รองนายกฯ ด้านความมั่นคง นั่งหัวโต๊ะแบ่งงานให้ “วิเชียร” เป็นแม่งานคุมงานข่าวต้านก่อการร้ายร่วมสำนักข่าวกรอง ศรภ.เพื่อสรุปรายงานนายกฯ ทุกสัปดาห์ พร้อมตั้งวอร์รูมรับมือเหตุร้ายทันที ย้ำนโยบายไทยไม่เป็นศัตรูกับใคร แต่จะเป็นมิตรกับทุกประเทศ
วันนี้ (27 ก.พ.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมบูรณาการหน่วยงานด้านการข่าวว่า ในสมัยรัฐบาลชุดที่แล้วหน่วยงานด้านการข่าวทำงานเป็นนามธรรม และกระจัดกระจายมากเกินไป จึงได้เรียกประชุมหน่วยงานด้านการข่าวและได้มอบหมายให้ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการ สมช. เป็นแม่งานร่วมกับสำนักข่าวกรองแห่งชาติ (สขช.) โดยกำหนดเป็นหน่วยงานหลัก หน่วยงานรอง และหน่วยงานสนับสนุนในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน ที่ผ่านมาหน่วยข่าวกรองสามารถควบคุมสถานการณ์และรักษาความปลอดภัยได้อย่างดีเยี่ยม เมื่อมาบูรณาการกันแล้วเป็นแพ็กเกจต่อไปการทำงานก็จะดีขึ้น เพราะการทำงานอย่างนี้ต้องทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ลำพังหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งทำไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ศรภ., สขช., สมช. นอกจากนั้น ตนยังได้ย้ำในที่ประชุมว่า ครม.มอบหมายให้ตนมาทำงานกับข่าวกรอง อย่าถือว่าตนมาควบคุมงานเพราะเป็นนักการเมืองแต่ขอให้คิดว่ามาช่วยทำงาน และได้ย้ำด้วยว่า เราจะดูแลเรื่องความปลอดภัยของประเทศไม่ให้กระทบภาครัฐ หรือไม่ให้มีการก่อเหตุอะไรในประเทศ โดยยึดหลักไม่เป็นศัตรูกับประเทศใด แต่จะเป็นมิตรกับทุกประเทศ
รองนายกฯ กล่าวต่อว่า การทำงานในหน้าที่ตรงนี้จะไม่ใช้เรื่องการเมืองภายในประเทศโดยเด็ดขาด ประเทศไหนจะทะเลาะกันช่างเขา ประเทศเราไม่ทะเลาะกับใคร รักษาความเป็นไทยและรักษาความสงบเรียบร้อย จากนี้ไป พล.ต.อ.วิเชียรจะเป็นคนกำกับงานทั้งหมด และนัดประชุมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นร่วมกันอาจจะเดือนละครั้ง หากมีความจำเป็นเร่งด่วนเรียกประชุมทุกชั่วโมง ยืนยันว่าเราสามารถรักษาสถานการณ์ได้ ทุกอย่างยังปกติเรียบร้อย
ด้าน พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี เลขาธิการ สมช.กล่าวว่า ในเบื้องต้นหน่วยงานด้านการข่าวคงจะมีการประชุมหารือกันสัปดาห์ละครั้งไปก่อน ซึ่งที่ประชุมได้มอบหมายให้สมช.เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับ สขช.และ ศรภ. ตำรวจสันติบาล กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานรอง ที่ประกอบด้วย กอ.รมน. กระทรวงพาณิชย์ กระทวงวิทยาศาสตร์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ กระทรวงยุติธรรม และ ธปท. ส่วนหน่วยงานสนับสนุน คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ การะทรวงไอซีที กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพลังงาน สำนักงานคณะกรรมการการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานส่งเสริมการลงทุน ป.ป.ส. ปปง. โดยให้ทำหน้าที่สืบสวนหาข่าวบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อ ความมั่นคงของประเทศ ควบคุมบริหารข่าวกรอง วิเคราะห์และประมวลข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์ บุคคล และกลุ่มบุคคลที่มีพฤติกรรมเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ
พล.ต.อ.วิเชียรกล่าวต่อว่า ทั้งนี้ในสถานการณ์ปกติทุกหน่วยงานจะมีตัวแทนรวมตัวกันเป็นประชาคมข่าวเพื่อ แลกเปลี่ยนสถานการณ์กันทุกวัน และจะมีการประชุมสรุปสถานการณ์ทุกสัปดาห์เพื่อรายงานให้นายกฯ รับทราบ แต่ถ้าเหตุการณ์วิกฤตจะมีการตั้งวอร์รูม ซึ่งจะมีการประชุมหัวหน้าหน่วยงานทุกวันเพื่อสรุปสถานการณ์ให้นายกฯ ทราบทุกวัน