไม่ดี ขณะที่ร้อยละ 42.42 ชี้กระเป๋าของตนและครอบครัวเทียบปี 53-54 ไม่แตกต่าง ร้อยละ 31.25 เห็นว่าแย่ลงทั้งรายได้ และเงินออม อีกร้อยละ 26.32 เห็นว่า ดีขึ้นทั้งรายได้และเงินออม าสำหรับกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ร้อยละ 49 ระบุว่าจับจ่าย/เลี้ยงสังสรรค์เพื่อครอบครัว มากกว่าซื้อของขวัญ ซึ่งมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 12.47 และเลี้ยงสังสรรค์กับผู้อื่น ร้อยละ 9.64
ส่วนพร 3 ประการที่อยากได้นั้น ประชาชน อยากให้ชาติรุ่งเรือง ถึงร้อยละ 59.46 ส่วนที่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข อยู่ที่ร้อยละ 51.34 อยากเห็นผู้คนสามัคคี ร้อยละ 47.43 และร้อยละ 44.53 อยากให้ในหลวงทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 64.90 ระบุด้วยว่า จะตั้งใจเป็นคนดี ไม่ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประเทศไทย
วานนี้ (28 ธ.ค.) ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ เผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนฝในหัวข้อเรื่อง “ที่สุดแห่งปี 2554” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนทั่วประเทศที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ในทุกสาขาอาชีพ ด้วยคำถามปลายเปิดให้ผู้ตอบคิดคำตอบเอง โดยไม่มีข้อคำตอบให้เลือกจำนวน 9 ข้อคำถาม เมื่อช่วงวันที่ 21 - 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่างทั้งสิ้น 1,113 คน สรุปผลได้ดังนี้
**ปลื้มข่าวในหลวง-ช้ำข่าวน้ำท่วม
ข่าวหรือเหตุการณ์ในรอบปี 2554 ที่สร้างความสุขใจมากที่สุด ร้อยละ 55.1 เห็นว่า ข่าวเกี่ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้แก่ ข่าวการเฉลิมฉลองวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ครบ 84 พรรษา และข่าวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงหายจากพระอาการประชวร ขณะที่ร้อยละ 22.7 เห็นว่า ข่าวการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมและการฟื้นฟูน้ำท่วม ตลอดจนน้ำใจคนไทยที่ช่วยเหลือกันในช่วงวิกฤตน้ำท่วม และร้อยละ 9.2 เห็นว่า ข่าวการได้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย
ขณะที่ข่าว หรือเหตุการณ์ในรอบปี 2554 ที่สร้างความทุกข์ใจมากที่สุด ร้อยละ 87.4 เห็นว่า ข่าวเหตุการณ์น้ำท่วม และความเสียหายที่เกิดขึ้น ร้อยละ 1.9 เห็นว่า ข่าวการวางระเบิดใน 3 จังหวัดชายแดนใต้ และร้อยละ 1.5 เห็นว่า ข่าวความขัดแย้งกันของคนไทยในสังคม ส่วนข่าวที่สนใจและติดตามชมมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 68.1 ข่าวเกี่ยวกับเหตุการณ์น้ำท่วม ตลอดจนแนวทางแก้ไข และฟื้นฟูผู้ประสบภัย ร้อยละ 11.8 ข่าวเหตุการณ์ทางการเมือง และ ร้อยละ 3.8 ข่าวการประชวรของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
**ทหาร-อาสาสมัครได้ใจคนไทย
ด้าน หน่วยงาน/กลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่น่าชื่นชมยกย่องมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 47.2 เหล่าทหารที่ออกมาช่วยเหลือประชาชนในช่วงน้ำท่วม ร้อยละ 14.2 ประชาชนผู้มีจิตอาสาช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม และ ร้อยละ 12.2 สื่อมวลชน ขณะที่หน่วยงาน/กลุ่มบุคคลในสังคมไทยที่น่าผิดหวังมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 31.5 รัฐบาล น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 19.9 นักการเมืองไทย และร้อยละ 8.6 ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย (ศปภ.) และฝ่ายค้าน
**ความนิยม “ยิ่งลักษณ์” ทิ้ง “มาร์ค” ลิ่ว
ทางด้านประเภทกีฬาที่มีผลงานโดดเด่นและน่ายกย่องมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 31.6 กีฬาวอลเลย์บอล ร้อยละ 23.5 กีฬาชกมวย ทั้งมวยสากล และมวยไทย (Thai Fight) และร้อยละ 12.1 กีฬาฟุตบอล ส่วนประเภทกีฬาที่มีผลงานยอดแย่มากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 85.5 กีฬาฟุตบอลทีมชาย ร้อยละ 3.0 กีฬาชกมวยสากล และร้อยละ 1.9 กีฬาว่ายน้ำ
เมื่อถามถึง นักการเมืองของไทยที่ชื่นชอบมากที่สุดในรอบปี 2554 ร้อยละ 42.1 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ร้อยละ 28.3 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ ร้อยละ 11.5 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
ขณะที่ของขวัญปีใหม่ที่อยากได้จากรัฐบาลมากที่สุด ร้อยละ 18.2 อยากให้รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ลดค่าครองชีพและลดราคาสินค้าลง ร้อยละ 15.4 อยากให้รัฐบาลมีความจริงใจในการบริหารงาน ไม่ให้มีการทุจริตคอร์รัปชัน และทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ และร้อยละ 13.6 อยากให้รัฐบาลฟื้นฟูเยียวยาผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วมอย่างเต็มที่ และหาวิธีป้องกันปัญหาน้ำท่วมอย่างยั่งยืน
** “เหล้า-ไวน์” ของขวัญยอดนิยม
วันเดียวกัน ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยในหัวข้อเรื่อง “ของขวัญในช่วงเทศกาลปีใหม่” จากตัวอย่างผู้บริโภคที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 15 จังหวัด จำนวน 1,363 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 20 - 27 ธ.ค.ที่ผ่านมา โดยที่น่าสนใจร้อยละ 39.3 ตั้งใจจะซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เช่น เหล้า ไวน์ เป็นของขวัญปีใหม่ รองลงมาคือ ร้อยละ 28 จะซื้อเครื่องแต่งกาย เช่น ผ้าพันคอ เสื้อ กางเกง ร้อยละ 20.1 จะซื้อเป็นกระเช้าของขวัญ ร้อยละ 19.7 จะซื้อผลไม้ ร้อยละ 19.5 จะซื้อคุ้กกี้ ขนมเค้ก ร้อยละ 13.5 จะให้เงิน ร้อยละ 13.2 จะซื้อการ์ดอวยพร ร้อยละ 9.6 จะซื้อเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อย กำไล ต่างหู และรองๆ ลงไปคือ ของใช้ เช่น ชุดกาแฟ ปากกา ของตกแต่งบ้าน เช่น กรอบรูป ของตั้งโชว์ และเครื่องดื่มสุขภาพ ตามลำดับ
** ร้อยละ 70.8 มอบของให้ “พ่อ-แม่”
ทั้งนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ ร้อยละ 70.8 จะมอบของขวัญให้พ่อแม่ รองลงมาคือ ร้อยละ 47.4 จะมอบให้ญาติ ร้อยละ 34.9 จะมอบให้พี่น้อง ร้อยละ 24.8 จะมอบให้แฟนหรือคนรัก ร้อยละ 20 จะมอบให้เพื่อน ร้อยละ 15.5 จะมอบให้ผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ และร้อยละ 3.9 จะมอบให้ครูอาจารย์ ตามลำดับ ส่วนงบประมาณนั้น ร้อยละ 57.8 จะใช้เงินไม่เกิน 2,000 บาท ร้อยละ 28.6 จะใช้เงินระหว่าง 2,001 - 5,000 บาท และร้อยละ 13.6 จะใช้เงินมากกว่า 5,000 บาทขึ้นไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งจูงใจอันดับแรกในการเลือกซื้อของขวัญ ร้อยละ 29.6 ระบุด้านผลิตภัณฑ์ เช่น เป็นที่นิยม มีประโยชน์ มีคุณค่า มีความหมาย ร้อยละ 24.7 ด้านราคา มีความเหมาะสม ไม่แพงหรือถูกเกินไป ร้อยละ 19.3 ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย หาซื้อง่าย ร้อยละ 13.7 ด้านการส่งเสริมการขาย มีลด แลก แจกแถม และร้อยละ 12.6 ระบุจากโฆษณาที่เขามอบเป็นของขวัญปีใหม่กัน โดยส่วนใหญ่ร้อยละ 89.3 ต้องการให้ผู้รับมีความสุข ร้อยละ 86.0 เป็นการกระชับความสัมพันธ์ให้ดีขึ้น ร้อยละ 85.5 มีความสุขที่ได้ให้ ร้อยละ 80.1 แสดงความกตัญญูแก่ผู้มีพระคุณ ร้อยละ 79.3 เลือกซื้อของขวัญที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ร้อยละ 76.6 ระบุให้ของขวัญปีใหม่เพราะเป็นเรื่องปกติใครๆ ก็ทำกัน รองๆ ลงไปคือ ให้ของขวัญแก่คนที่ท่านเคารพนับถือเท่านั้น จะเลือกซื้อของขวัญที่เป็นสิริมงคล มีโชคลาภ แสดงความรุ่งเรือง และเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องให้ของขวัญปีใหม่กัน
**หวังรัฐบาลทำงาน “ซื่อสัตย์”
สำหรับคำถามว่า ถ้าของขวัญปีใหม่จากรัฐบาลได้อย่างเดียว จะขออะไร ผลสำรวจพบ 5 อันดับแรก ร้อยละ 43.3 ขอให้รัฐบาลซื่อสัตย์สุจริต เห็นประโยชน์ของส่วนรวมเป็นสำคัญ ร้อยละ 21.7 ทำให้บ้านเมืองสงบสุข เกิดความสามัคคี ปรองดองของคนในชาติ ร้อยละ 12.7 กระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น เพิ่มราคาพืชผลทางการเกษตร และดอกเบี้ยเงินฝาก ร้อยละ 11.8 แก้ปัญหาสังคมจริงจังต่อเนื่อง เช่น ยาเสพติด และอาชญากรรม และสุดท้ายร้อยละ 6.2 ระบุขึ้นเงินเดือนให้กับข้าราชการ และนโยบายรัฐบาลเรื่องค่าจ้างแรงงาน กับเงินเดือนปริญญาตรี
**อยากให้ชาติรุ่งเรือง-ในหลวงแข็งแรง
อีกด้าน ศูนย์สำรวจความคิดเห็นของประชาชน สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้าโพลล์) สำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “เทศกาลปีใหม่ กับการเปลี่ยนแปลงของประชาชน” ระหว่างวันที่ 23 - 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา จากประชาชนทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ กระจายทุกภูมิภาค ภาคละ 272 - 276 หน่วยตัวอย่าง ในทุกระดับการศึกษาและกลุ่มอาชีพ จำนวน 1,379 หน่วยตัวอย่าง สรุปผลการสำรวจได้ดังนี้
ร้อยละ 46.19 มองปี 54 เป็นปีที่ดี โดยเฉพาะคนภาคเหนือและภาคอีสาน ส่วนอีก 1 ใน 3 ของกลุ่มตัวอย่าง ร้อยละ 32.41 เห็นว่าเป็นปีที่ไม่ดี ขณะที่ร้อยละ 42.42 ชี้กระเป๋าของตนและครอบครัวเทียบปี 53-54 ไม่แตกต่าง ร้อยละ 31.25 เห็นว่าแย่ลงทั้งรายได้ และเงินออม อีกร้อยละ 26.32 เห็นว่า ดีขึ้นทั้งรายได้และเงินออม าสำหรับกิจกรรมในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ร้อยละ 49 ระบุว่าจับจ่าย/เลี้ยงสังสรรค์เพื่อครอบครัว มากกว่าซื้อของขวัญ ซึ่งมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 12.47 และเลี้ยงสังสรรค์กับผู้อื่น ร้อยละ 9.64
ส่วนพร 3 ประการที่อยากได้นั้น ประชาชน อยากให้ชาติรุ่งเรือง ถึงร้อยละ 59.46 ส่วนที่อยากให้บ้านเมืองสงบสุข อยู่ที่ร้อยละ 51.34 อยากเห็นผู้คนสามัคคี ร้อยละ 47.43 และร้อยละ 44.53 อยากให้ในหลวงทรงมีพระพลานามัยแข็งแรง โดยกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 64.90 ระบุด้วยว่า จะตั้งใจเป็นคนดี ไม่ทำให้ผู้อื่นหรือสังคมเดือดร้อน เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประเทศไทย