ASTVผู้จัดการรายวัน - ค่ายรถยนต์ “ฮอนด้า” เดินแผนกู้โรงงานผลิตหลังน้ำท่วม เร่งขนเครื่องจักร-อุปกรณ์ใหม่แทนส่วนที่เสียหาย หวังฟื้นตัวให้เร็วที่สุด พร้อมทำลายรถยนต์จมน้ำกว่า 1,000 คัน หวังสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค ส่วนยอดค้างส่งมอบหลายเดือนคาดเคลียร์หมดไม่เกินปลายปีหน้า ย้ำไม่คิดย้ายฐานผลิตหนีไทย แต่รัฐบาลต้องจำไว้เป็นบทเรียน
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดนน้ำท่วมเกือบ2 เดือน ทำให้เครื่องจักร อุปกรณ์ ชิ้นส่วน รวมถึงรถยนต์ใหม่ที่เคลื่อนย้ายไม่ทันได้รับผลกระทบ ซึ่งบริษัทยังไม่สรุปตัวเลขความเสียหาย และคงต้องรอเวลารวบรวมอีกสักระยะ ก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
ในส่วนรถยนต์ที่จมน้ำนับเป็นจำนวน 1,055 คัน ยังวัดเป็นมูลค่าความเสียหายลำบากเช่นกัน เนื่องจากบางคันเสียภาษีสรรพสามิตหน้าโรงงานแล้ว แต่บางคันยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนดังกล่าว ในจำนวนนี้แบ่งเป็นรุ่น บริโอ้ 217 คัน, แจ๊ซ 213 คัน, ซิตี้ 353 คัน, ซีวิค 150 คัน, แอคคอร์ด 91 คัน, ซีอาร์-วี 30 คัน และ ฟรีด 1 คัน
ล่าสุด เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีรถยนต์ หรือชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม หลุดออกไปจากพื้นที่โรงงาน บริษัทจึงเริ่มต้นการทำลายตั้งแต่วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ศูนย์ส่งมอบรถยนต์ใหม่ของฮอนด้า โดยมีสักขีพยาน ทั้งผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สถาบันยานยนต์ สื่อมวลชน และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า
สำหรับการทำลายรถยนต์ที่จมน้ำ จำนวน 1,055 คัน จะใช้เวลาประมาน 1 เดือนนับจากนี้ หลังจากนั้นบริษัทเตรียมจัดการกับชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายต่อไป ส่วนการฟื้นฟูโรงงานให้กลับมาผลิตเป็นปกติอีกครั้ง บริษัทจะพยายามใช้วิธีการที่เร็วที่สุด ไม่ว่าจะซ่อมแซมทันที หรือเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินว่าโรงงานจะพร้อมกลับมาผลิตเมื่อไหร่
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้ยอดจองรถยนต์ฮอนด้ายังมีสูง พร้อมยอดค้างส่งมอบจำนวนมาก และมีลูกค้าบางส่วนที่ตัดสินใจยกเลิกการจอง เนื่องจากจำเป็นต้องใช้รถ แต่กระนั้นลูกค้าหลายรายก็เข้าใจสถานการณ์และรอต่อไป ซึ่งบริษัทคาดว่าไม่เกินปลายปี 2555 จะจัดการยอดค้างส่งมอบให้ลูกค้าได้ครบทุกรุ่น
ส่วนแผนนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจากต่างประเทศ มาทำตลาดแทนรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยคณะรัฐมนตรีมีมติยกเว้นภาษีนำเข้าชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนนั้น มาตรการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการกำหนดรายละเอียดจากกระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทจึงไม่สามารถกำหนดรุ่น และจำนวนที่จะนำเข้ามาขายในตอนนี้ได้ แต่ถ้ามีการนำเข้า คงนำมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งราคาคงไม่ถูกกว่ารุ่นที่ผลิตในประเทศแน่นอน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังยืนยันว่า ฮอนด้าจะไม่ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย เพราะมั่นใจในศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งคุณภาพ การผลิต และต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งไทยมีความสำคัญ หรือมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของฮอนด้า รองจากโรงงานในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา และ สหราชอาณาจักร
“ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก เห็นได้จากวิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายประเทศขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต หรืออุตสาหกรรมยานยนต์โลกได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าเหตุสึนามิ-แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นเสียอีก”
ด้านมาตรการรับมือปัญหาน้ำท่วมในระยะสั้น นิคมอุตสาหกรรมโรจนะเตรียมสร้างเขื่อนที่แข็งแรงล้อมรอบ ขณะที่บริเวณโรงงานชั้นในของฮอนด้าเอง จะทำกำแพงสูงป้องกันไว้อีกหนึ่งชั้น แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องปลายเหตุ เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำโดยรวมของประเทศ อันถือเป็นโจทย์และเป็นบทเรียนสำคัญที่รัฐบาลต้องตระหนัก และนำไปแก้ไขอย่างจริงจังในอนาคต
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า โรงงานผลิตรถยนต์ฮอนด้า ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดนน้ำท่วมเกือบ2 เดือน ทำให้เครื่องจักร อุปกรณ์ ชิ้นส่วน รวมถึงรถยนต์ใหม่ที่เคลื่อนย้ายไม่ทันได้รับผลกระทบ ซึ่งบริษัทยังไม่สรุปตัวเลขความเสียหาย และคงต้องรอเวลารวบรวมอีกสักระยะ ก่อนจะประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
ในส่วนรถยนต์ที่จมน้ำนับเป็นจำนวน 1,055 คัน ยังวัดเป็นมูลค่าความเสียหายลำบากเช่นกัน เนื่องจากบางคันเสียภาษีสรรพสามิตหน้าโรงงานแล้ว แต่บางคันยังไม่ได้เข้าสู่ขั้นตอนดังกล่าว ในจำนวนนี้แบ่งเป็นรุ่น บริโอ้ 217 คัน, แจ๊ซ 213 คัน, ซิตี้ 353 คัน, ซีวิค 150 คัน, แอคคอร์ด 91 คัน, ซีอาร์-วี 30 คัน และ ฟรีด 1 คัน
ล่าสุด เพื่อแสดงให้เห็นว่าจะไม่มีรถยนต์ หรือชิ้นส่วนที่ได้รับความเสียหายจากน้ำท่วม หลุดออกไปจากพื้นที่โรงงาน บริษัทจึงเริ่มต้นการทำลายตั้งแต่วันนี้ (27 ธ.ค.) ที่ศูนย์ส่งมอบรถยนต์ใหม่ของฮอนด้า โดยมีสักขีพยาน ทั้งผู้แทนจากกระทรวงอุตสาหกรรม กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สถาบันยานยนต์ สื่อมวลชน และผู้จำหน่ายรถยนต์ฮอนด้า
สำหรับการทำลายรถยนต์ที่จมน้ำ จำนวน 1,055 คัน จะใช้เวลาประมาน 1 เดือนนับจากนี้ หลังจากนั้นบริษัทเตรียมจัดการกับชิ้นส่วนอื่นๆ ที่ได้รับความเสียหายต่อไป ส่วนการฟื้นฟูโรงงานให้กลับมาผลิตเป็นปกติอีกครั้ง บริษัทจะพยายามใช้วิธีการที่เร็วที่สุด ไม่ว่าจะซ่อมแซมทันที หรือเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่ แต่ขณะนี้ยังไม่สามารถประเมินว่าโรงงานจะพร้อมกลับมาผลิตเมื่อไหร่
นายพิทักษ์ กล่าวว่า ถึงวันนี้ยอดจองรถยนต์ฮอนด้ายังมีสูง พร้อมยอดค้างส่งมอบจำนวนมาก และมีลูกค้าบางส่วนที่ตัดสินใจยกเลิกการจอง เนื่องจากจำเป็นต้องใช้รถ แต่กระนั้นลูกค้าหลายรายก็เข้าใจสถานการณ์และรอต่อไป ซึ่งบริษัทคาดว่าไม่เกินปลายปี 2555 จะจัดการยอดค้างส่งมอบให้ลูกค้าได้ครบทุกรุ่น
ส่วนแผนนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปจากต่างประเทศ มาทำตลาดแทนรุ่นที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม โดยคณะรัฐมนตรีมีมติยกเว้นภาษีนำเข้าชั่วคราว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนนั้น มาตรการดังกล่าวอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการกำหนดรายละเอียดจากกระทรวงอุตสาหกรรม บริษัทจึงไม่สามารถกำหนดรุ่น และจำนวนที่จะนำเข้ามาขายในตอนนี้ได้ แต่ถ้ามีการนำเข้า คงนำมาจากประเทศญี่ปุ่น ซึ่งราคาคงไม่ถูกกว่ารุ่นที่ผลิตในประเทศแน่นอน
อย่างไรก็ตาม บริษัทยังยืนยันว่า ฮอนด้าจะไม่ย้ายฐานการผลิตออกจากประเทศไทย เพราะมั่นใจในศักยภาพของอุตสาหกรรมยานยนต์ ทั้งคุณภาพ การผลิต และต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ ซึ่งไทยมีความสำคัญ หรือมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของฮอนด้า รองจากโรงงานในญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา จีน แคนาดา และ สหราชอาณาจักร
“ไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก เห็นได้จากวิกฤตน้ำท่วมที่ผ่านมา ส่งผลให้หลายประเทศขาดแคลนชิ้นส่วนการผลิต หรืออุตสาหกรรมยานยนต์โลกได้รับผลกระทบรุนแรงกว่าเหตุสึนามิ-แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นเสียอีก”
ด้านมาตรการรับมือปัญหาน้ำท่วมในระยะสั้น นิคมอุตสาหกรรมโรจนะเตรียมสร้างเขื่อนที่แข็งแรงล้อมรอบ ขณะที่บริเวณโรงงานชั้นในของฮอนด้าเอง จะทำกำแพงสูงป้องกันไว้อีกหนึ่งชั้น แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องปลายเหตุ เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่การบริหารจัดการน้ำโดยรวมของประเทศ อันถือเป็นโจทย์และเป็นบทเรียนสำคัญที่รัฐบาลต้องตระหนัก และนำไปแก้ไขอย่างจริงจังในอนาคต
