ผบช.น.เผย แก๊งอิหร่านบึ้ม 3 จุด กทม.มี 6 คน เผ่นกลับประเทศไปแล้ว 2 ออกหมายจับได้ 1 แต่ยังไม่ได้ประสานขอตัวมาดำเนินคดี สั่งที่ประชุมฝ่ายความมั่นคง สั่งสแกนที่พัก แหล่งท่องเที่ยวย่านชาวตะวันออกกลางอาศัย ทั้งบ้านเช่า คอนโดฯ อพาร์ตเมนต์ โรงแรม พร้อมวางแนวทางตรวจเข้มแหล่งท่องเที่ยว “เชียงใหม่-ภูเก็ต-ชลบุรี”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียก พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว กองบัญชาการตำรวจสันติบาล ตัวแทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และสำนักข่าวกรองแห่งชาติ มาวิเคราะห์เกี่ยวกับกลุ่มชาวตะวันออกกลางที่เข้ามาในประเทศไทย
ทั้งนี้ พล.ต.ท.วินัย ทองสอง กล่าวภายหลังการหารือ ว่า จากนี้จะมีการตรวจสอบ โรงแรม คอนโดมิเนียม อพาร์ตเมนต์ หรือบ้านพักที่มีชาวตะวันออกกลางเข้าพัก ซึ่งจะมีการขอรายชื่อและติดตามพฤติกรรม โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่นานา และทองหล่อ ที่จะชาวตะวันออกกลางอยู่จำนวนมาก ส่วนเรื่องการท่องเที่ยวจะเน้นสอดส่องสถานที่ที่ชาวตะวันออกกลางไปเที่ยว รวมทั้งในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต และ ชลบุรี ทั้งนี้ ตนได้ให้ผู้บัญชาการสำนักตรวจคนเข้าเมืองตรวจตัวเลขกลุ่มตะวันออกกลางที่เข้ามาในประเทศแล้ว
พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ขณะนี้ศาลได้ออกหมายจับผู้ต้องหารายที่ 5 ศาลในข้อกล่าวหาร่วมกัน ก่อเหตุระเบิดที่ซอยสุขุมวิท 71 เมื่อวันที่ 14 ก.พ.แล้ว ซึ่งข้อมูลเบื้องต้น เราทราบชื่อแล้ว และขณะนี้ผู้ต้องสงสัยไม่ได้อยู่ในประเทศไทย และเดินทางไปประเทศอิหร่านตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ.ที่ผ่านมา
ส่วนผู้ต้องหารายที่ 5 มีความเชื่อมโยงกับ 3 คนร้ายอย่างไรนั้น พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า คนนี้อยู่ที่บ้านเช่ามากกว่า 3 คนนั้น ตามพยานหลักฐานที่ปรากฏเป็นคนที่เข้าไปดูแลบ้านที่พัก ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการซื้ออุปกรณ์ประกอบหรือไม่ ยังไม่มีข้อมูล อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าบ้านเช่าหลังนั้น ไม่น่าใช้เป็นที่ประกอบระเบิด ส่วนจะมีที่อื่นหรือไม่ ต้องรอการสอบสวนถามต่อว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานทูตอิหร่านว่าอย่างไรบ้างกับคนของเขา พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ทางสถานทูตก็เข้ามาดูแล และเราได้ให้ความร่วมมือและประสานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งสถานทูตก็ไม่ได้มีการสอบสวนอะไรเพิ่มเติม เมื่อถามต่อว่า จะสามารถขอตัวผู้ต้องหาจากอิหร่าน ได้หรือไม่ พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ยังไม่มีการประสานไป
ต่อข้อถามว่า ขบวนการของกลุ่มนี้มีทั้งหมดกี่คน พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ที่ยืนยันได้มีจำนวน 6 คน โดยผู้ต้องสงสัยคนที่ 6 แต่ยังไม่ทราบชื่อและยังไม่ได้มีการออกหมายจับ ซึ่งผู้ต้องสงสัยคนที่ 6 ได้กลับไปประเทศอิหร่านแล้ว ซึ่งหากมีหลักฐานสามารถระบุตัวบุคคลได้ ระบุพฤติกรรมที่เข้ามาเกี่ยวข้องได้ก็สามารถออกหมายจับได้ทันที ทั้งนี้ ยังระบุไม่ได้ว่าเบื้องหลังผู้ก่อเหตุมาจากกลุ่มไหน เพราะผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ ส่วนที่มีการพูดถึง กลุ่มเรโวลูชันนารีการ์ด ตนเชื่อว่า เป็นการเอามาปะติดปะต่อกัน โดยที่ไม่มีพื้นฐานทางคดี แต่สิ่งที่ตนพูดจะมีพื้นฐานจากข้อเท็จจริง เมื่อถามต่อว่า เรื่องการเคลื่อนการก่อเหตุจะมีอีกหรือไม่ พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า เราต้องพยายามป้องกันให้ดีที่สุด ขณะนี้นโยบายการท่องเที่ยวและความมั่นคงไปด้วยกันไม่ได้
พล.ต.ท.วินัย กล่าวต่อว่า หลายคนตั้งข้อสังเกตว่าผู้ร้ายไม่ได้เป็นมืออาชีพ ซึ่งเป็นความเห็นที่ยังขัดกันอยู่ แต่ทางเราจะพูดอะไรจะมีพยานและหลักฐานประกอบ ไม่ได้ผู้ถึงเรื่องการข่าว เพราะข่าวมีความผิดพลาดได้ ซึ่งพนักงานสอบสวนต้องเชื่อโดยพื้นฐานของพยานหลักฐาน