xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิ” อ้างไม่หวั่นผู้ตรวจฯ สอบนั่ง รมต. ขู่ระวังจะถูกต้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ (แฟ้มภาพ)
“เสนาบดีไพร่” ไม่กังวลผู้ตรวจการแผ่นดิน สอบความเหมาะสมนั่ง รมต. โวเข้ารับตำแหน่งตามหลักการที่ถูกต้อง ขู่ให้ระวังพิจารณาประเด็นการเมืองถี่จะเป็นเป้าให้สาวกเคลื่อนไหวต้าน ฉะปฏิญญา ปชป.วนอยู่ที่เรื่อง “นช.แม้ว” เผชิญหน้ากับแก๊งแดง อ้างข้อเสนอแกนนำ พท.ยุบ 2 ศาลเป็นความเห็นส่วนตัว

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.เกษตรและสหกรณ์ และแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง กล่าวถึงกรณีผู้ตรวจการแผ่นดิน เตรียมพิจารณาความเหมาะสมในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่า ตนคิดว่าความถูกต้องชอบธรรมในการเข้ามาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีปรากฏชัดตั้งแต่เริ่มต้นอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่กระบวนการแต่งตั้งที่ทำโดยปราศจากหลักการ หรือหลักเกณฑ์อะไร มีการตรวจสอบคุณสมบัติ มีการตรวจสอบข้อกฎหมาย และหน่วยงานที่ทำคือสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ซึ่งทำเรื่องนี้มาอย่างยาวนานและเป็นที่ยอมรับ ส่วนจะมีการตรวจสอบจากฝ่ายต่างๆ ถือเป็นเรื่องทำได้ ผู้ตรวจการแผ่นดินก็ทำได้ และจะมีข้อวินิจฉัยอย่างไรไม่ใช่เรื่องที่ตนต้องวิตกกังวล เพราะอย่างที่บอว่า มั่นใจในความชัดเจนที่เข้ามาดำรงตำแหน่งนี้ วันนี้ก็จะรอฟังข่าว ปฎิบัติหน้าที่ตามปกติ

ผู้สื่อข่าวถามว่า ช่วงหลังผู้ตรวจการแผ่นดินมักจะรับเรื่องการตรวจสอบจริยธรรม ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจสำหรับรัฐบาลหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนคิดว่ารัฐบาลนี้เดินมาได้ เราผ่านแรงเสียดทานมาแล้วมากมาย เพราะฉะนั้นบทบาทขององค์กรต่างๆ ที่ออกมาเป็นผู้ตรวจสอบ ก็เป็นเรื่องที่สังคมต้องใช้วิจารณญาณไปพร้อมๆ กันด้วย แต่รัฐบาลไม่วิตกกังวล เพราะอย่างที่บอกถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องจะตรวจสอบมุมไหนแง่ใดก็ไม่ใช่ปัญหา

“ท่าทีของผู้ตรวจการครั้งนี้อยากฝากให้ท่านระมัดระวังรัดกุมในการดำเนินการเท่านั้นเอง เพราะที่ผ่านมาจะเห็นว่า ผู้ตรวจการไม่ได้อยู่ในสถานะเป็นเป้าที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมเท่าใดนั้น เพราะบทบาทท่าทีต่อประเด็นทางการเมืองท่านยังไม่ค่อยได้แสดงออก แต่ดูเหมือนว่าวันนี้ท่านแสดงออกมากขึ้นๆ ผมก็เคารพและอยู่ในอำนาจหน้าที่ท่านก็ดำเนินการได้ เพียงแต่ว่า อยากให้ท่านรัดกุมรอบคอบต่อสายตาประชาชนเท่านั้นเอง”

นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงปฎิญญาหาดใหญ่ ในการประชุมเชิงปฏิบัติการของพรรคเมื่อวันที่ 27 ก.พ.ที่ประกาศต่อต้านหมู่บ้านเสื้อแดงว่า ปฏิญญา 8 ข้อที่ว่าด้วยสถาบันพระมหากษัตริย์ รัฐบาลก็มีจุดยืนชัดเจนว่า การดำเนินการทุกเรื่องจะไม่ให้มีผลกระทบต่อสถาบันเบื้องสูงเทิดไว้เหนือการเมือง เป็นที่เคารพสักการะ แต่ปรากฏว่านอกเหนือจากนั้นทุกประเด็นยังวนเวียนอยู่กับการจัดการกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร การพยายามที่จะเผชิญหน้ากับประชาชนคนเสื้อแดง ทั้งที่จริงๆ พรรคประชาธิปัตย์ควรใช้เวทีนี้ในการระดมสมองว่าทำไมมีโอกาสบริหารประเทศเกือบ 3 ปี แล้วยังไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง ทำไมมีโอกาสบริหารประเทศส้มหล่น แต่ประชาชนจำผลงานไม่ได้เลย น่าจะมีการนำโพลล์สถาบันวิชาการที่ว่า การทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมาประชาชนจำได้มากที่สุด คือการตามไล่ล่า พ.ต.ท.ทักษิณ

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า วันนี้ก็ชัดว่าในใจพรรคประชาธิปัตย์คิดแต่เรื่องนี้ จริงๆ ปฏิญญาน่าจะออกมาว่า มองอนาคตข้างหน้าอย่างไร พรรคประชาธิปัตย์จะสรุปบทเรียนที่ผ่านมาแล้วกำหนดยุทธศาสตร์ในการเสนอผลงาน เสนอผลงานต่อประชาชนอย่างไร แต่กลายเป็นว่า ปีละหนคนกันเอง ไปนั่งคิดกันเอง แค้นกันเอง โกรธกันเอง และระบายออกมาประกาศต่อประชาชนว่า เดินหน้าที่จะทำ ตนก็คิดว่าประชาชนเขาใช้วิจารณญาณได้ เพราะระยะหลังๆ ก็รู้สึกว่าการปฏิบัติหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์จะทะลุมิติเกินจิตนาการไปเรื่อยๆ เช่น นั่งจัดรายการพูดสองแง่สองง่ามวิพากษ์วิจารณ์นายกรัฐมนตรีไปในทางที่เสียหาย ล่าสุดถึงขั้นขุดคุ้ยถังขยะสภาฯ อ้างว่า เป็นการตรวจสอบพฤติกรรมบางอย่างของรัฐบาล ซึ่งตนเห็นว่า เรื่องพวกนี้น่าจะมีเรื่องอื่นๆ ทำประโยชน์กับประชาชนมากกว่าหรือไม่ ยังใจคอไม่ดีถ้าไปรื้อคุ้ยถังขยะแล้วไม่หนำใจ เสนอให้รื้อบ่อเกรอะจะไปกันใหญ่ เพราะว่าประชาชนเขารอคอยความหวังและโอกาส

นายณัฐวุฒิกล่าวต่อว่า หมู่บ้านเสื้อแดงที่พี่น้องเขาเปิดเขาดำเนินการจนถึงปัจจุบัน ตนว่าจะเป็นหลายพันหมู่บ้านไม่น่ามีพฤติกรรมใดส่งผลร้ายทำลายบ้านเมือง และยังไม่ปรากฏว่าการมีหรือไม่มีหมู่บ้านเสื้อแดงจะนำไปสู่ความแตกแยกอะไร ก็เห็นเขาดำเนินการเรียบร้อยปกติ และกฎหมายที่ดูแลในพื้นที่ก็ไม่เคยส่งเสียงสะท้อนออกมาในเชิงที่เป็นปัญหา มีแต่พรรคประชาธิปัตย์เท่านั้นที่มองว่าเป็นปัญหา และวิธีการมองปัญหาของพรรคประชาธิปัตย์ตนมองว่า ทำไปทำมาสังคมไทยมองว่า พรรคประชาธิปัตย์นั้นแหละที่เป็นตัวปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่คนพรรคเพื่อไทยโยนเป็นเรื่องของสังคมในการยุบศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ตรงนี้จะทำให้เกิดแรงเสียดทานในการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตนว่านั้นคือความคิดเห็นส่วนบุคคล ประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญเริ่มต้นนับหนึ่งก็เป็นประเด็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันอยู่แล้ว ทั้งฝ่ายที่สนับสนุนและฝ่ายที่คัดค้าน และเราจะเห็นว่า มีแนวความคิดมากมาย ฝ่ายที่สนับสนุนเขาก็มีแนวความคิดอย่างนั้นอย่างนี้ ฝ่ายคัดค้านก็มีความคิดเห็นหลายมิติ ตนว่าต้องรอให้กระบวนการเดินหน้ามี ส.ส.ร. ถึงตรงนั้นเนื้อหาสาระบทบัญญัติต่างๆ ก็จะมีความชัดเจน เรายังไม่รู้ใครจะมาทำหน้าที่เป็นผู้ยกร่างรัฐธรรมนูญ

ส่วนความคิดเห็นว่าหลังจากนี้ไปก็จะยิ่งมีหลากหลายมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องปกติของเรื่องระดับใหญ่ขนาดนี้ คงไม่ได้ไปผูกมัดกดดันอะไร คนทำหน้าที่ยังไม่ปรากฏ แต่ความคิดของผู้คนมันปรากฏขึ้นมาก่อน นี้เป็นความงามในระบอบประชาธิปไตย
กำลังโหลดความคิดเห็น