นายกฯ สุมหัวถกรับมือสารพัดม็อบทยอยรุมถล่มรัฐบาล ส่ง “เหลิม-ยงยุทธ” รับหน้าเคลียร์ ลั่นรัฐบาลพร้อมรับฟังเสียง ปชช.แต่ห้ามปิดถนน ด้าน “เหลิม” ชูไอเดียใช้ตำรวจร่วมมือผู้ว่าฯ กำจัด ขณะที่ “เผดิมชัย” เมินทุกข์ ปชช. โบ้ยเจอบ่อยแค่พวกรับจ้างประท้วง ส่วน “ชุมพล” บอกไม่ต้องตกใจข้าวของราคาตกออกมาประท้วงเป็นเรื่องธรรมชาติ
วันนี้ (28 ก.พ.) ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายกฯ ได้หยิบยกปัญหาเรื่องม็อบต่างๆ ที่ทยอยออกมาเคลื่อนไหวประท้วงกดดันรัฐบาล โดยเฉพาะม็อบผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรที่ชุมนุมประท้วงปิดถนนพหลโยธิน จนการจราจรเป็นอัมพาต เมื่อวันที่ 27 ก.พ.มาหารือกับที่ประชุมอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 40 นาที โดยนายกฯ ได้สอบถาม พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ในฐานะกำกับดูแลการรถไฟฯ ว่าปัญหาม็อบผู้ค้าตลาดจตุจักรปิดถนนเกิดอะไรขึ้น ต้องฝากทั้ง รมว.คมนาคม และรมช.คมนาคมทั้งสองคนดูแลด้วย ซึ่ง พล.ต.ท.ชัจจ์รีบชี้แจงว่า ปัญหาตลาดนัดจตุจักรเล่นเอาเถิดเอาล่อกันมานาน เป็นเพราะพวกที่สูญเสียผลประโยชน์ มีการเกณฑ์คนจากตลาดนัดจุตจักร 2 จตุจักร 3 มาซึ่งไม่ใช่ตัวจริง ตลาดจตุจักรทุกวันนี้ดีมาก ไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย เดิมสัญญาเช่าไม่มีมูลค่า แต่วันนี้มีค่าถึง 3 แสนบาท พวกนี้เวลาเรียกมาคุยก็พลิกไปพลิกมา ทั้งนี้ นายกฯ ได้ย้ำว่า ไม่ต้องการให้มีการปิดถนน ทั้งสองคนนอกจากจะแก้ปัญหาตามที่เป็นข่าวอยู่แล้วต้องรายงานนายกฯ ด้วย ครม.ทุกคนถ้ามีม็อบมีอะไรมาต้องรายงานนายกฯ
ด้าน นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ รมว.แรงงาน ได้ชี้แจงว่า ตนไปไหนก็มีคนเข้ามาตลอด บางงานก็จัดคนมาประท้วง บางคนก็จัด 1 คันรถบัส เล่นกันรายวัน ไปเปิดงานช่างฝีมือก็มาปิดถนนเรียกร้องเรื่องค่าแรง 300 บาท บางทีประท้วงอยู่ก็หายไปแล้วไปโผล่อีกที่หนึ่ง เพราะนโยบายของรัฐบาลเรามันกระทบต่อผู้เสียประโยชน์เยอะ ทั้งเรื่องค่าแรง 300 บาท กับรายได้ปริญญาตรี 15,000 บาท ตนอยากใช้บริการด้านการข่าวของ สมช. แต่บางครั้ง สมช.ก็รายงานตัวเลขม็อบที่มาหน้าทำเนียบฯ มี 500 คน ก็ยังมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ กล่าวว่า สมัยที่ตนอยู่กับท่านนายกฯ ชาติชาย ชุณหะวัณ แต่ละจังหวัดนั้นผู้ว่าราชการจังหวัดต้องเป็นเจ้ามือ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาคนั้นเต็มที่ก็แค่เป็นลูกน้องผู้ว่าฯ คิดว่าควรเสนอให้การจัดการแก้ไขปัญหาเรื่องม็อบตำรวจะต้องตามหลังผู้ว่าฯ ขอเสนอให้กระทรวงมหาดไทยเป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลม็อบในพื้นที่ พล.อ.ชาติชายบอกตนว่าผู้ว่าฯ เป็นเจ้าเมือง ปัญหาที่เกิดขึ้นมานั้นรัฐบาลจะไปมอบให้ใครคนใดคนหนึ่งไม่ได้ แต่นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ รมว.มหาดไทยจะต้องเป็นหลัก ตนในฐานะดูแล สตช. ทางตำรวจพร้อมจะร่วมมือกับผู้ว่าฯ ถ้าผู้ว่าฯ ไม่ขยับปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข เรื่องรถติดปิดถนน ทางตำรวจไม่รู้หรอก ต้องใช้สำนักข่าวกรองฯ ช่วยในการหาข่าว แต่ทาง พล.ต.ท.ชัจจ์ กุลดิลก รมช.คมนาคม ได้กล่าวแย้งว่า ตนใช้ตำรวจสันติบาลมากกว่า สันติบาลเวิร์กกว่า สมช.อีก เพียงแค่ท่านเติมเบี้ยเลี้ยงให้ทาง บช.น. และตำรวจสันติบาลเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อว่า จากนั้น ร.ต.อ.เฉลิมจึงขอให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิศรี เลขาธิการ สมช. กล่าวรายงาน ซึ่ง พล.ต.อ.วิเชียรระบุว่า ทางตำรวจมีแผนกรกฎ 52 อยู่แล้ว ทำให้นายกฯ กล่าวขึ้นด้วยท่าทีไม่สบายใจนักว่า รัฐบาลเราไม่ได้จะไปทำร้ายประชาชน ไม่ต้องการที่จะมาใช้ไม้แข็ง แต่ต้องไปทำความเข้าใจ ไปรับฟังปัญหาของเขา เจ้ากระทรวงจะไปทำอะไรอย่างไรถ้าไปคุยกับม็อบได้ก็ต้องไป ไม่ใช่ว่าไปดำเนินการตามกฎหมายอะไร ด้าน ร.ต.อ.เฉลิมช่วยชี้แจงว่า แผนกรกฎ 52 นั้นเป็นชื่อแผนเฉยๆ ไม่ใช่ว่าเราจะไปทำร้ายประชาชน
นายกฯ จึงกล่าวเน้นย้ำอีกว่า รัฐบาลชุดนี้มีนโยบายต้องการที่จะรับฟังเสียงพี่น้องประชาชนไม่ว่าจะเดือดร้อนอะไรก็ตามแต่ ขอให้ใช้วิธีการที่เป็นสากล รวมตัวกันได้เพื่อยื่นหนังสือหรือจดหมายข้อเรียกร้อง แต่ปิดถนนไม่ได้ และไม่ว่าจะใช้หน่วยงานไหนเช็คการข่าว แต่ทันทีที่ทราบข่าวว่าจะมีม็อบให้ ครม.ช่วยกันคิดและติดตาม ไม่ว่าจะใช้ข่าวกรองหรือกระทรวงอื่นก็ตามแต่ เอาเป็นว่าปัญหาเรื่องม็อบต้องขอฝากท่านรองนายกฯเฉลิม และรองนายกฯยงยุทธ ให้ช่วยกันแก้ไขปัญหานี้ในทางการเมืองก่อน ก่อนที่จะปล่อยให้อำนาจการตัดสินใจไปอยู่ที่ข้าราชการในระดับปฏิบัติการ รองนายกฯ ทั้งสองท่านต้องรู้เรื่อง และต้องมีคนไปรับมือ ต่อจากนี้ไปถ้าจะม็อบ หรือเกิดอุบัติเหตุใหญ่หรือเกิดภัยธรรมชาติ ผวจ.ต้องรายงานนายกฯ ทั้งหมด ทางด้านนายชุมพล ศิลปอาชา รมว.การท่องเที่ยวฯ หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า จะให้รายงานนายกฯอย่างไรก็รายงานได้ แต่บางครั้งที่เราไม่ได้รายงาน เพราะมันเป็นธรรมชาติ เช่น กรณีของพี่น้องเกษตรกร พอมีการเลือกตั้งตัวแทนสภาเกษตรกรเสร็จสรรพก็มา เดี๋ยวพอสัปปะรดออกราคาตกก็เอาสับปะรดมาเท นายกฯ ไม่ต้องตกใจ เพราะถึงอย่างไรก็มาอยู่แล้ว