นายกฯ กล่าวในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี ชมผู้ประกอบการรักษาคุณภาพแม้ประสบปัญหาน้ำท่วม เผยรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ สนับสนุนยกเว้นภาษีนำเข้าเครื่องจักร-สินเชื่อ-ตั้งกองทุนประกันภัย รวมทั้งปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจพร้อมบริหารจัดการน้ำ และวางโครงสร้างเชื่อมระบบลุ่มแม่น้ำทั้งหมดในระยะยาว แสดงความเชื่อมั่นเป็นปีสร้างและกอบกู้เศรษฐกิจ สร้างความเชื่อมั่นให้การลงทุนกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว
วันนี้ (29 ก.พ.) ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรมประจำปี 2554 พร้อมด้วย ม.ร.ว.พงษ์สวัสดิ์ สวัสดิ์วัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า เป็นความยินดีและดีใจที่เห็นภาคอุตสาหกรรมมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์และมีความอุสาหะในการทำธุรกิจ ตนทราบดีว่าทางบริษัทต่างๆ ประสบปัญหาอุทกภัยในปีที่ผ่านมา แต่ยังคงรักษาคุณภาพและรางวัลนี้ได้เป็นอย่างดี ตนอยากเห็นอุตสาหกรรมมีการจริญเติบโตขึ้นไป
“รัฐบาลตระหนักดีในการที่จะร่วมมือกันกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อยกระดับหรือพัฒนากลไกอุตสาหกรรม เพราะเป็นส่วนสำคัญและเป็นกลไกที่จะพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ โดยเฉพาะการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพสินค้า หรือบริการต่างๆ ซึ่งรัฐบาลให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่งและต่อเนื่องเสมอมา ทั้งเรื่องการยกระดับความสามารถในการแข่งขันการเพิ่มผลผลิต การช่วยกันหาวิธีการลดต้นทุนในระยะเร่งด่วนและระยะยาว รวมถึงการยกระดับมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับของตลาด โดยกลไกต่างๆ เหล่านี้รัฐบาลได้ตระหนักดี เพื่อให้เกิดประสิทธิ์ภาพมากขึ้นไป” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ยังอยากเห็นภาคอุตสาหกรรมที่สร้างสรรค์ในการใช้ปัญญาหรือเทคโนโลยี รวมถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น ควบคู่ไปกับการผลิต ซึ่งเป็นอีกเป้าหมายที่รัฐบาลให้การสนับสนุน รวมถึงการจัดการทรัพยากรสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั้งยืน การดูแลชุมชนที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวก็เป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ด้านคมนาคมขนส่งก็เช่นกัน ต้องมีความสอดคล้องกับการขยายของภาคอุตสาหกรรม หากเรามีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่ดีควบคู่กับการขยายภาคอุตสาหกรรมและการเพิ่มผลผลิต ก็จะทำให้โอกาสของประเทศไทยในการสร้างเศรษฐกิจและทำให้การเข้าสู่ประชาคมอาเซียนในปี 2558 ก็จะเป็นอีกหลายกลไกที่เราจะทำงานควบคู่กันไป และรัฐบาลต้องมีการรับฟังปัญหาและการวางอนาคตให้มีความควบคู่กันและทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
ทั้งนี้ ที่ผ่านมาเราเจออุปสรรคด้านอุทกภัยที่สร้างความเสียหายให้ภาคอุตสาหกรรม แน่นอนว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพยายามทุกวิถีทางในการรับฟังปัญหาและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมให้ฟื้นเร็วที่สุด โดยเฉพาะนโยบายยกเว้นภาษีอากรในการนำเข้าเครื่องจักรและอุปกรณ์หรือเรื่องของสินเชื่อ มาตรการตั้งกองทุนประกันภัย ซึ่งรัฐบาลมีความมุ่งมั่นตั้งใจในการดูแลปกป้องรวมถึงฟื้นฟูจากเหตุอุทกภัยที่ผ่านมา
“สำหรับแผนที่รัฐบาลมีการเตรียมการฟื้นฟูรับอุทกภัยที่จะเกิดขึ้นในปีนี้ เรามีแผนว่าจะต้องทำอย่างไรในการปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจ พื้นที่ตัวเมืองและพื้นที่อุตสาหกรรม ซึ่งจะมีการทำสองเฟสควบคู่กันไปคือการลงทุนระบบบริหารจัดการน้ำอย่างเร่งด่วน การยกระดับถนน การดูแลผนังกั้นน้ำให้แข็งแรง การบริหารเขื่อนต้นน้ำ กลางน้ำ และทำให้การบริหารน้ำลงสู่คูคลองได้เร็วที่สุด ซึ่งเป็นแผนระยะสั้นที่รัฐบาลเร่งติดตามและฟื้นฟู ส่วนแผนระยะยาวจะทำการบริหารจัดการน้ำวางโครงสร้างในการเชื่อมระบบลุ่มแม่น้ำทั้งหมดเพื่อให้น้ำไหลสู่คูลองตามธรรมชาติมากที่สุดนี่คือสิ่งที่ยืนยันว่ารัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขและป้องกัน ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้กลับมาสู่ความปกติให้เร็วที่สุด” น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าว
น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวต่อว่า ตนเองมีความเชื่อมั่นในภาคอุตสาหกรรมว่ามีประสิทธิภาพ หากได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนตนเชื่อว่าจะสามารถฟันฟ่าและก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ เหล่านี้ไปให้ได้ ขอให้ปีนี้เป็นปีแห่งการฟื้นฟู เป็นปีแห่งการสร้างและกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศไทยกอบกู้ภาคอุตสาหกรรมให้กลับมา และสร้างความเชื่อมั่นให้การลงทุนกลับสู่ประเทศไทยโดยเร็ว ซึ่งการใช้เงินฟื้นฟูจากภาครัฐนั้นก็จะเป็นปัจจัยบวกอย่างหนึ่งในการสร้างพื้นฐานเศรษฐิกจของประเทศไทยและยืนยันว่ารัฐบาลจะมีการใช้จ่ายงบประมาณทั้งในส่วนของการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืนและโครงการที่เป็นนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศยังคงอยู่ ยืนยันว่ามีนโยบายเหล่านี้ทุกประการ สุดท้ายนี้ต้องขอบคุณที่มีการจัดโครงการดังกกล่าวขึ้นและอยากให้มีโครงการที่ดีเหล่านี้ต่อไปอีก