xs
xsm
sm
md
lg

“ซิติเซ็น”ทุ่ม1.2พันล.ผุดรง.ไทยฐานส่งออก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

 
ASTVผู้จัดการรายวัน - “ซิติเซ็น” สวนกระแสน้ำท่วม ทุ่ม 1,200 ล้านบาท ผุดโรงงานแห่งที่ 3 ในไทย เป็นฐานการผลิตและประกอบส่งทั่วโลก มั่นใจศักยภาพและฝีมือคนไทย หลังจากเพิ่งทุ่มงบสร้างโรงงานที่ 2 ไปหมาดๆ

นายเจมส์ เอ.นาคาอิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิติเซ็น วอทช์ จำกัด (ฮ่องกง) ผู้บริหารนาฬิกา ซิติเซ็น จากกประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยว่า บริษัทแม่ของซิติเซ็นที่ญี่ปุ่นยังคงมีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดประเทศไทยอย่างมาก แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้ใหญ่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศซษฐกิจชองไทยก็๖ม แต่ยังคงเชื่อ่มั่นต่อเศรษฐกิจของไทย รวมทั้งฝีมือแรงงานของไทยที่มีคุณภาพ จึงตัดสินใจที่จะสร้างโรงงานใหม่เพื่อเป็นฐานการผลิตของซิติเซ็นในไทยเป็นแห่งที่ 3 หลังจากที่มีอยู่แล้ว 2 โรงงานไทย

“เศรษฐกิจโลกมีผลต่อค่าเงินเยน ทำให้แข็งค่ามากขึ้น จึงต้องเข้ามาลงทุนในไทย และมองการจ้างงานในไทยที่ดีอยู่ และวางเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานประกอบอะไหล่นาฬิกาด้วย”
ทั้งนี้โรงงานใหม่แห่งที่ 3 จะตั้งอยู่บนถนนพหลโยธิน กม.79 ซึ่งอยู่ติดกับโรงงานแห่งแรกที่เปิดดำเนินการไปแล้ว โดยโรงงานแห่งที่ 3 นี้ได้ซื้อที่ดินเพิ่มอีก 30 ไร่ จะเป็นฐานการประกอบชิ้นส่วนนาฬิกา คาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในอีก 2 ปีจากนี้ โดยใช้งบลงทุนมากกว่า 38 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 1,200 ล้านบาท

ส่วน 2 โรงงานเดิมนั้น คือ โรงงานแรก อยู่ที่ ถนนพหลโยธิน กม.79 เป็นโรงงานประกอบชิ้นส่วนนาฬิกา ซึ่งเปิดดำเนินการมานานกว่า 22 ปีแล้ว ส่วนโรงงานแห่งที่ 2นัน้ ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมโรจนะ พื้นที่ 30 ไร่ ผลิตสายชุบ และสายเชื่อมนาฬิกา ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้างเสาเข็ม ซึ่งช่วงที่ผ่านมาโรงงานไม่ได้ถูกน้ำท่วมแต่อย่างใดแตยอมรับว่าการก่อสร้างอาจจะต้องล่าช้ากว่าแผนเดิมเล็กน้ย อย่างไรก็ตามหลังจากนี้จะ ต้องมีการปรับรูปแบบการก่อสร้างโรงงานใหม่เพื่อให้มีพื้นที่สูงขึ้นป้องกันปัญหาน้ำท่วมที่อาจจจะเกิดขึ้นได้ในอนาคต

นายเจมส์กล่าวด้วยว่า การลงทุนในไทยเพิ่มอีก 2 โรงงานนี้ถือว่ามีความสำคัญมาก เพราะซิติเซ็นจะใช้เป็นฐานการผลิตและประกอบในการส่งออกไปทั่วโลกทั้งหมด 100% ซึ่งมีการจ้างงานรวมกว่า 100 คน ล่าสุดซิติเซ็นได้เปิดตัว นาฬิกา ซิติเซ็น รุ่นใหม่ อีโค-ไดร์ฟ โดยเป็นนาฬิกาพลังงานแสงเรือนแรกของโลก ที่รับสัญญาณจากดาวเทียม วางจำหน่ายจำนวนจำกัด 990 เรือนทั่วโลก ราคา 139,000 บาท และในไทยวางขายเพียง 20 เรือน ซึ่งในปัจจุบัน มียอดจองนาฬิการุ่นดังกล่าวหมดแล้ว
กำลังโหลดความคิดเห็น