เกาะกระแส
โดย...ก้อนกรวด
00 เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีก็ว่าได้ที่ทำให้ฝ่ายตำรวจและฝ่ายความมั่นคงและรัฐบาลรู้สึกเครียดไม่รู้จะหาทางออกแบบมุบมิบสร้างภาพอย่างไรดี เรียกว่าไปไม่เป็นกันเลยสำหรับเหตุระเบิดในซอยปรีดีพนมยงค์ 38 และสุขุมวิท 71 ที่มีชาวอิหร่านกลุ่มหนึ่งเป็นคนลงมือพลาดเมื่อบ่ายวันที่ 14 ก.พ.ที่สำคัญจะปกปิด ทำกันเป็นการภายในก็ไม่ได้ เพราะเกิดเหตุระเบิดกลางเมือง ที่สำคัญงานนี้มันทำให้พวกมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ อิสราเอล และชาติตะวันตกต้องเข้ามาจุ้นโดยอัตโนมัติ ลองถ้าเป็นอิหร่านหรืออาหรับแล้วละก็เป็นหูผึ่งอยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ
00 สังเกตหรือไม่ว่าพอเกิดเหตุแล้วทั้ง ผบ.ตร.พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ ต่างมีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ตอบคำถาม ซึ่งมองอีกมุมก็พอเข้าใจว่าต้องรอตรวจสอบก่อน แต่แล้วการออกมาบอกว่าไม่ใช่ฝีมือ “ผู้ก่อการร้าย” สอดคล้องกับคำพูดของ รมว.กลาโหม พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต ที่ฟันธงล่วงหน้าไปก่อนหน้า มันก็ยิ่งเวียนหัวไปใหญ่ว่าแล้วแบบไหนมันถึงจะเป็นก่อการร้ายหรือก่อการดี รู้แต่ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ประเทศไทยต้องเสียหายย่อยยับ อย่างน้อยในช่วง 1-2 เดือนนี้ หลังจากมีประกาศเตือนจาก 14 ประเทศให้ระวังการเดินทางมาไทยอีกรอบทั้งที่เพิ่งยกเลิกไปเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า
00 ขณะเดียวกันในบางเหตุการณ์เราก็จะได้เห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบว่า “มีฝีมือ” สมราคาคุยหรือไม่ เหมือนกับกรณีเกิดน้ำท่วมใหญ่เราก็ได้พิสูจน์ฝีมือของ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย นายกฯยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ทำให้เห็นทันทีว่า “ห่วยแตก” แค่ไหน กรณีนี้ก็เช่นเดียวกันก่อนหน้านี้ถ้ายังจำกันได้กับการนำช่างตัดผมชาวสวีเดนสัญชาติเลบานอนมาแถลงข่าวโชว์พาวเวอร์กันอย่างครึกโครม รองนายกฯ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประกาศลั่นว่า “รู้หมดแล้ว” ว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายมาจากไหนเป็นใคร ขอให้คนไทยนอนหลับเที่ยวให้สบายประมาณนั้นแหละ หรือแม้แต่การไล่ตามตะครุบตัวผู้ก่อเหตุวางระเบิดใน “พงหญ้า” ย่านชานกรุงก่อนปีใหม่ ก็ทำอย่างคึกคัก แต่พอเจองานหินของจริงกลับเงียบกริบแอ็กอาร์ตไม่ออก ทุด !!
00 น่าจับตาก็คือทำไมทูตสหรัฐฯ คริสตี เคนนีย์ ถึงได้เข้าพบ ผบ.สส.พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกรณ์ โดยยอมรับว่ามาหารือกันเรื่องเหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวเสียด้วย ทำไมไม่เข้าพบ ผบ.ตร.หรือไม่ก็ฝ่ายรัฐบาลหรือไม่ก็ รมว.ต่างประเทศ “อ้ายปึ้ง” สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ทำไมถึงโร่พบทหาร เป็นเพราะคุยกับฝ่ายทหารแล้วน่าเชื่อถือกว่า ก็ว่ากันไปเพราะนี่เป็นเรื่องลับและสันนิษฐานเอาเท่านั้น อย่างไรก็ดีขอภาวนาอย่าให้ “นายกฯนกแก้ว” ที่ชื่อ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ออกมาให้ความเห็นเรื่องนี้เป็นอันขาด เพราะเดี๋ยวจะมีเรื่องให้ขบขันและอาจทำให้ต่างชาติเข้าใจผิดกระทบความสัมพันธ์ขึ้นมาอีกเดี๋ยวจะยุ่ง อยู่เงียบๆ หรือไปทัวร์ตามต่างจังหวัดไปยืนบนสันเขื่อน ประตูระบายน้ำแล้วชี้มือถ่ายรูปสวยๆแบบที่ผ่านมานั่นแหละดีแล้ว
00 เชื่อว่าในช่วงสุดสัปดาห์นี้ที่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน คงคลาคล่ำไปด้วย ส.ส.พรรคเพื่อไทย รมต.หลายคนที่ต่างทยอยเดินทางไป “เสนอหน้า” อาสารับงานจาก ทักษิณ ชินวัตร ในฐานะลูกน้องที่แสนดี เท่าที่จำได้ก็ต้องมี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ปะปนอยู่ในนั้นด้วย เพราะงานใหญ่เรื่องแก้ไข รธน.กำลังเดินหน้า
00 เวลานี้ถ้าบอกว่าสภาไทยกลายเป็น “สภาชิน” กันไปเรียบร้อยแล้วก็ไม่ผิดนัก เพราะไม่ว่าใครก็ตามบังอาจแตะต้องคนในครอบครัวนี้เป็นอันต้องถูกขัดขวางทุกวิถีทาง อย่างล่าสุด ส.ส.ฝ่ายค้าน รังสิมา รอดรัศมี ยื่นกระทู้ถาม ปู ว.5 ที่โรงแรมโฟส์ซีซัน ว่าเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อน กลับกลายเป็นว่าถูก “ค้อนปลอม” สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ทำหน้าที่ได้สมฉายาไม่ยอมให้แตะต้อง “น้องนายคนสวย” เป็นอันขาด เออ เจริญละ !!