โฆษก ปชป.ซัดรัฐบาลชอบใช้การตลาดนำหน้าความมั่นคง จนล้มเหลวด้านความมั่นคง ทำต่างชาติหมดความเชื่อถือ ขณะเดียวกันยังอดสูใจ “สุรพงษ์” พล่ามมั่วจนไทยถูกมองว่าเป็นผู้ส่งออกการก่อการร้ายไปทั่วโลก พร้อมตั้งชื่อทัวร์นกแก้ว เป็น “ทัวร์นกอีแร้ง” หลังพบมีขบวนการหักหัวคิวงบฯฟื้นฟูน้ำท่วมโผล่ระหว่าง “ปู” ลงพื้นที่ดูการแก้ปัญหาน้ำท่วม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเหตุการณ์ระเบิดที่ซอยสุขุมวิท 71 ว่า สะท้อนถึงเหตุการณ์ตรงกันข้ามกับพูดของนายกรัฐมนตรี ที่ชอบบอกว่าเอาอยู่ และควบคุมได้ เพราะรัฐบาลไม่สามารถให้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนคนไทยและคนต่างประเทศได้ แต่ชอบใช้การตลาดนำหน้าเรื่องความมั่นคง การสื่อสารของนายกฯ ตรงกันข้ามกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
“เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะขณะนี้ต่างชาติหมดความมั่นใจและความเชื่อถือในรัฐบาลไทยอย่างสิ้นเชิง เราเคยเตือนรัฐบาลว่าอย่าดูถูกผู้ก่อการร้ายว่าเป็นโจรกระจอก เมื่อต่างชาติเตือนประชาชนของเขาในการเดินทางเข้าประเทศไทย รัฐบาลก็หัวเสียและกดดันให้ต่างประเทศยกเลิกคำเตือน แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็ตรงกับคำเตือนของต่างประเทศ นี่คือความล้มเหลวด้านการรักษาความมั่นคง และการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย”
นายชวนนท์กล่าวว่า ตนไม่อยากเรียกนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ว่าเป็น รมว.ต่างประเทศ เพราะมีพฤติกรรมไม่เหมาะกับเป็น รมว.ต่างประเทศ และข้าราชการต่างอดสูที่สุดที่มีรมว.ต่างประเทศคนนี้ การที่นายสุรพงษ์ระบุไม่ใช่ก่อการร้าย เป็นเพียงการเอาระเบิดซีโฟร์ติดแม่เหล็กเตรียมไปติดรถสถานทูตอิสราเอล เป็นเพียงคดีอาชญากรรมธรรมดา และยังบอกว่ามีการประกอบระเบิดในประเทศไทย แต่เขาจะไปใช้ที่อื่น ทำให้ต่างประเทศเขาวิจารณ์ว่า รมว.ต่างประเทศของไทยยอมรับว่าประเทศไทยเป็นผู้ส่งออกการก่อการร้าย กระทบความน่าเชื่อถือระบบรักษาความปลอดภัยของไทย
“หมายความว่าสนามบินสุวรรณภูมิไม่มีศักยภาพการตรวจระเบิด คนมีวิสัยทัศน์อย่างนี้ มองแค่ว่าเป็นการกระทำของช่างกลอิหร่าน ถือว่าไม่ควรมีหน้าที่ดูแลความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หรือดูแลความมั่นคงให้กับประเทศอีกต่อไป ถ้าเป็น รมว.ต่างประเทศในประเทศอื่น เขาลาออกไปแล้ว แต่ตนไม่หวังยางอายจากพวกท่าน”
นายชวนนท์ยังกล่าวถึงการทัวร์ตรวจน้ำท่วมของนายกรัฐมนตรีว่า นายกฯ บอกว่าได้พื้นที่รับน้ำ 1 ล้านไร่ แต่ยังไม่สามารถบอกได้ว่าพื้นที่ดังกล่าวอยู่ตรงไหนบ้าง มีการระบุว่า อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา ที่พร้อมเสียสละ ซึ่งตนไม่ทราบว่านายกฯ ได้ไปสอบถามชาวบ้านเหล่านั้นหรือไม่ และแน่ใจได้อย่างไรว่าเขาจะยินดีให้เป็นพื้นที่รับน้ำ
นอกจากนี้ นายกฯ ยังบอกว่า มีงบประมาณค้างท่อ 4 หมื่นกว่าล้านบาท และยังมีการชะลอโครงการต่างๆ ประมาณ 7 พันล้านบาท และมีการยกเลิกโครงการอื่นๆ ประมาณ 5.3 พันล้านบาท ถือเป็นตัวอย่างยืนยันว่ายังมีงบประมาณเพียงพอ และอาจมีมากเกินไปจนต้องมีการชะลอและยกเลิกโครงการไปถึง 1.23 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ที่บอกว่ามีความจำเป็นต้องกู้เงิน 3.5 แสนล้านบาท ถือว่าเป็นเรื่องโกหก
“ขอฝากว่าขณะนี้มีชาวบ้านบางคนบอกว่าการลงพื้นที่ของนายกฯ ครั้งนี้ มีผู้ที่อ้างเป็นตัวแทนของนายใหญ่เป็นผู้รับผิดชอบหักหัวคิวโครงการงบฟื้นฟูน้ำท่วมทั้งหมด โดยไม่ผ่าน รมต. กระทรวงต่างๆ แต่จะมีการหักหัวคิวหน้างานทันที คนเขาเลยบอกว่าทัวร์นกแก้วที่เกิดขึ้นเขาขอตั้งชื่อใหม่ว่า ทัวร์นกอีแร้ง หักหัวคิว” นายชวนนท์กล่าว
นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทยระบุว่าหาก พ.ร.ก. 2 ฉบับไม่ผ่านการตีความของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นความผิดของพรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นผู้ยื่นตีความว่า ถือเป็นเรื่องตลก เพราะเมื่อพรรคเห็นคนทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน หรือว่าพรรคเพื่อไทยชินกับการขโมยของแล้วโดนจับได้แล้วไปโทษเจ้าทุกข์
นอกจากนี้ยังบอกว่า หากศาลตีความขัดรัฐธรรมนูญ รัฐบาลก็ไม่ต้องรับผิดชอบนั้น ตนเห็นว่าเป็นนิสัยของคนที่ชอบลักเล็กขโมยน้อย เมื่อถูกจับได้ก็พร้อมเข้าไปแก้ใหม่อย่างหน้าตาเฉย ไม่มีความรับผิดชอบทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น เป็นพวกฉวยโอกาสขาดจริยธรรม หากนายพร้อมพงศ์คิดได้แค่นี้ อย่าว่าแต่เป็นนักการเมืองเลย แค่พระเอกลิเกยังเป็นไม่ได้เลย