“ชวนนท์” เหน็บทัวร์นกแก้ว “สร้างความทุกข์หมดความหวัง” หลัง “ปู” อุบไต๋พื้นที่รับน้ำ หวั่นการลงพื้นที่ของนายกฯ จะนำข่าวร้ายไปบอกชาวบ้านจะขอใช้พื้นที่เป็นอ่างเก็บน้ำตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล เย้ยแม้จะมีคณะกรรมการฯจำนวนมากหากไม่มีแผนบริหารจัดการน้ำที่ชัดเจนก็ไร้ประโยชน์ พร้อมเฉ่งรัฐล้มไทยเข้มแข็ง เบี่ยงประเด็น 2 พ.ร.ก.ขัด รธน.
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการลงพื้นที่ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์นี้ว่า การตะลอนทัวร์นกแก้วของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในการดูแผนต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำนั้น มีการระบุว่าจะเป็นทัวร์สร้างความสุขสร้างความหวัง ซึ่งต้องทำอย่างจริงจังเพื่อแก้ปัญหาให้กับประชาชนไม่ใช่ทำเหมือนบางระกำโมเดล ที่หลังจากนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่ประกาศโครงการแล้วทำให้น้ำท่วมทั้งประเทศคนไทยระกำกันทั้งประเทศ
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่นายกรัฐมนตรียังไม่ยอมเปิดเผยพื้นที่รับน้ำ แต่อ้างว่าจะไปเปิดเผยหลังจากลงพื้นที่แล้ว ซึ่งจะยิ่งทำให้การเดินทางของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ เป็นการสร้างความทุกข์หมดความหวังกันทั้งประเทศ เพราะทุกพื้นที่ที่นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปนั้นจะถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่รับน้ำ โดยที่ยังไม่มีการประกาศมาตรการเยียวยาและแผนการระบายน้ำให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับทราบ เท่ากับว่าทัวร์นกแก้วคราวนี้ คือการเดินทางไปบอกความทุกข์กับชาวบ้านว่าบ้านไหนจะต้องเป็นอ่างเก็บน้ำตามยุทธศาสตร์ของรัฐบาล เป็นการลงพื้นที่ไปบอกข่าวร้ายกับประชาชนในทุกๆ จังหวัดที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปตลอดทัวร์นี้
นายชวนนท์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนสูงถึง 90% ซึ่งรัฐบาลควรประกาศแผนการระบายน้ำให้ประชาชนได้รับทราบ รวมถึงระบุพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบเพื่อให้มีการเตรียมความพร้อมในการรับมือ เนื่องจากเป็นเรื่องที่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะมีการระบายน้ำอย่างไร ปริมาณน้ำเท่าไหร่ เส้นทางน้ำจะไปในทิศทางไหน ใช้ระยะเวลาเดินทางไปยังแต่ละพื้นที่อย่างไร พื้นที่ไหนจะได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง แต่จนถึงขณะนี้รัฐบาลกลับไม่มีความชัดเจนในเรื่องนี้จนทำให้คนอยุธยาจมน้ำในหน้าร้อนไปเรียบร้อยแล้ว
อีกทั้งการที่รัฐบาลอ้างว่าจะแก้ปัญหาอย่างบูรณาการ โดยมีการตั้งคณะกรรมการจำนวนมากซึ่งตนคิดว่านายกรัฐมนตรีคงจำไม่ได้แล้วว่ามีทั้งหมดกี่ชุด ซึ่งหากยังบริหารน้ำแบบไร้แผน ปกปิดข้อมูลกับประชาชน ตนเชื่อว่าแผนขอวรัฐบาลจะไม่ได้รับความร่วมมือจากประชาชน จึงขอเตือนให้รัฐบาลรีบแก้ไขก่อนที่ประชาชนจะลุกขึ้นมาต่อต้านกันทั้งประเทศ
นายชวนนท์กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลเตรียมรื้องบไทยเข้มแข็งว่าเป็นความพยายามเอาคืน และตีรวนของรัฐบาล หลังจากที่คิดว่ารัฐบาลกำลังจะมีปัญหาจากหการออก พ.ร.ก.2 ฉบับ ที่ขัดรัฐธรรมนูญ เพราะถ้าคิดว่ามีปัญหา มีการทุจริต รัฐบาลจะรออยู่ 6 เดือนทำไม เหตุใดจึงไม่มีการดำเนินการตั้งแต่แรก สิ่งที่ทำในขณะนี้จึงเป็นความพยายามหาประเด็นมาใส่ร้ายรัฐบาลชุดที่แล้ว เพื่อดิสเครดิต เบี่ยงเบนข่าว พร้อมกับชี้ให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างงบไทยเข้มแข็งกับการออก พ.ร.ก.กู้เงิน 3.5 แสนล้านบาทรัฐบาลว่า ในช่วงที่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์บริหารประเทศเกิดปัญหาเศรษฐกิจโลกถดถอยตกต่ำไม่มีเงินเหลือในวงเงินงบประมาณที่จะใช้ได้ มีทางเลือกเดียวคือต้องกู้เงินมากระตุ้นเศรษฐกิจ แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ก็ไม่ได้ออกเป็น พ.ร.ก.ทั้งหมด อีก 4 แสนล้านบาทออกเป็น พ.ร.บ.ตามปกติ ให้สภาฯ ตรวจสอบ แต่คราวนี้รัฐบาลมีงบกลาง 1.8 แสนล้านยังใช้ไม่หมด และยังกู้ได้ตามกรอบงบประมาณอีก 1.5 แสนล้าน แต่กลับไม่กู้ เพราะไม่ต้องการถูกตรวจสอบจากรัฐสภา จึงออก พ.ร.ก.กู้เงินแทนเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เห็นว่าจะมีการทุจริตหรือไม่อย่างไร