ศาลปกครองกลาง ไฟเขียวนักกีฬายิงปืนทีมชาติไม่ต้องเป็นสมาชิกสมาคมกีฬายิงปืน พร้อมสั่งให้เพิกถอนข้อบังคับสมาคมฯ เหตุออกโดยไม่สุจริต แต่มุ่งกีดกัน ดัดหลัง “เจ้าเอ็กซ์-จักรกฤษณ์” และ “โอภาส” แฉทุจริตการบริหารสมาคมฯ ด้าน “โอภาส” เชื่อเป็นบรรทัดฐานให้สมาคมกีฬาอื่นๆ
วันนี้ (28 ก.พ.) ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษาเพิกถอนข้อบังคับสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ หมวด 8 ว่าด้วยระเบียบวินัยนักกีฬายิงปืนทีมชาติ เฉพาะข้อ 8.2 ที่ว่านักกีฬายิงปืนทีมชาติจะต้องเป็นสมาชิกของสมาคม และเพิกถอนมติของคณะกรรมการบริหารกลางและคณะกรรมการบริหารของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.51 และวันที่ 21 ก.พ.52 ที่ไม่รับ นายโอภาส เรืองปัญญาวุฒิ และนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม นักกีฬายิงปืน เป็นสมาชิกของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทย
ทั้งนี้ คำพิพากษาดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก นายโอภาส และ นายจักรกฤษณ์ และ นายศรียานนท์ การดี ได้ยื่นฟ้องการกีฬาแห่งประเทศไทย นายกสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ คณะกรรมการบริหารกลางและคณะกรรมการบริหารของสมาคมกีฬายิงปืนแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กรณีผู้ถูกฟ้องคดีพยายามกีดกันผู้ฟ้องคดีทั้ง 3 ที่ท้วงติงเกี่ยวกับปัญหาการทุจริต และการบริหารของสมาคมฯ ไม่ให้ได้รับการคัดเลือกเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ โดยใช้วิธีการออกข้อบังคับของสมาคมเกี่ยวกับการคัดเลือกตัวนักกีฬายิงปืนทีมชาติเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่ประเทศลาว ว่า นักกีฬายิงปืนทีมชาติต้องเป็นสมาชิกของสมาคม แม้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 3 จะพยายามขอสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมาคมแต่ก็ถูกปฏิเสธ
ส่วนเหตุที่ศาลมีคำพิพากษาให้เพิกถอนข้อบังคับสมาคม ระบุว่า จากข้อเท็จจริงพบว่า การแก้ไขข้อบังคับสมาคมโดยกำหนดให้นักกีฬายิงปืนทีมชาติต้องเป็นสมาชิกสมาคม เกิดจากการที่สมาคมฯได้นำข้อขัดแย้ง
ระหว่าง นายโอภาส นายจักรกฤษณ์ ที่มีต่อสมาคมมาเป็นเหตุในการที่จะไม่รับบุคคลทั้ง 2 เป็นสมาชิกสมาคม มีผลให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 ไม่อาจสมัครเข้าร่วมแข่งขันกีฬายิงปืนเพื่อคัดเลือกเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติได้ ทั้งที่ทั้ง 2 เคยเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ เข้าร่วมการแข่งขันระดับชาติและนานาชาติหลายรายการมาก่อน และควรมีสิทธิสมัครเข้าร่วมการแข่งขันกีฬายิงปืนเพื่อคัดเลือกเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติเช่นเดิม ดังนั้น การแก้ไขข้อบังคับของสมาคมในลักษณะดังกล่าวจึงเป็นการกีดกันบุคคลทั้ง 2 โดยไม่สุจริต อีกทั้งข้อบังคับของสมาคมฯก็มีมาตรการทางวินัยในการควบคุมนักกีฬาที่ประพฤติตนไม่อยู่ในระเบียบอยู่แล้วโดยโทษมีตั้งแต่กล่าวตักเตือน ตัดสิทธิออกจากากรเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติ จนถึงลบชื่อออกจากทะเบียนสมาชิก จึงไม่จำเป็นต้องออกข้อบังคับสมาคมให้นักกีฬายิงปืนทีมชาติเป็นสมาชิกสมาคมอีก จึงเห็นว่าการออกข้อบังคับสมาคมที่กำหนดให้นักกีฬายิงปืนต้องเป็นสมาชิกสมาคมไม่ชอบด้วยกฎหมาย
สำหรับที่สมาคมมีมติเมื่อวันที่ 8 พ.ย.51 และวันที่ 21 ก.พ.52 ไม่รับผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 เป็นสมาชิกสมาคมฯชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เห็นว่า การที่สมาคมไม่รับผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 เป็นสมาชิกโดยอ้างว่าความประพฤติไม่เป็นสุภาพชนเป็นที่รังเกียจแก่คนทั่วไปนั้นไม่ใช่ความประสงค์ที่แท้จริงของสมาคม แต่เพราะสมาคมฯไม่ต้องการให้ผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 เป็นสมาชิกของสมาคม และเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาเพื่อคัดเลือกเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติในการแข่งขันกีฬาระดับชาติและนานาชาติ เนื่องจากเหตุที่ผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 ได้ร้องเรียนเกี่ยวกับการบริหารงานของสมาคมฯต่อการกีฬาแห่งประเทศไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดังนั้นการไม่รับผู้ฟ้องคดีทั้ง 2 เป็นสมาชิกสมาคมจึงเป็นการใช้ดุลยพินิจที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายสมควรเพิกถอนมติดังกล่าวเสีย
ด้าน นายโอภาส กล่าวภายหลังรับฟังคำพิพากษาของศาลปกครองกลางว่าต้องขอขอบคุณศาลปกครองกลางที่ให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ ซึ่งก็จะทำให้ นักกีฬายิงปืนทีมชาติไม่ จำเป็นต้องเป็นสมาชิกสมาคมฯ แล้ว และจะกลายเป็นบรรทัดฐานให้กับสมาคมอื่นได้อีกด้วย โดยขณะนี้ทราบว่าทางสมาคมฯได้มีการแก้ไขระเบียบข้อบังคับดังกล่าว และได้จัดทำระเบียบข้อบังคับออกมาใหม่แล้ว โดยจะต้องเริ่มบังคับใช้ทันที อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ตนก็จะมุ่งมั่นฝึกซ้อม เพื่อให้ผ่านการคัดตัวเป็นนักกีฬายิงปืนทีมชาติไปแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ ประเทศพม่าในปีหน้าต่อไปด้วย