xs
xsm
sm
md
lg

ฮอนด้านำเข้า “แจ๊ซ-แอคคอร์ด” เร่งเคลียร์ยอดค้างส่งมอบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โดนน้ำท่วมหนักอาการสาหัสกว่าเพื่อน จนเสียโอกาสทางการขายไปหลายเดือน ล่าสุดค่ายรถยนต์ฮอนด้าประกาศฟื้นการผลิตรถยนต์ที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมโรจนะอีกครั้งช่วงปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยเริ่มขึ้นไลน์กับเก๋งยอดนิยม “ฮอนด้า ซิตี้” พร้อมนำเข้า “แจ๊ซ” และ “แอคคอร์ด” จากญี่ปุ่นมาทำตลาดแทนชั่วคราว เผยราคาสูงกว่ารุ่นผลิตในประเทศ 5-10% หวังเคลียร์ยอดค้างส่งมอบรวมทุกรุ่นกว่า 40,000 คันให้จบภายในสองเดือน

หลังจากสัปดาห์ที่ผ่านมา บริษัท ฮอนด้า โอโตโมบิล ประเทศไทย จำกัด ร่อนแถลงการณ์ชี้แจงแผนฟื้นฟูโรงงานผลิตรถยนต์ในนิคมอุตสาหกรรมโรจนะ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ว่ากำลังไปได้สวย ซึ่งตอนนี้อยู่ระหว่างการติดตั้งเครื่องจักรและทดสอบระบบต่างๆ โดยจะเปิดสายการผลิตได้ปลายเดือนมีนาคมและมีรถส่งมอบให้ลูกค้าตั้งแต่เดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป

“ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” สอบถามความคืบหน้าไปยัง พิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้ความว่ารถยนต์รุ่นแรกที่จะขึ้นสายการผลิตก่อนคือ “ฮอนด้า ซิตี้” ซึ่งเป็นรถที่มียอดค้างส่งมอบมากที่สุด จากนั้นจะเริ่มทยอยผลิต “แจ๊ซ” และรุ่นอื่นๆ ต่อไป

“เราต้องขอบคุณลูกค้าที่ยังมั่นใจและรอการส่งมอบรถยนต์ฮอนด้าเป็นจำนวนมาก ที่สำคัญยังมีการจองเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งตอนนี้มียอดค้างส่งมอบรวมทุกรุ่นอยู่ประมาณ 40,000 คัน ขณะที่กำลังการผลิตหลังจากเดือนมีนาคมจะทำได้ 20,000 คันต่อเดือน คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 2-3 เดือน สถานการณ์ต่างๆ จะกลับสู่ภาวะปกติ

เหนืออื่นใดเมื่อการผลิตในไทยฟื้นตัวแล้ว ฮอนด้ายังผลิตชิ้นส่วนเพื่อป้อนโรงงานของฮอนด้าในต่างประเทศ หรือเริ่มจากโรงงานในประเทศแถบอาเซียน ให้สามารถกลับมาผลิตได้ตามปกติช่วงเดือนเมษายนเช่นกัน
ฮอนด้า แอคคอร์ด/อินสไปร์
ในส่วนของประเด็นนำเข้ารถยนต์ฮอนด้าเข้ามาทำตลาดทดแทนการผลิตที่เสียไปจากน้ำท่วม นายพิทักษ์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) ได้ประกาศหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการนำเข้ารถยนต์สำเร็จรูปอย่างเป็นทางการไปแล้ว ทางบริษัทกำลังเตรียมนำเข้ารถยนต์ฮอนด้ารุ่นแจ๊ซ (ฟิต ในญี่ปุ่น) และแอคคอร์ด (อินสไปร์) จากญี่ปุ่น เพื่อจำหน่ายให้กับลูกค้าและพร้อมส่งมอบช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป

โดยบริษัทเตรียมนำเข้า “แจ๊ซ” มาจำนวน 4,000 คัน และแอคคอร์ด 2,000 คัน ซึ่งตามข้อกำหนดของ สศอ.จะต้องเป็นรถชนิดเดียว หรือมีสเปกโครงสร้างตัวถัง ขนาดเครื่องยนต์และระบบเกียร์ เหมือนกับที่ผลิตในประเทศ ขณะที่จำนวนนำเข้าต้องไม่เกินกำลังผลิตที่ผลิตได้ในปีที่แล้ว และต้องหยุดการนำเข้าหลังจากรุ่นประกอบในประเทศสามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้ บริษัทได้ยื่นแผนการต่างๆ ไปยังกระทรวงอุตสาหกรรมเรียบร้อยแล้ว

“การขายแจ๊ซ และแอคคอร์ดที่นำเข้าจากญี่ปุ่น เราจะให้โอกาสลูกค้าที่จองหรือเป็นแบคออร์เออร์เดิมก่อน เพียงแต่เงื่อนไขการขายและราคาจะไม่เหมือนกับรถที่ผลิตในประเทศ ซึ่งรถนำเข้าจะมีออปชันบางอย่างและมีจุดน่าสนใจโดยเฉพาะอยู่ ดังนั้น ถ้าลูกค้ารับเงื่อนไขได้ก็ได้สิทธิ์ซื้อก่อน แต่ถ้าไม่ได้คงต้องรอรถที่ผลิตในประเทศอีกสักระยะหนึ่ง”
ฮอนด้า แจ๊ซ หรือฟิต ในญี่ปุ่น
ด้านราคาขายรุ่นนำเข้าถ้าเทียบกับโมเดลที่ผลิตในประเทศ จะเพิ่มขึ้น 5-10% แล้วแต่รุ่น เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่า ทั้งจากอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งตอนนี้เงินเยนแข็งมาก บวกกับภาษีที่ต้องจ่ายมากกว่ารถที่ผลิตในประเทศ แม้จะได้รับยกเว้นภาษีนำเข้าก็ตาม นั่นเพราะข้อกำหนดของรัฐบาลระบุชัดเจนว่า การจ่ายภาษีที่คิดจากราคา CIF ผู้ประกอบการจะต้องจ่ายมากกว่า หรือเท่ากับการจ่ายภาษีหน้าโรงงาน

...นั่นเป็นการอัพเดตสถานการณ์ล่าสุดของฮอนด้า และชัดเจนในประเด็นรถยนต์นำเข้า โดยเฉพาะซัพคอมแพกต์รุ่นแจ๊ซ ที่ราคาอาจจะเพิ่มจากโมเดลในประเทศประมาณ 5-6 หมื่นบาท ที่สำคัญยังไม่สามารถคืนเงินภาษีสรรพสามิตตามนโยบายรถคันแรกของรัฐบาลได้อีกด้วย

สุดท้ายคงต้องขึ้นอยู่กับความพอใจส่วนตัว และความสามารถในการจ่าย เพื่อแลกรถคุณภาพมาตรฐานชั้นเยี่ยมจากประเทศผู้ผลิตโดยตรง ที่สำคัญยังมีจำนวนจำกัดเสียด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น