ASTVผู้จัดการรายวัน – แคนนอนเดินหน้าลุยทุ่ม 6,000 ล้านบาท ผุดโรงงานผลิตเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่น ที่ปราจีนบุรี ส่วนโรงงานที่อยุธยา มั่นใจมี.ค.กลับมาผลิตได้ 100% หลังจมน้ำทั้งดโรงาน ฟกาบริษัททำตลาดปักธงรายได้ปีนี้ทะลุ 10,000 ล้านบาท โต 24% เชื่อเศรษฐกิจไทยยังไปได้สวย หลังปีก่อนต่ำเป้าเหตุเจอปัจจัยลบทั้งปี
นายคาซูฮิโระ คิตามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลในส่วนของโรงงานแคนนอน เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนไว้กว่า 6,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ที่ จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 280,000 ตารางเมตร ขนาดใกล้เคียงกับที่จีน ในการเป็นฐานการผลิตเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นเพื่อการส่งออก 100% ไปทั่วโลก เริ่มก่อสร้างก.พ.นี้ และเริ่มการผลิตได้เม.ย.2556 ซึ่งแผนการลงทุนครั้งนี้เตรียมไว้ก่อนเกิดเหตุน้ำท่วมปีที่แล้ว
ขณะที่ปีก่อนได้ลงทุนใกล้เคียงกัน สำหรับโรงงานแห่งที่สองที่นครราชสีมา เป็นโรงงานผลิตเครื่องพริ้นเตอร์อิงค์เจต เริ่มเดินเครือ่งการผลิตตั้งแต่พ.ย.ปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับที่โรงงานที่จังหวัดอยุธยา
ส่วนโรงงานที่นิคมไฮเทค จังหวัดอยุธยานั้น จากที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 100% ถือว่าเป็นความสูญเสียค่อนข้างมาก ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาผลิตได้เพียงเล็กน้อย แต่ภายในเดือนมี.ค.นี้คาดว่าจะกลับมาผลิตได้ 100% โดยช่วงที่ผ่านมาได้โรงงานที่นครราชสีมาช่วยเหลือด้านสินค้า ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก
อย่างไรก็ตามหวังให้ทางรัฐบาลออกมาตรการป้องกันปัญหาจากภัยพิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพื่อทางบริษัทจะได้สามารถวางแผนป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ได้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณที่รัฐบาลมีมาตรการลดภาษีนำเข้าเพื่อการช่วยเหลือในเบื้องต้น
ด้านนายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดูแลด้านการขายและตลาด กล่าวว่า ในส่วนของแคนนอนมาร์เก็ตติ้ง ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพียง 11% จากเป้า 20% หรือทำได้เพียง 8,653 ล้านบาท มาจากกลุ่มกล้อง 50% พริ้นเตอร์ 30% เครื่องถ่ายเอกสาร 15% และอื่นๆ 5% เนื่องจากปีก่อนได้รับผลกระทบตลอดปีทั้งสึนามิและแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในครึ่งปีแรก
และน้ำท่วมในไทยในครึ่งปีหลัง
ขณะที่ในปีนี้ยังมั่นใจในศักยภาพประเทศไทย จึงหวังที่จะมีการเติบโตสูงถึง 24% หรือต้องการทำรายได้ในปีนี้ให้ถึง 10,000 ล้านบาทเป็นปีแรก ส่วนปัญหากลุ่มกล้องที่ขาดตลาดนั้น เชื่อว่าภายในมี.ค.นี้จะแก้ปัญหาได้ 100%
นายคาซูฮิโระ คิตามูระ ประธานบริษัท แคนนอน ไฮ-เทค (ประเทศไทย) จำกัด ดูแลในส่วนของโรงงานแคนนอน เปิดเผยว่า ปีนี้ทางบริษัทพร้อมใช้งบลงทุนไว้กว่า 6,000 ล้านบาท ในการก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ที่ จังหวัดปราจีนบุรี พื้นที่กว่า 280,000 ตารางเมตร ขนาดใกล้เคียงกับที่จีน ในการเป็นฐานการผลิตเครื่องถ่ายเอกสารมัลติฟังก์ชั่นเพื่อการส่งออก 100% ไปทั่วโลก เริ่มก่อสร้างก.พ.นี้ และเริ่มการผลิตได้เม.ย.2556 ซึ่งแผนการลงทุนครั้งนี้เตรียมไว้ก่อนเกิดเหตุน้ำท่วมปีที่แล้ว
ขณะที่ปีก่อนได้ลงทุนใกล้เคียงกัน สำหรับโรงงานแห่งที่สองที่นครราชสีมา เป็นโรงงานผลิตเครื่องพริ้นเตอร์อิงค์เจต เริ่มเดินเครือ่งการผลิตตั้งแต่พ.ย.ปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับที่โรงงานที่จังหวัดอยุธยา
ส่วนโรงงานที่นิคมไฮเทค จังหวัดอยุธยานั้น จากที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม 100% ถือว่าเป็นความสูญเสียค่อนข้างมาก ซึ่งขณะนี้เริ่มกลับมาผลิตได้เพียงเล็กน้อย แต่ภายในเดือนมี.ค.นี้คาดว่าจะกลับมาผลิตได้ 100% โดยช่วงที่ผ่านมาได้โรงงานที่นครราชสีมาช่วยเหลือด้านสินค้า ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก
อย่างไรก็ตามหวังให้ทางรัฐบาลออกมาตรการป้องกันปัญหาจากภัยพิบัติอย่างเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน เพื่อทางบริษัทจะได้สามารถวางแผนป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจะเกิดขึ้นอีกครั้งในปีนี้ได้ ทั้งนี้ต้องขอขอบคุณที่รัฐบาลมีมาตรการลดภาษีนำเข้าเพื่อการช่วยเหลือในเบื้องต้น
ด้านนายวาตารุ นิชิโอกะ ประธานบริษัท และประธานกรรมการ บริษัท แคนนอน มาร์เก็ตติ้ง (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดูแลด้านการขายและตลาด กล่าวว่า ในส่วนของแคนนอนมาร์เก็ตติ้ง ปีที่ผ่านมามีการเติบโตเพียง 11% จากเป้า 20% หรือทำได้เพียง 8,653 ล้านบาท มาจากกลุ่มกล้อง 50% พริ้นเตอร์ 30% เครื่องถ่ายเอกสาร 15% และอื่นๆ 5% เนื่องจากปีก่อนได้รับผลกระทบตลอดปีทั้งสึนามิและแผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่นในครึ่งปีแรก
และน้ำท่วมในไทยในครึ่งปีหลัง
ขณะที่ในปีนี้ยังมั่นใจในศักยภาพประเทศไทย จึงหวังที่จะมีการเติบโตสูงถึง 24% หรือต้องการทำรายได้ในปีนี้ให้ถึง 10,000 ล้านบาทเป็นปีแรก ส่วนปัญหากลุ่มกล้องที่ขาดตลาดนั้น เชื่อว่าภายในมี.ค.นี้จะแก้ปัญหาได้ 100%