xs
xsm
sm
md
lg

“ถวิล” แจง ก.พ.ค.ซัดนายกฯ โยกนั่งกุนซือใช้ไม่คุ้มค่าจ้าง ดูก่อนฟ้องศาล ปค.หรือไม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี (แฟ้มภาพ)
อดีตเลขาฯ สมช. โผล่แถลงปิดคดีฟ้องนายกฯ ต่อ กพค. ยัน “ยิ่งลักษณ์” ใช้อำนาจไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม ผิด กม.หลายข้อ ซัดให้มานั่งที่ปรึกษาทำงานเล็กๆ น้อยๆ ไม่สมคำอ้าง โอดถูกใช้งานไม่คุ้มเงินเดือน เชื่อจะได้รับความคุ้มครอง ขอดูก่อนร้องศาลปกครองต่อหรือไม่

วันนี้ (10 ก.พ.) ที่สำนักงานข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เมื่อเวลา 09.15 น. นายถวิล เปลี่ยนศรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำ และอดีตเลขาธิการสมาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนการร่วมแถลงปิดคดีต่อคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) กรณีการร้องขอความเป็นธรรมจากการถูกโยกย้ายจากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ว่า ก.พ.ค.ได้เชิญตนและน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีที่เป็นคู่กรณี มาแถลงด้วยวาจา หลังจากที่ส่งเป็นลายลักษณ์อักษรมาแล้วตั้งแต่วันที่ 8 ก.พ. เข้าใจว่านายกรัฐมนตรีจะส่งเจ้าหน้าที่มาแทน จากนี้คงเป็นขั้นตอนของก.พ.ค.ที่จะหาข้อมูลมาพิจารณาต่อไป และเชื่อว่าจะใช้เวลาไม่นาน ซึ่งเป็นการชี้แจงครั้งสุดท้าย หลังจากนี้คงไม่มีการชี้แจงอะไรแล้ว โดยตนมั่นใจว่าจะได้รับความเป็นธรรม

จากนั้น เวลา 10.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายถวิลให้สัมภาษณ์ภายหลังการแถลงถ้อยคำด้วยวาจาว่า จากการไปแถลงถ้อยคำด้วยวาจากับ ก.พ.ค.องค์คณะที่ 2 ซึ่งเป็นไปตามที่ตนได้แจ้งความจำนงไว้ ตนได้เรียนต่อองค์คณะว่า การปฏิบัติของนายกรัฐมนตรีในการใช้อำนาจตามกฎหมายไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม ซึ่งกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ทั้งในประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง ทั้งในบัญญัติระเบียบของข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 ในรัฐธรรมนูญมาตรา 279 วรรค 4 ประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมืองหลายข้อ โดยเฉพาะข้อ 9 รวมทั้งระเบียบพระราชบัญญัติข้าราชการพลเรือน มาตรา 42 ได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการจะต้องเป็นไปตามระบบ คุณธรรม ซึ่งหมายความว่าต้องพิจารณาถึงความรู้ความสามารถ ความเป็นธรรม ประโยชน์ที่จะเกิดกับทางราชการ ต้องเป็นกลางทางการเมือง จะใช้ความคิดเห็นทางการเมือง ความรักความชอบส่วนตัว หรือเห็นแก่ประโยชน์ของพวกพ้องไม่ได้ ซึ่งไม่เป็นไปตามระบบคุณธรรม ตนได้เรียนในประการที่ 2 ตามที่นายกรัฐมนตรีได้แก้มาในคำร้องทุกข์ของตนนั้น โดยนายกฯได้อ้างว่าได้ปฏิบัติไปตามระบบคุณธรรม ที่ได้กำหนดไว้ในทางราชการ ได้พิจารณาถึงประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับทางราชการ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งหรือเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง มิได้กระทำไปเพื่อให้ตนออกจากตำแหน่งเลขาธิการฯ และเพื่อให้ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง และสามารถแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะ และไม่ได้ให้ตำแหน่ง ผบ.ตร.ว่างลงเพื่อการแต่งตั้งต่อไปด้วย

นายถวิลกล่าวอีกว่า ตนได้ชี้แจงต่อก.พ.ค.ว่า ที่นายกฯแก้คำร้องของตนมานั้นไม่เป็นความจริง กล่าวคือ 1. ที่นายกรัฐมนตรีบอกว่าได้มอบหมายงานให้ตนได้ปฏิบัติงานอำนวยการด้านนโยบาย ความมั่นคงแห่งชาติทั้งระยะเร่งด่วน และการบริหารราชการแผ่นดินทั้ง 4 ปี บรรลุผล และยังพูดด้วยซ้ำว่าการโยกย้ายตนไปนั้นเพื่อโยกย้ายจากงานปฏิบัติไปสู่งาน นโยบายระดับบน เป็นการเพิ่มขอบเขตหน้าที่ความรับผิดชอบด้วยซ้ำไป ซึ่งตนได้แก้ไปว่า 1. งานทั้งหลายทั้งปวงที่นายกรัฐมนตรีได้แก้คำร้องทุกข์มานั้นตนเมื่ออยู่ใน ตำแหน่ง เลขาฯสมช.ปฏิบัติได้เต็มที่อยู่แล้ว อยู่ในขอบเขตหน้าที่ของตนอยู่แล้ว นอกจากนั้นตำแหน่งเลขาฯสมช.เป็นตำแหน่งที่มีหน้าที่ตามกฎหมาย จากต่างตำแหน่งที่ได้โอนย้ายตนมา ซึ่งไม่มีหน้าที่ตามกฎหมายโดยตรง 2. ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายข้าราชการประจำที่ตนมาดำรงตำแหน่ง ถึงแม้จะวงเล็บว่านักบริหารระดับสูง แต่ลักษณะงานไม่ได้เป็นลักษณะงานบริหาร แต่เป็นงานวิชาการหรืองานให้คำปรึกษาแนะนำมากกว่า

“ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีที่ได้กำกับดูแลผม ก็ไม่ได้มอบหมายงานอย่างที่กล่าวอ้าง ซึ่งผมได้แนบบัญชีงานที่ผมได้รับในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา ให้ ก.พ.ค.ด้วย จะเห็นได้ว่าเป็นงานเล็กๆน้อยๆ เป็นงานที่ไม่ได้มีความสลักสำคัญอะไร อย่างที่กล่าวอ้างเลย ซึ่งผมเห็นว่าการที่โยกย้ายผมส่งผลเสียต่อส่วนรวม ไม่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ทำให้ผมรู้สึกไม่สบายใจ เพราะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ตามความรับผิดชอบ ความรู้ความสามารถประสบการณ์ที่ผมมีอยู่ ไม่คุ้มค่ากับเงินเดือนและค่าตอบแทนที่ผมได้รับ” นายถวิลกล่าว

นายถวิลกล่าวว่า ประการสุดท้ายตนได้นำเรียนกับ ก.พ.ค.ว่าระบบคุณธรรมนั้นเป็นหัวใจ เป็นทั้งจิตวิญญาณระบบราชการ หากราชการเป็นอย่างนี้ ระบบราชการจะมีประสิทธิภาพ มีคุณภาพ ปฏิบัติงานให้ตอบสนองต่อประชาชนต่อส่วนรวมสังคมไม่ได้เลย นอกจากนั้นยังจะทำให้ข้าราชการเสียกำลังใจ ผู้ที่ตั้งใจมุ่งมั่นปฏิบัติหน้าที่รับผิดชอบด้วยความซื่อสัตย์สุจริตนั้น ถ้าไม่มีระบบคุณธรรมอยู่เขาจะเสียกำลังใจ เราจะหวังให้ระบบข้าราชการมีประสิทธิภาพ สนองต่อความต้องการของประชาชนไม่ได้เลย แต่จะเป็นระบบที่เต็มไปด้วยความฉ้อฉล มีการใช้อำนาจโดยมิชอบ ตนร้องต่อ ก.พ.ค.เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม โดยส่วนตัวก็จริง แต่หวังว่าการดำเนินการครั้งนี้มีผลกระเทือนถึงข้าราชการอื่นๆที่ไม่ได้ความ เป็นธรรม จากการปฏิบัติของฝ่ายการเมือง ตนเชื่อมั่นในระบบของ ก.พ.ค.ว่าจะสามารถวินิจฉัยเรื่องนี้ สร้างบรรทัดฐานระบบคุณธรรมให้เป็นหลักประกันแก่ข้าราชการพลเรือนเป็นอย่างดี ที่สำคัญเป็นหลักประกันให้ระบบราชการที่จะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนา ประเทศต่อไป

“นายศราวุธ เมนะเศวต ประธาน ก.พ.ค.ท่านเป็นหัวหน้าองค์คณะที่ 2 ด้วย ท่านได้บอกว่าความจริงแล้วมันสิ้นสุดเมื่อวานนี้ในระยะเวลา 5 เดือน หรือ 150 วัน ผมมีสิทธิร้องศาลปกครองควบคู่กันได้แล้ว แต่ว่าเนื่องจากระยะเวลาที่ผ่านมานายกฯได้ขอขยายเวลาการแก้คำร้องทุกข์ของผม ออกไป 2 ครั้ง เนื่องจากประสบปัญหาอุทกภัย ระบบของก.พ.ค.จึงยืดเยื้อออกไปอีก แต่ท่านได้รับปากว่าจะเร่งดำเนินการให้เสร็จภายใน 30 วัน” นายถวิลกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีแนวโน้มที่จะมีสิทธิ์ชนะหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ตนตอบไม่ได้ แต่เชื่อมั่นว่าตนได้รับความคุ้มครอง และเชื่อมั่นในคณะกรรมการ ก.พ.ค.อย่างที่เรียนแล้ว ส่วนจะแพ้หรือชนะมันบอกไม่ได้ เมื่อถามว่า ถ้าการพิจารณาของ ก.พ.ค.ไม่ได้เป็นประโยชน์ตามที่คาดหวังจะทำอย่างไรต่อไป นายถวิลกล่าวว่า ตนจะต้องดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่าจะยื่นเรื่องต่อศาลปกครองหรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า จะพิจารณาดูก่อน ตนเรียกร้องความเป็นธรรม ต้องดูว่าถ้ามีช่องทางไหนก็คงต้องไป และอย่างที่เรียนหลายๆ ครั้งว่าตนเคยเป็นหัวหน้าหน่วย มีอำนาจหน้าที่ มี่ความรับผิดชอบ ต้องทำควบคู่ไปด้วย นายกฯ มีอำนาจหน้าที่ที่จะโยกย้ายตน ก็ต้องมีความรับผิดชอบควบคู่ไปด้วย ตนจะดำเนินการเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด ตนไม่มีอคติเป็นการส่วนตัวกับนายกฯ และคณะรัฐมนตรีทั้งคณะแต่อย่างใด ทำทุกย่างตามสิทธิหน้าที่ที่มีอยู่

เมื่อถามว่า หาก ก.พ.ค.ให้ความเป็นธรรมจะสามารถกลับมารับตำแหน่งเดิมได้หรือไม่ นายถวิลกล่าวว่า ตนร้องขอ ก.พ.ค.ว่าให้ยกเลิกคำสั่งและมติ และขอกลับมาดำรงตำแหน่งเดิม แต่ก็ต้องรอดูผลของ ก.พ.ค.อีกครั้งด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น