“แม้ว” อกแตกตายรอรื้อ รธน.ไม่ไหว ต้องดันนิรโทษฯ พ้นผิดก่อน!!

ผ่าประเด็นร้อน

คะแนนเสียงในรัฐสภาจำนวน 399-199 เสียงเห็นชอบในวาระแรกให้แก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 291 เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) เป็นขั้นตอนตาม “พิธีกรรม” ประชาธิปไตยสำหรับการ “รัฐประหาร” ฉีกรัฐธรรมนูญรูปแบบใหม่เมื่อสุดสัปดาห์ก่อน รับรองว่าต้องสร้างความมั่นอกมั่นใจให้กับทักษิณ ชินวัตร และเครือข่ายทั้งมวล เพราะนี่คือจำนวนตัวเลขที่พิสูจน์กันได้อย่างชัดเจนว่า ทุกอย่างอยู่ในมือของพวกเขาอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้ว

ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่เวลานี้จะได้เห็นอาการ “กร่าง” จนควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ทั้งในและนอกสภาให้เห็นกันอยู่ดาษดื่น ขณะเดียวกันไม่ต้องไปเสียเวลาติดตามการสอบสวนของสภาว่าจะเกิดขึ้นตามเสียงเรียกร้องว่ารองนายกรัฐมนตรี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง “เมามาย” ในสภา ซึ่งเป็นเขตพระราชฐาน ไร้จริยธรรมหรือไม่ เพราะเสียเวลาเปล่า รู้ทั้งรู้ว่าเสียงข้างมากอยู่ในกำมือใคร แม้แต่ตัวประธานสภาฯ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ นาทีนี้ก็แทบหมดสภาพความเป็นประมุขสถาบันนิติบัญญัติ ลักษณะไม่ต่างจากแค่ “พนักงานธุรการ” ไร้ความหมายโดยสิ้นเชิงแล้ว

อย่างไรก็ดี หากพิจารณาจากการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หรือหากเรียกให้ถูกต้องก็คือ การรัฐประหารฉีกรัฐธรรมนูญรูปแบบใหม่ผ่านทางบริษัทพรรคการเมืองภายใต้การอุปถัมภ์ของ “ทุนสามานย์” ที่ว่ากันว่ากำลังเดินไปได้สวยตามขั้นตอนที่วางแผนเอาไว้ทุกอย่าง

ขณะเดียวกัน หากพิจารณาให้ตรงจุดเข้าไปอีกก็ต้องบอกว่าเป็นการฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญแล้วร่างขึ้นมาใหม่ตามความต้องการของ “นายเงิน” ก็คือ ทักษิณ ชินวัตร นั่นเอง และความต้องการที่ว่าก็คือลบล้างความผิด ให้กลับมามีอำนาจอีกครั้ง และได้ทรัพย์สินที่ถูกยึดไปกลับคืนมา ส่วนเนื้อหาจะเป็นประชาธิปไตยแค่ไหนหรือไม่มันก็เป็นเพียงข้ออ้างที่บางครั้งดูแล้ว “ดัดจริต” เท่านั้น

เพราะถ้าพิจารณาไล่เรียงกันไปตั้งแต่นายยันบ่าวจากพฤติกรรมในอดีต ล้วนแล้วแต่ข้องแวะรับใช้อยู่กับเผด็จการทั้งสิ้น เพราะคนอย่าง ทักษิณ ที่สามารถร่ำรวยจนต่อยอดเป็นมหาเศรษฐีในเวลานี้ก็ล้วนแล้วแต่ค้อมหัว “กุมไข่” รับใช้เผด็จการ รสช.เพื่อแลกกับสัมปทานดาวเทียมมาแล้วทั้งสิ้น หรือแม้แต่นักประชาธิปไตยจ๋าอย่าง ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ในอดีตก็เคยร่วมก่อการรัฐประหารจนกลายเป็นหนึ่งใน “กบฏเมษาฮาวาย” จนต้องระเห็จไปอยู่ในคุกอยู่พักใหญ่ คนพวกนี้นะหรือจะมีจิตวิญญาณประชาธิปไตย มันก็หลอกต้มได้เฉพาะพวกที่ไม่รู้เท่าทัน และพวกคนไทยประเภทที่วางเฉย “ธุระไม่ใช่” เท่านั้นแหละ

แต่ถึงแม้ว่าทุกอย่างจะอยู่ในมือและรุกคืบคุมเอาไว้อย่างเบ็ดเสร็จแล้วก็ตาม แต่ถ้าถามว่าสำหรับการรื้อยกเครื่องรัฐธรรมนูญใหม่ขึ้นมาสักฉบับหนึ่งมันก็ต้องใช้เวลา แม้ว่าจะร่นเวลากันเข้ามาแบบด่วนจี๋นั่นคือจะรวบรัดให้เสร็จภายใน 180 วันหรือ 6 เดือนก็ตาม แต่มันก็ยังไม่ทันใจอยู่ดี ขณะเดียวกันในระหว่างที่กำลังร่างกันอยู่เพลินๆ อยู่นั้นอะไรมันก็อาจเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุที่ทำให้รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ล้มคว่ำลงได้ทุกเวลา เพราะคนที่เป็นพี่ชายคนในครอบครัวเดียวกันย่อมรู้ดีว่าสติปัญญาของน้องสาวตัวเองว่ามีแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาสังคมเริ่มจับได้ไล่ทันเรื่อยๆ ยิ่งทอดเวลานานไปก็ยิ่งเสี่ยง

นอกจากนี้ หากพิจารณาจากสถานการณ์โลกมันก็ไม่เป็นใจเท่าใดนัก โดยเฉพาะเรื่องราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นไม่หยุด ทำให้ส่งผลต่อราคาค่าครองชีพสูงขึ้นจนควบคุมไม่ได้ ไม่มีทางที่จะกระชากลงมาได้เลย เวลานี้น้ำมันดีเซลซึ่งเป็นต้นทุนหลักราคาเกือบถึงลิตรละ 32 บาทเข้าไปแล้ว และยังมีการส่งสัญญาณจากผู้บริหารบริษัทน้ำมันเข้ามาล่าสุดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันอีกระลอก

ด้วยขั้นตอนเวลาการแก้หรือยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่แม้ว่าจะเร่งให้เร็วอย่างไร อย่างน้อยก็ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 6 เดือนดังกล่าว และที่สำคัญการ “หลอกล้ม” ชาวบ้านมันก็ต้องทำให้ “แนบเนียน” หน่อย ไม่งั้นจะพัง ซึ่งกรณีหลังนี่แหละที่ทำให้รวบรัดมากเกินไปไม่ได้มากนัก เมื่อเป็นแบบนี้มันก็ไม่ทันใจจึงต้องเปิดเกมรุกในรูปแบบใหม่เข้ามาอีกระลอกนั่นคือ การเสนอร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม หรือล่าสุดเตรียมใช้ชื่อใหม่ตบตาว่า พระราชบัญญัติปรองดองฯ ซึ่งรูปแบบก็มาในแนวเดียวกับที่เคยใช้วิธีเยียวยาคนเสื้อแดงโดยพ่วงประโยชน์ให้กับคนอื่นไปด้วย คราวนี้ก็คือจะลบล้างความผิดให้ ทักษิณ นั่นแหละ และที่สำคัญใช้เวลาไม่นานแค่ไม่กี่วันก็เรียบร้อยแล้ว

ที่ผ่านมา ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ที่ประกาศว่าเป็นคนดำเนินการลากเข้าสภา โดยจะดำเนินการหลังจากนี้ไป ซึ่งเนื้อหาสาระในร่างกฎหมายดังกล่าวก็มีการเปิดเผยออกมาแล้วว่ามีเพียงแค่ 6 มาตรา สั้นกระชับ ไม่เยิ่นเย้อ เอาเป็นว่าแค่ให้ทักษิณพ้นผิดเป็นใช้ได้ และที่ผ่านมาคนที่เสนอ คือ เฉลิม เจ้าเก่าก็ไม่ได้ปิดบังความจริงเลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้เป็นเพราะมั่นใจเสียงสนับสนุนในสภาที่มีอยู่เต็มเปี่ยม อย่าว่าแต่จะเสนอลบล้างผิดเลย หากจะเสนอแก้ให้ “สุนัขเป็นกระบือ” ก็คงทำได้ เพราะนาทีนี้จะทำอะไรก็ต้องได้ ไม่มีใครกล้าขัดขวางอยู่แล้ว

ด้วยความเป็นจริงและปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว ทำให้ ทักษิณ ไม่มั่นใจและไม่ทันใจ จึงต้องเร่งเกมให้มีการนิรโทษกรรมให้เขาโดยเร็วที่สุด เพราะถ้ารอนานไปแม้อีกนิดเดียวก็อาจอกแตกตายก็ได้ จึงต้องประกันความชัวร์เอาไว้ก่อน!!